เปิด 4 ข้อต้องรู้! ทำไมห้ามลงไปบริเวณพื้นที่ "โป่ง" สำคัญต่อสัตว์อย่างไร?
จากกรณีที่มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม ไม่สนใจป้ายห้ามเตือน เดินไปถ่ายรูปบริเวณใกล้ "โป่ง" จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล เปิด 4 ข้อต้องรู้! ทำไมห้ามลงไปบริเวณพื้นที่โป่ง และโป่งสำคัญต่อสัตว์อย่างไร?
ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวทุกท่าน ห้ามเดินลงไปบริเวณพื้นที่โป่งและบริเวณทุ่งหญ้ารอบโป่งเด็ดขาด! มีป้าย "ห้ามเดินลงโป่ง Do not walkinto salt lick" แต่นักท่องเที่ยวกลับไม่สนใจป้ายห้ามเตือน ยังเดินไปยังบริเวณใกล้โป่งถ่ายรูปกันออกรสออกชาติ หรือแม้กระทั่งไปถ่ายพรีเวดดิ้ง
จากเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล กรณีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งเดินรุกล้ำเข้าไปในบริเวณพื้นที่โป่ง บริเวณทุ่งหญ้า ทางเข้าหอดูสัตว์หนองผักชี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา เพื่อเข้าไปถ่ายรูปกับทุ่งหญ้าคา ที่ตอนนี้กลายเป็นจุดแลนด์มาร์ค เช็คอินไปแล้ว แต่ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้โป่ง ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่ทราบว่า โป่ง คืออะไร และสำคัญแต่ไหนต่อสัตว์น้อยใหญ่ เปิด 4 ข้อต้องรู้ ทำไมห้ามลงไปบริเวณพื้นที่โป่ง ?
1.โป่งคืออะไร เป็นแหล่งแร่ธาตุเสริมสำหรับสัตว์ป่า ซึ่งเปรียบเสมือนห้องครัวที่มีองค์ประกอบที่สมบูรณ์ของสัตว์ป่า สัตว์ป่าจึงต้องการอาหารที่มีคุณภาพและสะอาดเช่นกัน จึงไม่ควรมีสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ลงไปปนเปื้อนหรือมีกลิ่นใด ๆ อันเป็นปัจจัยที่ทำให้สัตว์ป่า ไม่ลงมาใช้บริการพื้นที่โป่ง และยังเป็นแหล่งชุกชุมของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด
2. กลิ่นตัว หรือกลิ่นน้ำหอมของมนุษย์ ที่นักท่องเที่ยวเดินลงไปติดอยู่ที่ดินโป่ง เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สัตว์ป่าไม่ลงมาใช้พื้นที่โป่ง จากกรณีช้างป่างาหักที่ผ่านมา นักวิจัยพบว่ามีความเชื่อมโยงมาจากการที่ช้างป่าไม่ลงมากินดินโป่ง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพงาของช้างป่าและสัตว์ป่าอื่น ๆ เป็นอย่างมาก
3.การเดินเข้าไปรบกวนบริเวณพื้นที่โป่ง โป่งอาจจะเป็นแหล่งเชื้อโรค สัตว์มีพิษ เช่น เห็บ ไร ริ้น และแมลงวัน เป็นพาหะของการแพร่กระจายเชื้อโรคจากสัตว์ป่าสู่คนหรือจากคนสู่สัตว์ป่า ซึ่งนักท่องเที่ยวอาจได้รับอันตรายได้
4.พื้นที่โป่งคือพื้นที่ที่สัตว์ป่าลงมาใช้ประโยชน์ โป่งก็คือดินเนื้อค่อนข้างละเอียดที่มีรสเค็ม แต่ความเค็มของมันนี้เต็มไปด้วยแร่ธาตุอาหารหลากหลายชนิด เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม แมกนีเซียม กำมะถัน ทองแดง เหล็ก สังกะสี ไอโอดีน ดังนั้น มันจึงกลายเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญอีกแหล่งของสัตว์ป่า
โป่งที่พบโดยทั่วไปมีอยู่ 2 แบบ
โป่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และ โป่งที่มนุษย์สร้างขึ้น (โป่งเทียม) โป่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ
1. โป่งดิน คือ บริเวณพื้นดินที่ประกอบด้วย แร่ธาตุต่าง ๆ โดยสัตว์มักจะใช้ปากขุดดิน เพื่อกินดินเหล่านั้น โดยจะเริ่มกินที่บริเวณผิวดินก่อนแล้วค่อย ๆ กินลึกลงไปเรื่อย ๆ จนเรามองเห็นเป็นแอ่งหรือเป็นบ่อ ซึ่งส่วนใหญ่มีความลึกไม่เกิน 1 เมตร ในฤดูฝนโป่งดินอาจจะถูกน้ำท่วมขัง สัตว์จะไม่กินส่วนที่เป็นดิน แต่จะกินน้ำที่ขังอยู่ในบริเวณโป่งดินแทน
2. โป่งน้ำ คือ บริเวณที่เป็นต้นกำเนิดของลำธารหรือเป็นต้นน้ำ มีน้ำไหลซึมตลอดทั้งปี พบได้ในพื้นที่ที่เป็นน้ำซึมหรือน้ำซับหรือที่ไหลออกมาจากภูเขา แอ่งหรือบ่อที่เป็นโป่งดินมาก่อน โดยจะมีน้ำขังตลอดปี
โป่งเทียม ส่วนโป่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมีลักษณะเป็นโป่งดิน โดยการขุดดินในบริเวณที่เลือกไว้ให้เป็นแอ่ง แล้วนำเกลือสมุทรลงไปผสมกับดินบริเวณที่ขุดขึ้น เมื่อมีฝนตกหรือความชื้นจากน้ำค้างเกลือก็จะละลายทำให้ดินบริเวณนั้นเค็ม สัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ก็จะพากันมากินดินเหล่านี้
เพื่ออาหารที่มีคุณภาพของสัตว์ป่า และโอกาสที่นักท่องเที่ยวทุกท่านจะได้ชื่นชมสัตว์ป่าอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎระเบียบและป้ายแจ้งเตือนของอุทยานแห่งชาติอย่างเคร่งครัด เพื่อความสุขของคน และเพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์ป่า ให้พวกเขาอยู่กับเราไปอีกนาน
ที่มาจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช