'เครื่องประดับแบรนด์ไทย' เฉิดฉายบนเวทีโลก
ทำความรู้จัก 'เครื่องประดับแบรนด์ไทย' ที่ไปสร้างปรากฏการณ์บนเวทีระดับโลก “A.CEMI” ในแฟชั่นโชว์ล่าสุดบนรันเวย์ "นิวยอร์ก แฟชั่น วีค 2023" กับการอวดโฉมคอลเลคชั่น ออทั่ม/วินเทอร์ 2023 "รีบลูม รีเชน"
สร้างชื่อเสียงให้วงการแฟชั่นไทยได้เป็นที่รู้จักบนเวทีระดับโลกอีกครั้ง เมื่อแบรนด์เครื่องประดับแบรนด์ไทย “เอเซมิ” (A.CEMI) ที่โดดเด่นด้วยกลิ่นอายการออกแบบซึ่งผสมผสานระหว่างความเป็นไทยและญี่ปุ่นเข้าด้วยกันได้อย่างน่าสนใจ ได้รับเกียรติให้ไปจัดแฟชั่นโชว์อวดโฉมเครื่องประดับบนรันเวย์ “นิวยอร์ก แฟชั่น วีค 2023” คอลเลคชั่นออทั่ม/วินเทอร์ 2023 ในชื่อ “รีบลูม รีเชน” (REBLOOM RECHAIN)
“เอเซมิ” เป็นเครื่องประดับแบรนด์ไทยที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2018 โดยครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ฝีมือเฉียบ “แนน” ภัทรียา คงสุภาพศิริ ที่มีดีกรีด้านการออกแบบจาก Hiko Mizuno College of Jewelry ประเทศญี่ปุ่น
“แนวคิดหลักในการออกแบบเครื่องประดับคือการผสมผสานความเป็นญี่ปุ่น และไทยที่มีความมินิมอล และเพิ่มลูกเล่นให้เหมาะกับคนทุกสไตล์ อย่างการใช้วัสดุที่มีความหลากหลายบนดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ แต่สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ง่าย เหมาะกับทุกวาระโอกาส อีกทั้งเรายังใส่ใจกับมาตรฐานการเลือกใช้วัสดุเป็นอย่างมาก แบรนด์เลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติที่ทุกชิ้นจะถูกคัดสรรโดยนักอัญมณีศาสตร์ ที่การันตีคุณภาพด้วยใบรับรอง ส่วนมุกสีอมชมพูเป็นมุกแท้ที่คัดสรรให้มีความมันวาวเงางามกว่ามุกทั่วไป ตั้งแต่มุกทรงหยดน้ำไปจนถึงมุกทรงหัวใจหายาก และที่สำคัญเครื่องประดับทุกชิ้นต้องได้มาตรฐานสากล เพราะเราอยากนำแบรนด์ไทยให้เติบโตในตลาดโลก ด้วยการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ โดยจะมีเทคนิคพิเศษเฉพาะในการผลิตเครื่องประดับ อาทิ เทคนิคการประดับมุกบนตัวเรือนอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เครื่องประดับมีความแข็งแรงทนทานต่อทุกสถานการณ์”
สำหรับคอลเลคชั่น ออทั่ม/วินเทอร์ 2023 “รีบลูม รีเชน” เป็นเครื่องประดับแบรนด์ไทยที่เกิดจากการผสานระหว่างสิ่งของที่ต่างขั้วกันอย่างห่วงโซ่ที่เป็นตัวแทนของความแข็งแกร่ง และดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของความนุ่มนวล โดยมีจุดเชื่อมความงามเป็นไข่มุกสีพาสเทล และพลอยหลากสีที่เป็นตัวแทนความหลากหลายของผู้คน เพื่อสะท้อนการกลับมาเบ่งบานใหม่ อีกครั้งหลังคลายวิกฤตโควิด-19 โดยการออกแบบดอกไม้ของคอลเลคชั่นนี้ถูกดีไซน์มาในรูปทรงที่มีความโมเดิร์น โดยใช้ศิลปะขั้นสูงในการนำเพชรทรงแฟนซีมาร้อยเรียงเป็นดอกไม้อันงดงาม อาทิ กลีบดอกไม้ที่ประกอบจากเพชรทรงมาคี ใบไม้ใช้เพชรทรงหยดน้ำ และเกสรดอกไม้ที่ทำจากเพชรทรงปริ้นเซส รวมถึงการออกแบบลายโซ่ที่ถูกดีไซน์ให้มีความทันสมัยเหมาะกับผู้หญิงแต่ละสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์แบบเรียบง่ายเหมาะสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน โซ่ขนาดใหญ่สำหรับสาวเท่ และโซ่ที่ใช้เทคนิคการถักแบบถี่เพื่อนำเสนอความเรียบหรู
อีกหนึ่งจุดเด่นของคอลเลคชั่นนี้คือการคัดสรรพลอยน้ำงามที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานการเรียงพลอยของ วิกตัวร์ เดอ คาสเตลลาน และการเลือกใช้สีที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพวาดสีน้ำมันของ โกลด โมเนต์ โดยโทนสีหลักที่เลือกใช้คือ สีเขียวมิ้นท์, สีม่วงลาเวนเดอร์, สีส้มครีม, สีชมพูพีช, สีม่วงอเมทิสต์ และสีฟ้าน้ำทะเล
นอกจากนี้ “แนน” ภัทรียา ยังได้แนะนำเคล็ดลับการเลือกเครื่องประดับอัญมณีที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาสว่า สำหรับคนที่ชื่นชอบพลอย ขอแนะนำตัวเลือกที่ดีอย่างพลอยสีขาวเพราะเป็นชิ้นที่สวมใส่ง่าย อาจจะเริ่มต้นจากโอปอล หรือเพทายสีขาว ในรูปทรงที่มีความโมเดิร์นอย่างทรงบาแกตต์ หรือปริ้นเซส แต่ถ้าใครที่ชอบแต่งตัวมีสีสันแนะนำให้เลือกเครื่องประดับพลอยสีฟ้าบลูโทแพซ, พลอยสีชมพูพิงค์ทัวร์มาลีน, สีม่วงอย่างอเมทิสต์ หรืออาจจะเพิ่มความโดดเด่นด้วยการเลือกเป็นเพชรในรูปทรงที่มีความแฟนซีอย่างมาคีแพร์ หรือเพชรรูปทรงไข่ หรือใครที่ชอบความคลาสสิก เรียบหรู อาจจะเลือกเครื่องประดับเป็นมุกเคชิเล็กๆ ในโทนสีขาว, สีเทา หรือสีชมพูอ่อนก็ได้เช่นกัน เพราะเป็นชิ้นที่สามารถใส่ได้กับทุกโอกาสและสามารถเติมเต็มลุคให้กับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี