ไลฟ์สไตล์

ย้อนรอยทวารวดีที่ "คูบัว"

ย้อนรอยทวารวดีที่ "คูบัว"

31 มี.ค. 2554

ในอดีต "เมืองคูบัว" คือศูนย์กลางความรุ่งเรืองของอาณาจักรทวารวดีในอดีตกาล หรือ "อำเภอเมืองราชบุรี"ในปัจจุบัน ชาวบ้านส่วนใหญ่สืบเชื้อสายไทย-ยวน และมีอาชีพทางด้านเกษตรกรรมภายใต้ขนบธรรมเนียบประเพณีดั้งเดิมอันมีลักษณะคล้ายคลึงกับชาวล้านนา โดยเฉพาะภาษาพูดและก

 ชาวบ้านคูบัว มีความสามารถในการแกะสลักไม้ การทอผ้าซิ่นตีนจกที่มีความสวยงาม "ผ้าจกตระกูลคูบัว" เป็นผ้าจกที่มีลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง เช่น ลายดอกเซีย ลายหักนกคู่ ลายโก้งเก้ง ลายหน้าหมอน และลายกาบ โดยในการจกจะใช้เส้นด้ายยืนสีดำ พุ่งดำ ไม่มีลายประกอบมากลาย พื้นผ้าเว้นพื้นต่ำไว้มากตามแบบของลวดลาย เพื่อจกให้เห็นลายชัดเจน ส่วนสีสันของเส้นใยก็มีหลากหลาย เช่น จะใช้พุ่งต่ำดำจกแดง แซมเหลืองหรือเขียว ฯลฯว่ากันว่าผู้ที่ไปเยือนเมืองคูบัว อันดับแรกต้องถามหา "ผ้าจกตระกูลคูบัว" เป็นอันดับแรก

  ในฐานะพ่อเมืองโอ่ง สุเทพ โกมลภมร  เล่าว่า อ.คูบัว ถือเป็นอู่อารยธรรม ทั้งยังเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่แสดงความเป็นมาตั้งแต่อดีต ชาวบ้านละแวกนี้มีศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนียม ประเพณีท้องถิ่นที่งดงามมากมาย และมีเอกลักษณ์ที่เหนียวแน่น ไม่เพียงแค่ "การทอผ้าคูบัวลายตีนจก" ที่ขึ้นชื่อ แต่ยังมี "จิปาถะภัณฑ์สถานบ้านคูบัว" แสดงความเป็นมาของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ยวน ที่อาศัยอยู่ที่เมืองคูบัวแห่งนี้ โดยเฉพาะโบราณสถานคูบัวได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นแหล่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย อันเป็นที่มาของการจัดงาน "ดิ โอลด์ ราชบุรี แฟร์ 2011" ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 บริเวณ วัดโขลงสุวรรณคีรี ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี

 "ทางจังหวัดได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุกภาคส่วนร่วมกันเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ เพื่อต้องการสนับสนุนการท่องเที่ยวทางด้านศิลปะซึ่งเป็นจุดขายของจ.ราชบุรี โดยเฉพาะวิถีชีวิต ความเจริญรุ่งเรือง ตั้งแต่สมัยก่อสร้างเมือง โดยรูปแบบการจัดงานจะเป็นลักษณะการยกย่องเชิดชูให้พี่น้องชาวบ้านได้รับรู้ความเป็นมา และตระหนักถึงคุณค่าของประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่น่าภาคภูมิใจของบรรพชนของชาวราชบุรีรวมทั้งจังหวัดอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ ได้แก่ นครปฐม สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี เรามีความจำเป็นต้องเรียนรู้ประวิติศาสตร์ เพื่อนำมาเป็นเครื่องสะท้อนให้เราไม่หลงลืมชาติพันธุ์ของตน" พ่อเมืองราชบุรีเผย

 ด้าน ประยงค์ พิมเพราะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคูบัว เผยว่า ภายในงานยังได้จัดให้มีกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายย้อนยุค การประกวดนางงอม อายุ 60 ปีขึ้นไป การประกวดร้องเพลงเด็ก การละเล่น-รำวงย้อนยุค การชกมวยไทย มวยตับจาก มวยปิดตา การแข่งขันจับหมู การแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด คอนเสิร์ตจากนักร้องชื่อดัง รวมไปถึงการจัดนิทรรศการให้ความรู้ในเชิงวิชาการ และการจำหน่ายสินค้าของดีเมืองราชบุรีในราคาพิเศษอีกด้วย

 "ส่วนกิจกรรมที่ถือเป็นไฮไลท์ของงานคือ การจัดแสดง แสง เสียงย้อนรอยอดีตเมืองราชบุรี เมื่อสมัยทวาราวดีที่เมืองคูบัวเป็นเมืองท่าเรือตลาดการค้าจนลุล่วงสู่ยุคกรุงศรีอยุธยาและธนบุรี ซึ่งเมืองราชบุรีเป็นดินแดนที่ข้าศึกมักเคลื่อนทัพผ่านเพื่อเข้ามาโจมตีเมืองหลวง การแสดงยังได้เล่าถึงความเป็นมาของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ยวน ที่เข้ามาอาศัยที่เมืองคูบัว และแทรกให้เกิดการรักชาติ ความสมานฉันท์ของคนในชาติ ผ่านจินตภาพประกอบแสง สี เสียง ม่านน้ำ และเทคนิคพิเศษตระการตาเรื่อง "คูบัวราชบุรี เรืองสถิตฟ้า" โดยจะจัดแสดงในค่ำคืนวันที่13-15 เมษายน เวลา 19.00 น.  ผู้ร่วมงานสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย" นายกอบต.แจกแจงรายละเอียด

 ขณะที่ ไกรสร กลับทวี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดราชบุรี กล่าวว่าเชิญชวนให้มาเที่ยวชมกิจกรรมต่างๆ อาทิ งานปอยขันโตกรวมใจไทย-ยวน ราชบุรี 207 ปี วันที่ 12 เมษายน บริเวณโรงเรียนห้วยไผ่  งานสืบสานวัฒนธรรมไทยทรงดำ บ้านหัวเขาจีน  อ.ปากท่อ งานสงกรานต์วัดขนอน สืบสานวัฒนธรรม 4 ภาค วันที่ 13 เมษายน ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม วัฒนธรรมสงกรานต์ไทยมอญลุ่มน้ำแม่กลอง วันที่ 15 เมษายน วัดบ้านม่วง อ.บ้านโป่ง ประเพณีเหยียบหลังกะเหรี่ยง วัดแจ้งเจริญ อ.วัดเพลง ประเพณีสงกรานต์ลาวเวียงราชบุรี วันที่ 16-18 เมษายน บริเวณวัดบ้านสิงห์ อ.โพธาราม และงานอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมไทยทรงดำดอนคลัง วันที่ 25 เมษายน บริเวณโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการดอนคลัง อ.ดำเนินสะดวก 

 เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ที่ "เมืองโอ่ง...ราชบุรี" มีเรื่องราวศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และกิจกรรมดีๆ รอให้สัมผัสอีกเพียบ