เรียกว่าเป็นดราม่ามีกระแสพูดถึงอยู่ในโลกออนไลน์ หลังจากศิลปินสาว นท พนายางกูร หรือ นท เดอะสตาร์ ได้ออกมาเล่าเรื่องราวชีวิตผ่านรายการ ป๋าเต็ดทอล์ก ถึงวิธีการเยียวยาตนเองผ่านจิตวิญญาณ จักระมนุษย์ และศาสตร์การบำบัดด้วยเสียง และการทำพิธีกรรม ‘อายาวัสกา’ (Ayahuasca) เพื่อฮีลใจ ตัวเอง ในการดื่มน้ำต้มรากไม้ จากนั้นร่างกายจะเกิดสาร DMT ที่อ้างว่าสารนี้จะมีการหลั่งในสมองมนุษย์แค่ 2 ครั้งเท่านั้นในชีวิต คือ ตอนที่เกิด และตอนที่ตาย เสมือนเป็นการทดลองตาย นำไปสู่การรู้แจ้งเห็นจริง
หลังจากคลิปสัมภาษณ์ในรายการดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปนั้นก็เกิดเสียง วิพากษ์วิจารณ์ในหลากหลายแง่มุม โดยส่วนใหญ่รู้สึกเป็นห่วงผู้ที่เสพคอนเทนต์ เนื่องจาก นท พนายางกูร เป็นบุคคลสาธารณะหากพูดหรือให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกรงว่าจะมีพฤติกรรมเลียนแบบ เนื่องจากใน ‘อายาวัสกา’ (Ayahuasca) มีสารเสพติด DMT ซึ่งผิดกฎหมายบ้านเรา ทั้งนี้ชาวเน็ตก็ได้ติติง ถึงผู้จัดรายการว่าพึงระวังการนำเสนอเนื้อหาในลักษณะนี้ให้มากๆ
“นท” ได้เล่าถึงพิธีกรรม อายาวัสกา (ayahuasca) ที่ตนเองเคยเข้าร่วมกับ ชาแมน (shaman) หรือผู้นำจิตวิญญาณที่เชี่ยวชาญมากมาเป็นคนทำให้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ถ้าอยากทำต้องศึกษาดีๆ และทำกับคนที่ถูกต้องเท่านั้น ต้องมีคนไกด์ที่ดี และควรทำในที่ที่ปลอดภัย อยู่ใกล้ธรรมชาติ และที่สำคัญควรมีหมอแผนปัจจุบันอยู่ด้วย
พิธีกรรมนี้ จะต้องดื่มน้ำสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่ถูกสกัดจากรากไม้ที่มาจากแอฟริกาใต้ พอดื่มน้ำสมุนไพรนี้เข้าไป จะทำให้สมองหลั่งสารที่เรียกว่า DMT ซึ่งสารนี้จะมีการหลั่งในสมองมนุษย์แค่ 2 ครั้งเท่านั้นในชีวิต คือตอนที่เกิดและตอนที่ตาย ซึ่งคิดว่ามันคล้ายๆ เหมือนการทดลองตายในระดับหนึ่ง ทำให้รู้แจ้งเห็นจริง จริงๆ พี่เจ (มณฑล จิรา) เป็นคนบอกให้นทไปทำ
ตอนนั้นก็รู้สึกเหมือนตายจริงๆ เหมือนกำลังหายใจเฮือกสุดท้าย เป็นโมเมนต์ที่ทำให้ปล่อยวางมาก ทลายอีโก้ไปหมดเลย และรู้สึกถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับทุกอย่าง เหมือนเป็นโมเลกุลหนึ่ง เราคือธรรมชาติ แต่พิธีกรรมนี้ได้ไม่เหมาะกับทุกคน ไม่แนะนำให้ไปทำถ้าไม่พร้อม และมันไม่ได้สนุก
พิธีกรรมอายาวัสกาคืออะไร?
อายาวัสกา (สเปน: ayahuasca) เป็นยาต้มที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทจากอเมริกาใต้ ตามธรรมเนียมแล้วใช้โดยวัฒนธรรมพื้นบ้านกับหมอชาวบ้านในลุ่มแม่น้ำแอมะซอนและโอริโนโกเพื่อประกอบพิธีกรรมและรักษาโรคที่เกี่ยวกับจิตและกาย เดิมทีอายาวัสกามีจำกัดอยู่ในแถบประเทศเปรู, บราซิล, โคลอมเบีย และเอกวาดอร์ ก่อนที่จะเริ่มแพร่หลายไปยังประเทศบราซิลนับตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20 ในบริบทของศาสนาเกิดใหม่ที่ใช้อายาวัสกาในทางพิธีกรรม
จะเป็นการใช้รากไม้จากแอฟริกาใต้นำมาต้ม จากนั้นจะเกิดสารออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทของร่างกาย ชื่อว่า “DMT” ย่อมากจากชื่อทางเคมี คือ Dimethyltryptamine (ไดเมทธิลทริปตามีน) เป็นยาเสพติดออกฤทธิ์ประเภทหลอนประสาท ในประเภทที่ 1 พบในเม็ดพืชชนิดหนึ่งที่ขึ้นในแถบ WEST INDIES และบางส่วนของอเมริกาใต้ ชาวอินเดียในแถบนี้จะนำมาบดเป็นผง รวมทั้งชาวพื้นเมืองของประเทศไฮติ ก็นำผงจากเมล็ดพืชเหล่านี้มาใช้เวลาประกอบพิธีทางศาสนา โดยการสูดดม เรียดว่า โคเฮบา (coheba) เพราะเชื่อว่าทำให้สามารถติดต่อกับพระเจ้าของเขาได้
ในปัจจุบัน อายาวัสกา กำลังเป็นที่นิยม เพราะผลทางจิตของยาทำให้ผู้ใช้ “เคลิบเคลิ้ม” ได้พัฒนาและขยับไปสู่ศูนย์กลางในเมืองต่างๆ ของอเมริกาเหนือและยุโรป ประกอบกับการเติบโตของพิธีกรรมที่ผสมผสานลัทธิเชมันใหม่ การท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณ และการท่องเที่ยวเน้นการใช้สารเพื่อนันทนาการ
ในอายาวัสกามีสาร DMT เป็นยาเสพติด
โดยกองควบคุมวัตถุเสพติดระบุว่า สาร DMT (dimethyltryptamine) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ใน 4 ประเภท ดังนี้
1.เป็นสารที่มีศักยภาพในการก่อให้เกิดการใช้ยาในทางที่ผิด มีความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพสูง และไม่มีการใช้ทางการแพทย์ ส่วนใหญ่มีฤทธิ์หลอนประสาท ได้แก่ Mescaline, Psilocybin, DMT, DET, Cathinone เป็นต้น กฎหมายจึงห้ามเด็ดขาดไม่ให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท
2.เป็นสารที่มีศักยภาพในการก่อให้เกิดการใช้ในทางที่ผิดสูง มีอันตรายต่อสุขภาพมากหากใช้ไม่เหมาะสมหรือไม่อยู่ภายใต้การดูแลของผู้ประกอบวิชาชีพ แต่มีประโยชน์ทางการแพทย์ ได้แก่ Phentermine, Midazolam, Zolpidem, Methylphenidate, Ketamine, Pseudoephedrine เป็นต้น กฎหมายห้ามมิให้ผู้ใด ผลิต ขาย นำเข้า หรือส่งออก ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ยกเว้นกระทรวงสาธารณสุข หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุขวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท
3.เป็นยามีประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ที่มีศักยภาพในการก่อให้เกิดการใช้ในทางที่ผิดปานกลาง เช่น Amobarbital, Pentobarbital, Pentazocine เป็นต้น วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท
4.เป็นยาที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ และศักยภาพในการก่อให้เกิดการนำไปใช้ในทางที่ผิดต่ำ เช่น Diazepam, Lorazepam, Clorazepate, Chlordiazepoxide
DMT เป็นยาเสพติด ผิดกฎหมายในไทย
มีกฎหมายคุมชัดเจนและมีโทษทางกฎหมายหากประชาชนคนไทยใช้สาร DMT ติดคุก 15 ปี ปรับ 1.5 ล้านบาท
ระบุชื่อวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 พ.ศ.2561 ออกตามความในพระราชบัญญัติ วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559 ระบุว่า การผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับ ไม่เกิน 1,000,000 บาท ขณะที่ ความผิดในการผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย มีไว้ในครอบครองหรือนำผ่าน ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ ในประเภท 1 เป็นการกระทำดังต่อไปนี้
1. การกระทำเพื่อการค้า
2. การก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
3. การจำหน่ายแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปี
4.การจำหน่ายในบริเวณสถานศึกษา สถานที่ อันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด หรือสถานที่ราชการ
5.การกระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย
6.การกระทำโดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธ โทษจำคุกตั้งแต่ 1-15 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 – 1,500,000 บาท และ ผู้ใดเสพวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง