ไลฟ์สไตล์

รู้จัก 6 สายพันธุ์สุนัขนักบวก เปิดเทคนิคการฝึกหมาดุ สุดโหดให้อยู่หมัด!

02 ก.ย. 2567

ใครอยากจะเลี้ยงมะหมาจอมโหด มาอ่านทางนี้! ทำความรู้จัก 6 สายพันธุ์สุนัขนักบวก ขาโหดประจำบ้าน ดุนะแต่รักเจ้าของมาก พร้อมเปิดเทคนิคการฝึกหมาดุ สุดโหดให้เชื่อฟังเจ้าของอยู่หมัด!

 

 

รู้จัก 6 สายพันธุ์สุนัขนักบวก  เปิดเทคนิคการฝึกหมาดุ สุดโหดให้อยู่หมัด!

 

มะหมาสี่ขานิสัยดั้งเดิมของพวกเขาก็ยังคงติดอยู่ในสายเลือด คอยระวังภัย หวงแหนทรัพย์สิน  สุนัขเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง พวกเขาคือเพื่อนแท้ที่คอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ ด้วยความซื่อสัตย์และความน่ารัก ทำให้สุนัขกลายเป็นสมาชิกในครอบครัวที่ขาดไม่ได้สำหรับหลายๆหลายๆบ้าน แต่ใดๆแล้วหากอยากจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ดุ จำเป็นต้องมีเทคนิคการฝึกเพื่อเอาชนะใจ เปลี่ยนจากความดุร้ายให้กลายมาเป็นน้องหมาที่เชื่อฟัง โดยทำให้น้องหมาเชื่อว่าเราเป็นผู้นำหรือจ่าฝูง  มาทำรู้จัก 6 สายพันธุ์สุนัขนักบวก  พร้อมเปิดเทคนิคการฝึกหมาดุ สุดโหดให้อยู่หมัด!

 

1. อเมริกันพิทบูลเทอร์เรีย (American Pit Bull Terrier)

 

รู้จัก 6 สายพันธุ์สุนัขนักบวก  เปิดเทคนิคการฝึกหมาดุ สุดโหดให้อยู่หมัด!

 

พิทบูล: มีสัญชาติญาณจากการเป็นสุนัขในสงครามมาก่อน นิสัยตามธรรมชาติของพิทบูลจึง กล้าหาญ กล้าลุยกล้าเสี่ยง จึงเป็นที่มาว่าในหลายครั้ง พวกมันนิสัยก้าวร้าวและดื้อรั้นในหลาย ๆ ครั้ง ยิ่งเฉพาะกับสุนัขด้วยกันหรือสัตว์อื่น ๆ ที่อ่อนแอกว่า เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกมันแข็งแรงและอยู่เหนือ แต่ในทางกลับกัน พวกมันจงรักภักดี และขี้ประจบเจ้าของมาก นี่เป็นสาเหตุที่ภายนอกพวกมันดดุร้าย แต่ถ้าใครได้เลี้ยงแล้ว จะต้องรักมันมาก ๆ อย่างแน่นอน และยิ่งถ้าได้รับการฝึกนิสัยแต่เด็ก พวกมันจะมีนิสัยสุขุม อ่อนโยนขึ้นมาหลายเท่าตัว อย่างไรก็ตามเด็ก ๆ และสุนัขพันธุ์เล็กไม่ควรอยู่ใกล้พิทบูล เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน

ลักษณะนิสัย: เป็นสุนัขที่รักความสนุกสนานและเป็นคู่หูที่ดีเยี่ยม มีความอ่อนโยน และสุขุมและใจเย็นต่อสมาชิกครอบครัว ถือได้ว่าเป็นสุนัขที่มีความพิเศษเฉพาะตัวต่างจากพิทบูลสายพันธุ์อื่นๆ   ลักษณะเหล่านี้ยังทำให้เขาอาจมีความหัวแข็งดื้อรั้นและไม่เกรงกลัวสิ่งใด เช่นเดียวกันกับสุนัขขนาดใหญ่สายพันธุ์อื่นๆ เด็กเล็กๆควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองเมื่ออยู่ใกล้ๆกับ อเมริกันพิทบูล

2. ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)

 

รู้จัก 6 สายพันธุ์สุนัขนักบวก  เปิดเทคนิคการฝึกหมาดุ สุดโหดให้อยู่หมัด!

 

ร็อตไวเลอร์:เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศเยอรมนี ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่น่าเกรงขาม อาจทำให้คนทั่วไปคิดว่าร็อตไวเลอร์เป็นสุนัขดุร้าย แต่ในความเป็นจริงนั้น พวกเค้าเป็นเพียงหมาใหญ่ใจดี เริ่มแรกสุนัขร็อตไวเลอร์ถู-กเพาะพันธุ์มาเพื่อต้อนฝูงสัตว์และใช้ลากเกวียนขนาดเล็ก มีขนสองชั้น มีหางสั้น จมูกยาวปานกลาง และมีใบหูสั้นห้อยลงมา หากสังเกตให้ดีจะพบว่าร็อตไวเลอร์มีดวงตาสีน้ำตาลและมีจมูกสีดำ มีขาหลังที่แข็งแรงมาก 

ลักษณะนิสัย: นั้นมีความอ่อนโยนซึ่งขัดกับรูปลักษณ์ที่ดุดัน พวกเค้าเป็นเพื่อนสี่ขาที่ดี ซื่อสัตย์ เชื่อฟัง ไม่ซุกซน และไม่เห่าพร่ำเพรื่อ อีกทั้งยังเป็นสุนัขที่เฉลียวฉลาด จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขเพื่อการใช้งาน จึงมีความขยันขันแข็ง  หากได้รับการฝึกอย่างเหมาะสมตั้งแต่เด็ก พวกเค้าจะสามารถปรับตัวเข้ากับเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่นได้ดี 

 

 

3. เยอรมัน เชพเพิร์ด (German Shepherd)

 

รู้จัก 6 สายพันธุ์สุนัขนักบวก  เปิดเทคนิคการฝึกหมาดุ สุดโหดให้อยู่หมัด!

 

เยอรมันเชพเพิร์ดได้รับการยกย่องว่ามีความฉลาดและซื่อสัตย์มาก อีกทั้งยังแข็งแรงว่องไว พลังเยอะ มีสัญชาตญาณในการปกป้องสูง ไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะดูน่าเกรงขาม แต่พวกเค้าก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก สนุกกับการใช้เวลาอยู่กับครอบครัว พร้อมลุยด้วยทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะไปว่ายน้ำ เดินป่า หรือปีนเขา เยอรมันเชพเพิร์ดจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ 

ลักษณะนิสัย: สายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อเรื่องความจงรักภักดี กล้าหาญ และจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องครอบครัว ทำให้พวกเค้าเป็นสุนัขเฝ้าบ้านและสุนัขตำรวจที่ยอดเยี่ยม  สุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดยังเกิดมาเป็นนักพูดด้วย พวกเค้าชอบแสดงออก เมื่อรู้สึกเบื่อก็จะเห่า หรือเมื่อต้องการบอกบางสิ่งบางอย่าง  

 

 

4.อเมริกันบูลลี่ (American Bully)

 

รู้จัก 6 สายพันธุ์สุนัขนักบวก  เปิดเทคนิคการฝึกหมาดุ สุดโหดให้อยู่หมัด!

 

สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่: ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่งและทรงพลัง ซ่อนเร้นไว้ด้วยจิตใจที่อ่อนโยนและเป็นมิตร สุนัขสายพันธุ์นี้โดดเด่นด้วยรูปร่างที่กำยำ กล้ามเนื้อแน่น พร้อมด้วยหัวที่สี่เหลี่ยมคางหมูที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง แม้จะมีรูปร่างที่ดูใหญ่โต แต่พวกเขากลับมีบุคลิกที่น่ารัก เข้ากับคนง่าย และเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์

ลักษณะนิสัย: สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่เป็นสุนัขที่รักครอบครัวอย่างมาก พวกเขามีความสุขกับการได้อยู่กับคนรอบข้างและพร้อมที่จะสร้างความสุขให้กับทุกคนในบ้าน ด้วยความมั่นใจและความกระตือรือร้น ทำให้สุนัขอเมริกันบูลลี่เป็นเพื่อนคู่คิดที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการเล่นซุกซน หรือการนอนพักผ่อนอยู่ข้างๆ

 

 

5. ไทยบางแก้ว (Thai Bang Kaew)

 

รู้จัก 6 สายพันธุ์สุนัขนักบวก  เปิดเทคนิคการฝึกหมาดุ สุดโหดให้อยู่หมัด!

 

 

สุนัขพันธุ์ไทยบางแก้ว: โดยทั่วไปมีอายุขัยอยู่ที่ประมาณ 10-12 ปี สุนัขพันธุ์ไทยบางแก้ว เป็นสุนัขที่จำเป็นต้องได้รับการฝึกฝน สามารถฝึกเพื่อใช้งาน หรือสามารถฝึกให้เป็นสุนัขเฝ้าบ้านได้  แต่การฝึกให้เข้าสังคม หรือฝึกความอดทนให้กับสุนัขเป็นไปได้ยาก อีกทั้งยังมีมีพละกำลังมาก ทำให้การที่นำสุนัขมาเล่นกับเด็กจึงต้องคอยระมัดระวังเด็กเป็นพิเศษ ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะ เมื่อสุนัขรู้สึกไม่ปลอดภัย หรือตื่นตระหนก จะทำให้เกิดอันตรายกับเด็กได้ นอกจากนี้ ยังอาจพบพฤติกรรมก้าวร้าวกับสุนัขตัวอื่น จึงไม่สามารถเลี้ยงคู่กับสุนัขพันธุ์เล็กได้

ลักษณะนิสัย:  มีนิสัยที่ค่อนข้างตื่นตัว หวงสิ่งของและหวงเจ้าของ ร่าเริง กล้าหาญ เชื่อมั่นในตัวเอง จิตประสาทมั่นคงไม่ขี้กลัว หรือตื่นตกใจง่าย ซื่อสัตย์ ฉลาด

 

 

 

6. โดเบอร์แมน พินสเชอร์ (Doberman Pinschers)

 

รู้จัก 6 สายพันธุ์สุนัขนักบวก  เปิดเทคนิคการฝึกหมาดุ สุดโหดให้อยู่หมัด!

 

โดเบอร์แมน พินสเชอร์:  มักพบเห็นพวกมันอยู่ตามศูนย์ฝึกหรือใช้เป็นน้องหมาในราชการตำรวจ หรือทหารอยู่เป็นประจำ ด้วยรูปร่างที่่สง่า แถมยังฉลาด เชื่อฟังพร้อมที่จะเรียนรู้อยู่ตลอด โดดเด่นเพิ่มความหล่อ กับใบหูที่ชี้ตั้ง ซึ่งเดิมในธรรมชาติ ไม่ได้ตั้งแบบนี้แต่เกิด น้อวงเป็นหมาหูตกออกหูตูบ คนเลี้ยงส่วนใหญ่นิยมนำมันไปตัดแต่งให้หูชี้ตั้ง รวมถึงหางก็ถูกตัดไปด้วย

 

ลักษณะนิสัย:  มีพลัง กระตือรือล้น ชอบออกกำลังกาย อ่อนโยนกับมนุษย์  รักเด็ก จงรักภักดีต่อเจ้าของ หากอยากเลี้ยง เจ้าของต้องให้ใส่ใจมากๆ เพราะนิสัยของน้องต้องการความเอาใจใส่และความรักจากเจ้าของอย่างมาก ถ้าใครไม่มีเวลาหรือสถานที่สำหรับน้องหมาพันธุ์นี้ก็จะยุ่งยากในการเลี้ยง เพราะน้องชอบวิ่งเล่น ชอบออกกำลังกาย เพราะสิ่งนี้ทำให้สุขภาพและจิตใจน้องดีด้วย

 

ขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยให้การฝึกสุนัขและได้ผลดียิ่งขึ้น เปลี่ยนความดุให้กลายเป็นความน่ารัก

อันดับแรกเจ้าของต้องเป็นผู้นำหรือจ่าฝูง ไม่ว่าจะทำอะไรภายในบ้าน เจ้าของต้องเป็นที่ 1 เสมอ เช่น กินข้าวก่อน เดินออกจากบ้านก่อน ทักทายก่อน ต้องอนุญาตก่อน และ ต้องทำให้พวกเขาเห็นว่าเราเป็นเจ้าของบ้านตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเข้ามาในบ้าน โดยการพาไปเดินรอบบ้าน เมื่อพวกเขาสนใจอยากอื่นให้ออกคำสั่งว่า “ไม่” กระตุกสายจูงให้น้องหมารู้สึกตัว เวลาให้ข้าวกิน น้องหมาต้องไม่หวง เราต้องสามารถจับสิ่งของของพวกเขาได้โดยที่เขายินยอม เราต้องนิ่ง ไม่โวยวาย  เมื่อเขาทำผิด ถ้าจะทำโทษให้ใช้วิธีการฉก หรือ การกระตุกโซ่ ออกคำสั่งสั้นๆ กระชับ ชัดเจน เสียงก้องกังวาน จ้องตานิ่ง เหมือนฝึกทหารห้ามใช้อารมณ์เด็ดขาด ซึ่งการแสดงความเป็นจ่าฝูงนี้คือด่านแรกและด่านที่สำคัญที่สุด  

 

 

 

จัดตารางการฝึก: ขั้นตอนแรกของการฝึกสุนัขคือการจัดตารางเวลา โดยส่วนใหญ่แนะนำให้เริ่มฝึกขั้นพื้นฐานหลังจากพาเข้าบ้านมาแล้ว 2 – 3 วัน ควรแบ่งเวลาฝึกเป็นช่วงสั้น ๆ เพื่อไม่ให้น้องหมาเบื่อหรือเหนื่อยจนเกินไป แต่ควรฝึกอย่างน้อย 15 นาทีต่อวัน

 

หลีกเลี่ยงการใช้คำสั่งซ้ำ: น้องหมาฉลาดและหัวไว พวกเค้าสามารถเรียนรู้คำสั่งและทริคใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ผู้เลี้ยงควรหลีกเลี่ยงการออกคำสั่งเดิมซ้ำ ๆ เพราะน้องหมาบางตัวอาจแสดงอาการเพิกเฉย ประมาณว่าทำได้นะแต่ยังไม่ทำดีกว่า

พื้นที่ฝึกต้องกว้างขวาง: การจัดเตรียมพื้นที่เป็นกุญแจสำคัญในการฝึกสุนัข หากเลือกฝึกน้องหมาในห้องขนาดใหญ่ คุณควรทำความสะอาดและเก็บข้าวของที่อาจรบกวนสมาธิออกไปให้หมด แต่หากเลือกฝึกที่สนามหญ้าหรือสวนสาธารณะ ควรเลือกที่มีพื้นที่กว้างขวางและเพียงพอให้น้องหมาขยับตัวได้อย่างสะดวก

 

ให้รางวัลเมื่อเป็นเด็กดี: การให้ขนมแสนอร่อยเป็นรางวัลช่วยกระตุ้นน้องหมาให้ทำตามคำสั่งได้เป็นอย่างดี เป็นทริคที่ง่ายและได้ผลจริง! แต่ไม่ควรให้ขนมบ่อยจนเกินไป ไม่ว่าพวกเค้าจะออดอ้อนมากแค่ไหนก็ตาม ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องหักห้ามใจและมีวินัยอยู่เสมอ

 

เดินเล่นและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ:  การพาน้องหมาไปเดินเล่นทุกวันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะน้องหมาชอบสำรวจ พวกเค้าอาจรู้สึกเบื่อเมื่อต้องอยู่แต่บ้านทั้งวัน บางตัวก็เริ่มขี้เกียจและไม่ค่อยขยับหรือเคลื่อนไหว ซึ่งนำไปสู่ปัญหาน้ำหนักตัวเกินได้ไม่ยาก ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องดูแลและควบคุมให้น้องหมามีน้ำหนักเหมาะสม โดยพาไปเดินเล่น วิ่งจ็อกกิ้ง หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งอื่น ๆ เป็นประจำ

 

ให้อาหารตรงเวลา: ควรให้อาหารน้องหมาช่วงเวลาเดียวกันในแต่ละวัน ถ้าพวกเค้ารู้สึกหิวและเห่าไม่หยุด คุณสามารถให้ขนมหรืออาหารว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ การกำหนดเวลาและทำเป็นกิจวัตรจะช่วยให้น้องหมาคุ้นชินกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวัน

 

ความอดทนและทัศนคติเชิงบวกเป็นสิ่งสำคัญ: ไม่สามารถเร่งหรือบังคับให้น้องหมาทำสิ่งต่าง ๆ ได้ ในทางกลับกัน คุณต้องให้พื้นที่และเวลากับพวกเค้า รวมถึงต้องปฏิบัติอย่างอ่อนโยน เน้นให้รางวัลเป็นคำชมหรือขนม และหลีกเลี่ยงการลงโทษทุกกรณี นอกจากจะช่วยให้การฝึกเป็นไปอย่างราบรื่นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความผูกพันได้มากกว่าด้วย