ทำความรู้จัก กลไกของนาฬิกาโรเล็กซ์ (Movement) เครื่องมือขับเคลื่อนเรือนเวลาอันไม่หยุดนิ่ง | คมชัดลึก

ในนาฬิกาโรเล็กซ์แต่ละเรือน แต่ละคอลเลกชัน กลไกที่ถูกนำมาใช้ในแต่ละเรือนต่างถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายอย่างเฉพาะเจาะจง ไม่ว่าจะเป็นการรังสรรค์กลไกที่มีชิ้นส่วนประกอบมากถึง 380 ชิ้น ฟังก์ชันการแสดงเวลาใน 2 ไทม์โซน ไปจนถึงฟังก์ชันการปรับเปลี่ยนวันเวลาแบบอัตโนมัติ โดยแต่ละกลไกของเรือนเวลาอันสุดพิเศษนี้ ผ่านการจดสิทธิบัตรและทดสอบจากทางศูนย์โรเล็กซ์มาแล้วอย่างพิถีพิถัน จนได้เป็นกลไกที่ถูกนำมาใช้ในนาฬิกาโรเล็กซ์ในแต่ละเรือนให้คนรักนาฬิกาได้สวมใส่ ใครอยากรู้ว่ากลไกแต่ละแบบมีฟังก์ชันการใช้งานและมีความพิเศษอย่างไร เราไปดูพร้อมๆ กันเลย!   
 

กลไก 3135-WORKHORSE 
กลไก 3135-WORKHORSE นับเป็นกลไกที่โด่งดังและถูกพูดถึงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นกลไกอัตโนมัติที่มีความแข็งแรงและทนทานที่สุดของโรเล็กซ์ สามารถทนแรงกระแทกและทนต่อกระแสไฟฟ้าได้ดี และยังเป็นกลไกที่พบได้ในโรเล็กซ์หลายรุ่น เช่น Rolex Submariner, Rolex Yacht-Master, Rolex Sea-Dweller และ Rolex Datejust ซึ่งความหนาของนาฬิกาแต่ละเรือนจะอยู่ที่ประมาณ 6 มม. และมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 26.5 มม. เหมาะสำหรับการใช้งานที่สวมใส่ในชีวิตประจำวันหรือเวลาออกกำลังกาย และที่สำคัญกลไก 3135-WORKHORSE นี้ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นาฬิกาโรเล็กซ์ Sea-Dweller มีราคาสูงและราคาไม่ตกอีกด้วย

กลไก 4030 และ 4130-ZENITH EL PRIMERO CALIBER
มาต่อกันที่ กลไก 4030 และ 4130-ZENITH EL PRIMERO CALIBER ของนาฬิกาโรเล็ก Daytona กัน เป็นกลไกที่ถูกผลิตโดย Zenith ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อด้านการผลิตกลไกแบบ Chronograph Movements อันโด่งดัง จนโรเล็กซ์ได้นำมาใช้ในรุ่น Rolex Daytona ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1963 แต่กว่ากลไก 4030 ที่ถูกผลิตโดย Zenith จะถูกนำมาใช้งานนั้นต้องผ่านการปรับปรุงกว่า 200 ครั้งเลย กว่าจะได้เป็นกลไกที่มีความเที่ยงตรงและมีความทนทานตามแบบฉบับของโรเล็กซ์ ซึ่งในปัจจุบัน กลไก 4030 ถูกแทนที่ด้วยกลไก 4130 ซึ่งเป็นกลไกที่อัปเกรดความคงทนและความเที่ยงตรงขึ้นไปอีกระดับ นอกจากนี้ยังเป็นกลไกที่โรเล็กซ์ผลิตขึ้นมาเองโดยเฉพาะเลย 
 

กลไก 9001
กลไก 9001 เป็นกลไกที่ขึ้นชื่อว่ามีความซับซ้อนที่สุดกลไกหนึ่งของนาฬิกาโรเล็กซ์เลย ซึ่งถูกนำมาใช้ในรุ่น Rolex Sky-Dweller เท่านั้น โดยใช้ชิ้นส่วนในการผลิตมากถึง 380 ชิ้น และได้รับการจดสิทธิบัตรถึง 7 ฉบับ นับเป็นกลไกที่มีชิ้นส่วนประกอบและมีความซับซ้อนอย่างมาก เป็นนาฬิกาโรเล็กซ์ที่ใช้ระบบ Self-Winding ขับเคลื่อนโดย Bezel System หรือที่เรียกกันอย่างคุ้นหูว่า Ring Command Bezel นั่นเอง ซึ่งฟังก์ชันการทำงานที่โดดเด่นของกลไกนี้ คือ การแสดงเวลาได้ถึง 2 ไทม์โซน ให้คุณสามารถเลือกเปลี่ยนไทม์โซนโดยไม่กระทบกับเวลาของอีกสถานที่หนึ่ง และยังแสดงวันที่และเดือนไปพร้อมๆ กันได้ในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญไม่ว่าเดือนนั้นจะมี 30 วันหรือ 31 วัน กลไกนี้ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้อัตโนมัติ แต่สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ที่มีจำนวนวันแตกต่าง อาจยังต้องใช้วิธีแมนนวลอยู่นั่นเอง 

กลไก 3255
สำหรับกลไก 3255 ถือเป็นกลไกใหม่ล่าสุดของทางโรเล็กซ์ที่ถูกนำมาใช้แทนกลไก 3135 ซึ่งเราจะพบเห็นได้ในนาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ๆ โดยในปัจจุบันรุ่นที่ใช้กลไกนี้ ได้แก่ Rolex Day-Date, Rolex GMT Master II และ Rolex Dayjust ในส่วนฟังก์ชันการทำงาน กลไกนี้มี Power Reserve ที่สามารถเก็บประจุพลังงานสำรองของนาฬิกาได้มากถึง 70 ชั่วโมง แถมยังบอกเวลาได้แม่นยำกว่าเดิมถึง 2 เท่า หากพูดถึงประสิทธิภาพและความน่าลงทุนระหว่างกลไกเดิม 3135 กับกลไกใหม่ 3255 บอกเลยว่ากลไกใหม่ 3255 ชนะไปอย่างแน่นอน ด้วยประสิทธิภาพความคงทน รวมถึงลูกเล่นใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิมนั่นเอง 

ความพิเศษของนาฬิกาโรเล็กซ์ไม่ได้มีเพียงแค่กลไกที่ใช้ขับเคลื่อนเรือนเวลาอันแสนพิเศษเหล่านี้เท่านั้น เพราะนาฬิกาโรเล็กซ์ทุกเรือนล้วนถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูงตามแบบฉบับของทางโรเล็กซ์โดยเฉพาะ เพื่อให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของเรือนอันสมบูรณ์แบบ ได้ท่องโลกไปกับห้วงแห่งกาลเวลาที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และสำหรับใครที่กำลังมองหา Rolex Watches สักเรือนไว้เป็นเครื่องบอกเวลาสุดหรู และไอเทมที่ตอบโจทย์ในการท่องโลกสุดพิเศษล่ะก็ ที่ Pendulum ตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาโรเล็กซ์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เราพร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกสรรเรือนเวลา การใช้งาน ไปจนถึงการดูแลรักษา เพื่อให้คุณได้เป็นเจ้าของเรือนเวลาและเดินทางไปกับห้วงเวลาในแบบฉบับของตนเองได้อย่างประทับใจ สามารถเลือกซื้อนาฬิกาโรเล็กซ์ทุกคอลเลกชันได้แล้ววันนี้ที่ เว็บไซต์ Pendulum หรือ เพนดูลัม โรเล็กซ์ บูติก ทุกสาขา