รู้จัก "ผักเกล็ดหิมะ" กรอบๆเค็มๆ กินสดได้ ผักน้องใหม่ยอดฮิต สารอาหารเพียบ
ทำความรู้จัก "ผักเกล็ดหิมะ" (Crystal Ice Plant ) อัญมณีแห่งวงการผัก รสชาติ กรอบๆเค็มๆ กินสดได้ ผักน้องใหม่ยอดฮิต สารอาหารเพียบ
ต้องบอกว่าเจ้า ผักเกล็ดหิมะ Crystal Ice Plant เป็นผักที่กำลังเป็นกระแสในโลกออนไลน์ไม่น้อยเพราะมีคนดัง อินฟลูเอนเซอร์ ต่างออกมารีวิวการกินผักเกล็ดหิมะ ทำให้หลายๆคนที่ติดตามคนดังเหล่านั้นก็เกิดอยากจะหามาลองทานด้วยเหมือนกัน
ผักเกล็ดหิมะ มีลักษณะเป็นพุ่มเตี้ย ลำต้นอวบน้ำ ลักษณะพิเศษภายนอกของผักชนิดนี้ คือ การที่มีเกล็ดคล้ายน้ำแข็งปกคลุมอยู่รอบตัวต้นและใบ ตัวผักจะทนแล้งและอุ้มน้ำได้ดี เนื้อผักค่อนข้างหนา รสชาติออกเค็มนิดๆ แต่เป็นผักที่ไม่มีกลิ่นฉุน สามารถกินสดได้เลย รสชาติจะกรอบๆเค็มๆ อร่อยทานง่าย ผักละลายในปาก มีความชุ่มฉ่ำ นำมาทำอาหารได้หลากหลายทั้งอาหารไทยและต่างประเทศ นิยมนำมาทานคู่กับพาสต้า ทำเป็นสลัดน้ำมันงา ผักทอดกรอบแบบเทมปุระ หรือทานคู่กับส้มตำแบบสาหร่ายพวงองุ่นก็ได้เช่นกัน
ผักเกล็ดหิมะสุดฉ่ำ ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และวิตามินต่าง ๆ ที่สำคัญคือมีส่วนช่วยในการลดน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปัจจุบันผักเกล็ดหิมะเริ่มได้รับความนิยมในหลายประเทศ เช่น อินเดีย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเยอรมนี ในทวีปเอเชียได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเรียกกันว่า “บาราฟุ” (Barafu, バラフ) ส่วนในประเทศไทยเราก็พึ่งได้รับความนิยมเมื่อไม่นานมานี้
ต้นกำเนิดของผักเกล็ดหิมะ กล่าวกันว่ามาจากทางแอฟริกาใต้แถบทะเลทรายนามิบ, คาบสมุทรไซนาย (อียิปส์) และยุโรปตอนใต้ โดยผู้ที่ค้นพบผักเกล็ดหิมะคนแรก กล่าวว่าเขาพบผักเกล็ดหิมะปะปนมากับทรายจึงนำมาเพาะปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับ เนื่องจากผักชนิดนี้มีลักษณะสวยงาม คล้ายกับเกล็ดหิมะปกคลุมผิวของผักอยู่ตลอดเวลา แต่ในเวลาต่อมาผักชนิดนี้ก็ถูกนำมารับประทานอย่างกว้างในพื้นที่แถบนั้น เพราะมีงานวิจัยค้นพบประโยชน์นานัปการของผักชนิดนี้
นอกจากนี้ผักเกล็ดหิมะยังมีความพิเศษอีกคือที่บริเวณใบจะมีเซลล์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า แบลดเดอร์ เซลล์ (Bladder cell) อยู่เป็นจำนวนมาก โดยเซลล์ประเภทนี้จะทำหน้าที่ในการเก็บสะสมอาหาร แร่ธาตุ และน้ำ ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้ผักชนิดนี้สามารถทนอยู่ได้ในสภาพอากาศที่แห้งแล้ง และไม่เพียงเท่านี้แบลดเดอร์ เซลล์ยังมีส่วนทำให้ใบผักเกล็ดหิมะมีลักษณะเหมือนถูกปกคลุมด้วยเกล็ดน้ำแข็งอีกด้วย
สารสำคัญที่พบใน Ice Plant คือสารในกลุ่ม Inositol ได้แก่ Myo-Inositol ที่มีส่วนช่วยให้การผลิตฮอร์โมนในร่างกายมนุษย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และ Pinitol ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่ทำงานคล้าย Insulin จึงมีประสิทธิภาพในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน นอกจากนี้ในผักเกล็ดหิมะยังอุดมไปด้วย วิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงสายตา, เบต้า-แคโรทีน, แคลเซียม, วิตามิน เค และโพรลีน
ประโยชน์ของ Ice Plant
ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น – เนื่องจากมีสารประกอบใน Ice Plant ที่รักษาอาการอักเสบได้ดีมาก สมุนไพรนี้จึงใช้เพื่อส่งเสริมระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้น การใช้ Ice Plant สามารถช่วยรักษาความดันโลหิตสูงได้ เช่นเดียวกับการลดระดับของไขมันเลว (LDL)
บรรเทาอาการคันและการอักเสบ – Ice Plant สามารถหยุดอาการคันและบรรเทาการอักเสบได้ ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ปกป้องผิวของเราโดยการลดการผลิตสารอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ผิวและทำให้เกิดการติดเชื้อและการอักเสบได้
ป้องกันรังสียูวี – ครีมกันแดดหลายชนิดใช้สารสกัดจาก Ice Plant เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากสารสกัดจาก Ice Plant จะทำหน้าที่กระตุ้นกลไกการปกป้องผิวจากอันตรายต่าง ๆ เช่น รังสียูวีที่พร้อมจะเผาเซลล์ผิวเรา นอกจากนี้ยังช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิว โดยสารเหล่านี้จะกระตุ้นการสร้างโปรตีนและกระบวนการสังเคราะห์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ที่เป็นตัวสร้างโปรตีนสองชนิด คือ คอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งมีความสำคัญมากสำหรับผิวหนังของคนเราในการรักษาความชุ่มชื้นนั่นเอง