ไลฟ์สไตล์

ศิลป์แห่งแผ่นดิน:สวัสดีปี่อ้อ

ศิลป์แห่งแผ่นดิน:สวัสดีปี่อ้อ

10 มิ.ย. 2555

สวัสดีปี่อ้อ : ศิลป์แห่งแผ่นดิน โดย... ศักดิ์สิริ มีสมสืบ

          ค่ำคืนวันที่ 5 มิถุนายน มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ เวทีแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย - กัมพูชา จัดโดยสมาคมมิตรภาพไทย - กัมพูชา สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ
 
          ผมรู้สึกยินดีปรีดา ปราโมทย์ จนออกหน้าออกตา เพราะว่าได้ดูได้ชมได้ฟัง แถมได้สัมผัสด้วยมือ ลูบๆ คลำๆ อีกต่างหาก
 
          ได้ชมนาฏศิลป์ ฟ้อนรำ ฟังดนตรี เพลง กันตรึม ขับเจรียง จากศิลปินฝั่งไทย และศิลปินฝั่งกัมพูชา เพื่อนบ้านเราที่ข้ามแดนมาร่วมแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ลำนำ ดนตรี คีตศิลป์ สืบสานวัฒนธรรม พนมดงแร็ก ผมได้จับได้ลูกได้คลำ ทั้งซอ พิณ กลอง ส่วนนางอัปสร นางฟ้อน นางรำนั้น ชมได้แต่ตา นางฟ้านางสวรรค์ อยู่สูงสุดสอย ชาวดินต่ำต้อยได้แค่สอยดอกหญ้ามาครอง “กระต่ายน้อยคอยมองไม่แคล้วต้องหมองซบเซา” ก็ว่าไปตามเพลงเพราะความครื้นเครงในอารมณ์ที่ได้ชม คีตนาฏศิลป์หลากหลายสุนทรียรส บนเวที ตลอดช่วงเวลา 2 ชั่วโมง
 
          ผมอยู่ในช่วงทำเพลง “กัมพูชา” อยู่พอดี เพลง “มหาศิลานคร” ที่นำมาร้องใน (ช่วงพิธีปิด) งาน แต่งเสร็จก่อนขึ้นร้องบรรเลงบนเวทีแบบหมาดๆ หวุดหวิดจะคอขาดเลยทีเดียว
 
          ผมมางานนี้ด้วยความมุ่งหมายจะได้ฟังเสียง กันตรึม พิณ แคน ซอ และ “ปี่อ้อ”
 
          อยากขอลองเป่าก็เกรงใจท่านศิลปิน ของเขามีครู อยู่ดีๆ จะไปคว้ากระบี่คู่กายของจอมยุทธ์มาถือ ดูจะไม่เหมาะไม่ควร ไม่งาม ได้แต่เลียบๆ เคียง ขอแตะนิด แตะหน่อย
 
          ถามอาจารย์ท่านหนึ่งว่า “ปี่อ้อ” ทำจากอะไร ใครๆ ก็ตอบได้ว่าย่อมต้องทำจาก “ไม้อ้อ” ต้นอ้อ...หญ้าชนิดหนึ่ง มีข้อ มีปล้อง ดอกเป็นพู่สีขาว
 
          “ผมพี่ขาวเหมือนดังดอกอ้อ โดนต่อมันต่อย” เป็นพู่แบบพู่ลิเกนั่นแหละครับ คนขะแมร์ เรียก “แตร็ง” คำว่า ปี่อ้อ ไม่ได้มาจากชื่ออ้อ แต่มาจากเสียงที่ดัง อ้อๆ แอ้ๆ วิธีทำคือ นำลำอ้อมาทะลวงปล้อง รีดปลายดานหนึ่ง ด้วยความร้อนให้แบนแล้วใช้ไม้(ไผ่) ประกบกระหนีบไว้ เจาะรูระดับเสียงแบบปี่ทั่วไป เวลาเป่าใช้น้ำลูบบ่อยๆ ตรงปาก (ปากปี่นะครับไม่ใช่ปากคนเป่า)
 
          ความชุ่มชื้นจะช่วยเรียกเสียง ใช่ว่าใครๆ ก็เป่าได้ จะต้องฝึกฝนจนคุ้นเคย จึงจะเกิดทักษะการสัมผัส การระบายลม เสียงปี่อ้อ นุ่ม ทุ้มแบบโหยๆ ให้อารมณ์สงบแบบเหงาๆ (เผลอๆจะเศร้า) ดูท่าจะ “เล่นยาก” เห็นลุงศิลปินสุรินทร์ เป่าจนแก้มป่อง อกผายขยายใหญ่แบบผนึกลมปรานเต็มที่ มีเสียงเล่าอ้างอิง พิงยันว่า มีศิลปินสูงอายุถึงกับหงายท้องเพราะระบายลมไม่ทัน บ้างก็ถึงกับฟันโยกเหงือกระบม เฮ้อ...แล้ววัยขนาดผมจะไหวไหมนี่ มาเที่ยวนี้หาช่องทางไว้วันหน้าจะมาใหม่อยากเจอชาวบ้านที่ทำปี่อ้อโดยตรง
 
          พูดถึงงานแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่เกริ่นกล่าว ผมเห็นกลุ่มบุคคลผู้เคลื่อนไหว ทั้งกายทั้งใจทั้งตัวทั้งหัวทั้งมือ ขับเคลื่อนงาน จนสำเร็จลุล่วงไปอย่างสวยงาม ที่น่าจะเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย คือ “สุรินทร์สโมสร” ทั้งติดต่อประสานทั้งจัดการอำนวยเอื้ออวย ดูแลศิลปินและภาพรวมรายการแสดง 
 
          ผมฐานะ “ศิลปิน” เล็กๆ ผู้มีส่วนร่วมในงานแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมครั้งนี้พลอยได้รับอานิสงค์ ได้เรียนรู้ ได้เปิดโลกการดู การฟัง ทั้งยังได้รู้จัก “ปี่อ้อ” มากยิ่งขึ้น ... จากที่เคยได้ฟังมาคราวนี้ได้เห็นได้จับ ครั้งต่อไปคงได้เป่าครับ
.......................................
(หมายเหตุ สวัสดีปี่อ้อ : ศิลป์แห่งแผ่นดิน โดย... ศักดิ์สิริ มีสมสืบ)