5 ดีไซน์เนอร์ไทย รังสรรค์ 'ผ้าไทย' เป็น คอลเลคชั่น สุดเอ็กซ์คลูชีฟ
จากแนวคิด วัฒนธรรมอันเคลื่อนคล้อย สู่แรงบันดาลใจของ 5 ดีไซน์เนอร์ไทย กับการรังสรรค์เอ็กซ์คลูชีฟ คอลเลคชั่น จาก 'ผ้าไทย'
“วัฒนธรรมอันเคลื่อนคล้อย” หรือ Moving Culture แนวคิดจากเทรนด์หลักในหนังสือ Thai Textiles Trend Book Spring/Summer 2023 ที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับหน้าที่เป็นบรรณาธิการบริหาร ถูกนำมาเป็นโจทย์สำคัญให้ 5 ดีไซเนอร์ไทย ระดับแถวหน้า นำมาเป็นโจทย์หลักในการออกแบบเอ็กซ์คลูซีฟ คอลเลคชั่น จาก ผ้าไทย ซึ่งได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกด้วยแฟชั่นโชว์ครั้งสำคัญในงาน “เอ็มโพเรี่ยม เอ็มควอเทียร์ เซ้นส์ ออฟ ไทย” สืบสานใจ หัตถศิลป์ไทยสู่สากล ซึ่งจัดขึ้นเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 91 พรรษา และชื่นชมในพระกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า สิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการส่งเสริมและพัฒนางานผ้าไทย และหัตถศิลป์ไทยจาก 4 ภูมิภาคของไทย
สำหรับ 5 ดีไซเนอร์ไทย ประกอบด้วย ศิริชัย ทหรานนท์ จากแบรนด์ THEATRE, พลพัฒน์ อัศวะประภา จากแบรนด์ ASAVA, ภูภวิศ กฤตพลนารา จาก แบรนด์ ISSUE, วิชระวิชญ์ อัครสันติสุข จากแบรนด์ WISHARAWISH และธนาวุฒิ ธนสารวิมล จากแบรนด์ T AND T ได้ออกแบบผลงาน คอลเลคชั่น พิเศษตามแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยนำผ้าไทยจาก มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาออกแบบโดยผสมผสานผ้าพื้นเมืองจากหมู่บ้านต่างๆ ที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้า สิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้ทรงเข้าไปพัฒนาและต่อยอดให้กับชาวบ้าน โดยทั้ง 5 ดีไซน์เนอร์ ได้รังสรรค์แต่ละชิ้นงานได้อย่างโดดเด่น เน้นงานดีไซน์ผ้าไทยที่สวมใส่สบาย ใช้ได้ในจริงในชีวิตประจำวันและยังคงถ่ายทอดซิกเนอเจอร์ของแต่ละแบรนด์ไว้ได้อย่างชัดเจน
เริ่มจากแบรนด์ THEATRE คอนเซ็ปต์คือ NEO-TRIBES อารยธรรมแห่งโลกใหม่ โดยใช้ผ้าชาวเขาจากมูลนิธิศิลปาชีพฯ มาออกแบบผสมผสานกับผ้ายกฝ้ายจากลำพูน เน้นโทนสีที่อ่อนลง เช่น สีคราม ฟ้า เทา สามารถสวมใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เน้นซิลูเอทง่ายๆ สวมใส่สบาย ดูสดใสและอ่อนวัยลง โดยเติมรายละเอียดของความเป็น Sustainable Fashion ด้วยการนำขวดพลาสติกที่เป็นสีๆ มาตัดแล้วปักลงบนตัวเสื้อเพื่อให้เกิดลูกเล่นแปลกใหม่
แบรนด์ ASAVA ต้องการนำเสนออัตลักษณ์และเสน่ห์ที่แตกต่างกันของผ้าพื้นเมืองในแต่ละท้องถิ่นมาพัฒนาและตีความใหม่ให้ผ้าไทยมีความเป็นแฟชั่น ใส่ได้สนุกกับคอนเซ็ปต์ NATURAL EXTRACTION มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ นำเสนอผ่านซิกเนเจอร์ซิลูเอทของอาซาว่าที่คงไว้ซึ่งความเรียบโก้และสง่างามในรูปแบบโมเดิร์นเดย์แวร์อย่างสูท แจ็กเกต และเสื้อทรงเคป รวมถึงค็อกเทลเดรสให้ผู้หญิงยุคใหม่สามารถสวมใส่หรือมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ในหลากหลายโอกาส พร้อมตัดเย็บด้วยเทคนิคตัดต่อลายทาง และเทคนิคการต่อผ้าให้เกิดลวดลายที่น่าสนใจ ยกระดับผ้าไทยและหัตถศิลป์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
แบรนด์ ISSUE คอนเซ็ปต์คือ VIBRANT VARIEGATION โดยนำผ้าพิมพ์ลายดอก จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ มาผสมผสานกับผ้าเข็นมือ ภายใต้โทนสีตาม Trend Book อย่างเฉดสีตามธรรมชาติ ที่สะท้อนถึงความรักที่มีต่อโลก เช่น กลุ่มโทนสีน้ำตาล สีต้นหมากแดง สีแก่นกฤษณา สีใบกล้วยแดงอินโดด่าง และสีกลีบดอกเอื้องคำหลวง นำเสนอผ่านเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่ใช้เทคนิคการตัดต่อ ผสมผสานลวดลายที่แตกต่างอย่างลงตัว เติมลูกเล่นอย่างงานถักโครเชต์ เป็นรูปดอกไม้ สวนดอกไม้ ผีเสื้อ โดยคอลเลคชั่นนี้มีไอเทมเด่น 5 ชุด ได้แก่ เดรส เบลเซอร์ กางเกง ที่คาดผม และกระเป๋า
แบรนด์ WISHARAWISH ออกแบบชุดคอคเทล 5 ชุด ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ด้วยลูกเล่นบนเสื้อผ้าอันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ผสานกับโจทย์ EXPRESSIVE EXOTIC ตัวตนข้ามวัฒนธรรม โดยใช้ผ้าไหมลายทางจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ มาออกแบบลวดลายใหม่ ผสมกับผ้าบาติกลายดอกไม้นามพระราชทาน ที่ผลิตมาเพื่อคอลเลคชั่นนี้โดยเฉพาะ จึงมีความท้าทายตรงที่ต้องนำลายกราฟฟิกมาออกแบบคู่กับลายดอกไม้ สำหรับสีสันจะเน้นความสีสด ภายใต้รูปแบบที่สวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ที่สำคัญการตัดเย็บครั้งนี้ได้ใช้เทคนิคที่เน้นการใช้ผ้าให้คุ้มค่าที่สุด สอดคล้องกับแนวคิด Zero Waste ที่กำลังเป็นเทรนด์ในปัจจุบัน
ปิดท้ายที่ แบรนด์ T AND T ออกแบบ 5 ชุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ DREAM CATCHER มิติแห่งความฝัน โดยนำผ้าขาวม้าจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ มาผสมผสานกับผ้าชาวเขา เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าทอใยกันชงจากเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และนาหว้าโมเดล เป็นชุดที่สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ภายใต้เทคนิคที่ยังคงคุณค่าและความสวยงามของผ้าไทย แต่ลดทอนสีสันให้เป็นสีเอิร์ธโทน และเติม raffle ให้เกิดระบายพลิ้วไหว เน้นความหวานที่ซ่อนความซุกซน ด้วยการนำโบว์มาประดับลงบนชุดในสไตล์ของแบรนด์ที่เน้นความโรแมนติก
ร่วมชมผลงานจาก 5 ดีไซน์เนอร์ ในนิทรรศการชุดผ้าไทย ไทย เท็กซ์ไทล์ เทรนด์ ภายในงาน “เอ็มโพเรี่ยม เอ็มควอเทียร์ เซ้นส์ ออฟ ไทย” ได้ตั้งแต่วันนี้ - 14 ส.ค. 2566 บริเวณเอ สเปซ ชั้น จี ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์