ไขข้อสงสัย 'ตรุษจีน' กับ 'สารทจีน' อย่างไร ตรงนี้มีคำตอบ | คมชัดลึก

ในทุกๆ ปีจะมีเทศกาลใหญ่ของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน อยู่ 2 เทศกาล คือ “ตรุษจีน” และ “สารทจีน” แต่ยังมีหลายคนสับสนว่า ทั้ง 2 เทศกาลนี้มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ คมชัดลึก จะพาไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน

เริ่มต้นด้วย "วันตรุษจีน" ซึ่งปี 2566 นี้จะตรงกับวันที่ 22 ม.ค. ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน รวมถึงคนไทยเชื้อสายจีนก็จะฉลองวันตรุษจีนกันอย่างคึกคักทุกปี เปรียบเทียบเหมือนวันสงกรานต์ที่เป็นวันปีใหม่ของไทย อีกทั้งการซื้อของไหว้ และการตั้งโต๊ะไหว้ในวันตรุษจีน จะเน้นไหว้เจ้าเป็นหลัก และจัดเครื่องไหว้แบบจัดเต็มมากๆ และยังมีการไหว้กันหลายรอบ

ส่วน "วันสารทจีน" ซึ่งปี 2566 นี้จะตรงกับวันที่ 30 ส.ค. เป็นวันสำคัญที่ลูกหลานชาวจีนจะแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยพิธีเซ่นไหว้ และยังถือเป็นเดือนที่ประตูนรกเปิดให้วิญญาณทั้งหลายมารับกุศลผลบุญได้ ส่วนของไหว้และการตั้งโต๊ะไหว้บรรพบุรุษก็จะไม่ได้จัดเต็มเท่าวันตรุษจีน

แต่เนื่องจาก "วันตรุษจีน" นั้นนอกจากจะต้องเตรียมของไหว้เทพเจ้าประจำปีใหม่แล้ว ก็ยังมีบางช่วงของวันปีใหม่ที่มีการตั้งโต๊ะไหว้บรรพบุรุษด้วยเช่นกัน (ส่วนวัน "สารทจีน" แต่วันที่จะไหว้บรรพบุรุษหรือไหว้ผีเป็นหลัก) ดังนั้นจึงมีความทับซ้อนกันนิดหน่อย และอาจเป็นเหตุผลให้หลายคนเกิดความสับสนดังกล่าว

สำหรับเรื่องการจัดเตรียมของไหว้ สำหรับ "วันตรุษจีน" ก็มีความแตกต่างกันกับของไหว้ "วันสารทจีน" เช่นกัน โดยหากเป็นของไหว้ ตรุษจีน จะเน้นเตรียมของไหว้ที่เป็นอาหารเจ เช่น เต้าหู้ เห็ดหอม เห็ดหูหนู วุ้นเส้น ผลไม้มงคล ข้าวสวย น้ำชา เพื่อนำมาไหว้เจ้าได้แก่ ไหว้เทพเจ้าโชคลาภ และไหว้เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตาประจำปี นอกจากนี้ในวันตรุษจีนยังมีการไหว้เจ้าที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้บรรพบุรุษ และให้ทานสัมภเวสีด้วย ซึ่งของไหว้ในกลุ่มหลังก็จะเป็นอาหารคาวและของหวานที่มีความหมายมงคล

ส่วนของไหว้ "วันสารทจีน" นั้น เนื่องจากเป็นวันที่เน้นไหว้ผีบรรพบุรุษเป็นหลัก ดังนั้นของไหว้จึงต้องใช้เป็นอาหารคาว อาหารหวาน และผลไม้ โดยเน้นเมนูที่บรรพบุรุษชื่นชอบ รวมถึงในวันสารทจีนก็ยังมีการไหว้เจ้าที่ อาจรวมถึงอาหารมีความหมายมงคลด้วยและไหว้ผีไม่มีญาติเพื่อเป็นการให้ทานอีกด้วย 

ที่มาข้อมูล : วิกิพีเดีย