'วันคริสต์มาสทำอะไรบ้าง' ซานตาคลอสมีจริงไหม ทำไมต้อง สีแดง-สีเขียว
รวมทุกคำถามคาใจ 'วันคริสต์มาสทำอะไรบ้าง' ซานตาคลอสมีจริงไหม 'คริสต์มาส' ทำไมต้อง สีเขียว - สีแดง ประเพณีของชาวคริสต์ ที่ คนไทย รู้จัก
ทุกวันที่ 25 ธ.ค. ของทุกปี เป็นธรรมเนียมที่หลายคนทราบดีว่า เป็นวัน “คริสต์มาส” เทศกาลที่เฉลิมฉลองการประสูติ ของพระเยซูคริสต์ แม้ว่าเทศกาลนี้มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมตะวันตก แต่ก็มีอิทธิพลอย่างมากในทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ที่ถือเอาวันนี้ เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุข ก่อนเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ ดังนั้น ลองมาสำรวจข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับคริสต์มาส วันคริสต์มาสทำอะไรบ้าง แล้วทำไมต้องเป็น สีเขียว - สีแดง ซานตาคลอสมีจริงไหม ไปหาคำตอบกัน
วันคริสต์มาสทำอะไรบ้าง
1. วันรวมตัวของครอบครัว
วันคริสต์มาส อีฟ คือวันที่ 24 ธ.ค. ครอบครัวจะมารวมตัวกันด้วยความสุข ตามประเพณีชาวอเมริกัน เป็นวันที่เต็มไปด้วยการเฉลิมฉลองและความสนุกสนาน การเฉลิมฉลองคริสต์มาสจะไม่สมบูรณ์หากไม่มีเค้ก โดยเค้กนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของเค้กวันเกิดของพระเยซู ตามประเพณี เค้กคริสต์มาสจะเป็นสีขาวเสมอ ซึ่งแสดงถึงความบริสุทธิ์พระบุตรของพระเจ้า สาระสำคัญของการทำเค้กนี้ อยู่ที่การเล่าเรื่องการเดินทางของพระเยซูที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
2. การมอบของขวัญ
การแลกเปลี่ยนของขวัญ ตลอดจนการส่งการ์ดอวยพร เป็นกิจกรรมยอดนิยมในช่วงเทศกาลคริสต์มาส สำหรับบ้านที่มีต้นคริสต์มาส เป็นเรื่องปกติที่จะวางของขวัญไว้ใต้ต้นไม้
3. การทำอาหารให้ครอบครัว
วันคริสต์มาส จะตรงกับฤดูหนาวในโลกตะวันตก จึงมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมการนำอาหารแปรรูปมากมาย มาจัดทำอาหารแสนอร่อย และให้ความเพลิดเพลินของเครื่องดื่มหมักอย่างไวน์ เป็นเวลาที่ชาวตะวันตกมารวมตัวกัน เพื่อสนุกสนานและทำอาหารต่าง ๆ พร้อมรวมตัวกันทานอาหารสูตรตัวเอง ไปกับความอบอุ่นและการเฉลิมฉลอง
4. การแขวนถุงเท้าของเด็กๆ
เด็กๆ จะแขวนถุงเท้าหน้าเตาผิง เพื่อรอรับของขวัญจาก “ซานตาคลอส” อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากเรื่องราวดังกล่าวได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ตามตำนานที่โด่งดัง มีเรื่องราวของ ซานตาคลอส ซึ่งครั้งหนึ่งเคยขึ้นไปบนปล่องไฟ เพื่อมอบเหรียญเงินเป็นของขวัญให้กับเด็กด้อยโอกาส
5. การประดับต้นคริสต์มาส
ต้นคริสต์มาสถือเป็นสัญลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ ใน วันคริสต์มาส โดยต้นคริสต์มาสดั้งเดิมนั้น ทำมาจากต้นสน ซึ่งพบได้ง่ายในยุโรปและอเมริกา แต่ในปัจจุบัน ก็มีต้นคริสต์มาสเทียมที่ทำจากพลาสติก ซึ่งสามารถนำมาใช้ซ้ำได้หลายปี ผู้คนจะตกแต่งต้นคริสต์มาสด้วยเครื่องประดับต่างๆ
6. การเขียนคำอวยพรให้กัน
การกล่าวคำว่า “สุขสันต์วันคริสต์มาส” เปรียบเสมือนการอวยพรผู้อื่น โดยหวังว่าผู้รับคำอวยพรจะได้สัมผัสกับความสงบสุขในจิตใจ นอกจากนี้ยังมีคำทักทายอื่นๆ อีกหลายคำ ที่สามารถใช้เพื่อถ่ายทอดความปรารถนาของตัวเอง
7. การร้องเพลงอวยพร
เพลงยอดนิยมที่ถูกร้องในวันนี้ คือ White Christmas, Santa Claus Is Coming to Town และ Rudolph the Red-nosed Reindeer เป็นต้น ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และสถานประกอบการต่างๆ ได้นำกิจกรรมนี้มาสร้างความสุข และแสดงความขอบคุณต่อลูกค้า ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
คริสต์มาส ทำไมต้องสีเขียว-แดง
สีเขียว กับ สีแดง ที่ถูกเชื่อมโยงกับเทศกาล “คริสต์มาส” มีที่มาจาก ต้นฮอลลี่ เป็นต้นไม้ที่สามารถออกดอกออกผลในฤดูหนาว ที่เต็มไปด้วยหิมะได้ ชาวเซลติกโบราณมองต้นฮอลลี่เป็นสัญลักษณ์ของผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์ และนำต้นฮอลลี่ไปประดับบ้านในช่วงเหมายันเพื่อความสวยงาม และความเชื่อว่าต้นฮอลลี่จะนำโชคลาภมาให้ และพืชผักจะงอกงามดีในปีที่จะมาถึง
ในแง่ของศาสนา ต้นฮอลลี่สื่อถึงมงกุฎหนามของพระเยซู สีแดง ของลูกฮอลลี่ คือเลือดของพระเยซู และ ใบ สีเขียว ที่มีรูปทรงแหลมคมนั้น เปรียบเสมือนมงกุฎหนาม ที่พระองค์สวมใส่เมื่อถูกตรึงกางเขนนั่นเอง
ซานตาคลอสมีจริงไหม
“ซานตาคลอส” หนึ่งในสัญลักษณ์ของคริสต์มาสที่หลายคนนึกถึง ชายแก่ หน้าตาใจดี หนวดเคราสีขาว สวมชุดสีแดง รองเท้าบู๊สต์สีดำ แต่เคยสงสัยกันไหมว่า ประวัติซานตาคลอสมีความเป็นมาอย่างไร มีตัวตนจริงไหม
ซานตาคลอส (Santa Claus) เป็นชายที่สร้างขึ้นมาจากจินตนาการ แต่ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวตนของบุคคลที่มีชีวิตอยู่ในประวัติศาสตร์จริงๆ นั่นก็คือ “นักบุญนิโคลัส” บาทหลวงจิตใจดี ผู้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
ชาวฮอลแลนด์ให้ความเคารพนับถือนักบุญนิโคลัสอย่างมาก โดยเรียกกันว่า “ซินเตอร์คลาส” ต่อมาเมื่อชาวฮอลแลนด์อพยพไปตั้งรกรากในประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาได้นำวัฒนธรรมและความเชื่อนี้ไปเผยแพร่ด้วย ทำให้ชาวอเมริกันรู้จักนักบุญท่านนี้ แต่เรียกชื่อซินเตอร์คลาส เพี้ยนเป็น “ซานตาคลอส” อย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั่นเอง