เปิดขั้นตอน 'สรงน้ำพระ' สงกรานต์ 2566 พร้อมบทสวดขอขมา และคำกล่าวขอพร
หนึ่งในกิจกรรมสำคัญ ในช่วงเทศกาล สงกรานต์ 2566 คือการ 'สรงน้ำพระ' แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ขั้นตอน บทสวดขอขมา และคำกล่าวขอพร
สงกรานต์ คือ การเคลื่อนขึ้นของปีใหม่ในความเชื่อของไทย ปัจจุบันกำหนดวันเวลาอยู่ในช่วงวันที่ 13-15 เมษายน ของทุกปี แต่วันสงกรานต์นั้นคือ วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า วันมหาสงกรานต์ ส่วนวันที่ 14 เป็นวันเนา และวันที่ 15 เป็นวันเถลิงศก โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีพิธีสำคัญตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย นั่นคือ "สรงน้ำพระ" ที่ทำสืบต่อกันมาเป็นเวลานาน แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ขั้นตอนที่ถูกต้อง รวมทั้งบทสวดขอขมา และคำกล่าวขอพร ต้องใช้อย่างไรบ้าง
การ “สรงน้ำพระ” เป็นการแสดงให้เห็นถึง การเคารพและสักการะต่อ พระพุทธศาสนาครบทั้ง 3 ประการ ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นการเริ่มต้นสิ่งที่เป็นมงคลในวันปีใหม่ด้วย จะทำให้เกิดความสุขความร่มเย็นตลอดปีใหม่
ตามความเชื่อหลังการสรงน้ำพระอานิสงค์ผลบุญจะส่งผลให้เราปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและมีความสุข จิตใจผ่องใส สดชื่น สะอาด บริสุทธิ์ ปราศจากมลทิน ทำให้อยู่เย็นเป็นสุข เป็นมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว รวมถึงแผ่ผลบุญให้บรรพบุรุษ ญาติมิตร สรรพสัตว์ และเจ้ากรรมนายเวรได้อีกด้วย
การสรงน้ำ เนื่องในประเพณีสงกรานต์ยึดถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่อดีต โดยจะทำการสรงน้ำพระพุทธรูปก่อน แล้วจึงสรงน้ำพระสงฆ์ภายหลัง รวมทั้งมีการก่อพระเจดีย์ทราย และทำบุญทำทานเพื่อความเป็นสิริมงคล
การสรงน้ำพระนั้นต้องเตรียมน้ำอบไทย เครื่องหอม ผ้าอาบหรือสบงแล้วแต่ศรัทธา เมื่อสรงน้ำพระแล้วก็ถวายของ
การสรงน้ำพระแบ่งเป็น 2 แบบ คือ
- สรงน้ำพระพุทธรูป
- สรงน้ำพระภิกษุสามเณร
1. การสรงน้ำพระพุทธรูป
- สวดบทขอขมา (ก่อนการเคลื่อนย้ายองค์พระ)
ตั้งนะโมฯ 3 จบ ตามด้วย "ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต"
ซึ่งมีคำแปลว่า กายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 ที่ข้าพเจ้าได้ประมาทพลาดพลั้งในพระรัตนตรัย ด้วยความตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ขอพระรัตนตรัยได้โปรดยกโทษให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด
- ทำความสะอาดองค์พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนนำมาสรงน้ำ
เนื่องจากพระเป็นของสูงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าสิ่งของต่างๆ เหล่านี้ต้องเป็นของใหม่ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อพระรัตนตรัย
- ขั้นตอนแรกให้ใช้แอลกอฮอล์ชโลมเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน แล้วจึงสรงด้วยน้ำอุ่น โดยใช้สำลีชุบน้ำอุ่น ลูบไล้ตามซอกต่าง ๆ ให้ทั่ว แล้วนำไปผึ่งลม
- ให้ใช้คอตตอนบัดลูบเบา ๆ หมั่นปัดในซอกลึก ๆ ฝุ่นละอองจะหมดไป วิธีนี้เหมาะสำหรับพระที่จะเก็บเข้ากล่องนาน ๆ
- การขัดพระ ล้างพระ ควรทำด้วยความระมัดระวัง การใช้กรดอย่างอ่อน เช่น มะนาว และมะขาม
- เตรียมน้ำอบสำหรับสรงน้ำพระ
ให้เตรียมน้ำสะอาดใส่ขันใบใหญ่ ใส่เครื่องหอมลงไป เช่น น้ำหอม น้ำอบ น้ำปรุง และดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม มีสีสันสวยงาม เช่น ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ และดอกดาวเรือง เป็นต้น และเตรียมขันใบเล็กไว้สำหรับตักน้ำสรงองค์พระ
- จัดเรียงองค์พระและประดับโต๊ะด้วยดอกไม้
เมื่อทำความสะอาดเสร็จให้นำองค์พระจัดเรียงไว้บนโต๊ะเพื่อเตรียมทำการสรงน้ำ แต่ก่อนจะทำองค์พระวางที่โต๊ะต้องรองด้วยผ้าขาวบางเสียก่อนเพื่อความสะอาดและประดับตกแต่งโต๊ะด้วยดอกไม้หรือกลีบดอกไม้โรยให้สวยงาม
- คำกล่าวระหว่างสรงน้ำพระ สงกรานต์ 2566
ให้ตั้งนะโม 3 จบ ตามด้วย "อิมินา สิญฺจะเนเนวะ โรโค โสโก อุปัทวะโท นิพพันตุ สัพพะโส เอเต สุขี โหนตุ นิรันตะรัง" ขอสรงน้ำเพื่อให้ทุกข์โศกโรคภัยต่างๆ อันตรธานหายไป หลังจากนั้นจึงขอพรพระท่าน
- ย้ายองค์พระกลับสู่โต๊ะหมู่บูชา
หลังเสร็จพิธีทุกคนในบ้านรดน้ำครบแล้ว ก็ได้เวลาย้ายท่านกลับไปที่โต๊ะหมู่บูชาดังเดิม แต่ก็อย่าลืมทำความสะอาดโต๊ะเดิมก่อน แล้วเปลี่ยนผ้ารองฐานที่โต๊ะใหม่ทุกครั้ง แล้วจึงน้ำท่านกลับไปวางที่จุดเดิม ก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี แต่อย่างไรก็ดีชาวพุทธก็ควรไหว้ทุกวันพระเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป
2. การสรงน้ำพระภิกษุสามเณร
- จะใช้แบบเดียวกับอาบน้ำ คือ การใช้ขันตักรดที่ตัวท่าน หรือที่ฝ่ามือก็ได้ แล้วแต่ความนิยม
- หากเป็นการสรงน้ำแบบอาบน้ำพระ จะมีการถวายผ้าสบงหรือถวายผ้าไตรตามแต่ศรัทธาด้วย