เปิดทริคการเลือกหลอดไฟ ให้เหมาะกับการใช้งาน และถูกหลักฮวงจุ้ย
การเลือกใช้แสงในบ้าน อาคาร หรือ สถานที่ทำงาน มาปรับให้ตรงตามหลักฮวงจุ้ย ก็ช่วยเสริมความปังได้ เปิดทริคเลือกหลอดไฟ ให้เหมาะกับการใช้งาน และถูกหลักฮวงจุ้ย
ความสมดุลแห่งหยินและหยาง ถือเป็นอีกหนึ่งความเชื่อของชาวเอเชียแสงสว่าง คือ พลังหยางที่เคลื่อนไหว สื่อถึงพลังชีวิตและโชคลาภ ส่วนพลังหยิน คือ ช่วงเวลากลางคืน แสงสว่างน้อย การปล่อยให้บ้านมืด ในช่วงกลางคืน จะทำให้เหมือนมีความหม่นหมองภายในบ้าน การจัดการเรื่องแสงสว่าง จึงเป็นการจัดการให้เกิดพลังงานที่ไหวเวียนภายในบ้านอย่างสมดุลนั่นเอง แม้ว่าเราจะมีการตกแต่งอาคารสถานที่แบบผิดหลักฮวงจุ้ยไปก่อนหน้านี้แล้ว การเลือกใช้แสงสว่างมาปรับให้ตรงตามหลักฮวงจุ้ย ก็ช่วยได้ไม่แพ้กับการต้องทุบ หรือ รื้อตกแต่งใหม่เลยทีเดียว แก้ไขได้ด้วยการจัดแสงไฟ เช่น ใช้โคมไฟที่ปรับมาใช้แสงสว่างของหลอดไฟที่เหมาะสม แล้วไปติดตั้งในตำแหน่ง หรือ มุม ที่เว้าแหว่ง หรือ โค้งไป ก็ถือเป็นการแก้ฮวงจุ้ยได้ แต่รูปทรงของโคมไฟจะต้องเป็นทรงมนเท่านั้น
การจัดวางตำแหน่งไฟตามหลักฮวงจุ้ย
– บริเวณหน้าประตูรั้ว ควรใช้โคมไฟ หรือ หลอดไฟ 2 ดวง เพื่อสร้างความสมดุล โดยวางตำแหน่งไฟไว้ด้านข้างประตูทั้งสองด้าน และควรเปิดไฟให้แสงสว่างตลอดทั้งคืนเพื่อแก้พลังหยิน ถือเป็นการให้แสงสว่างดึงโชคลาภเข้าสู่บ้าน
– ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น หรือโถงกลางบ้าน ควรติดโคมไฟระย้า หรือหลอดไฟที่มีแสงสว่างโดดเด่น เพราะบริเวณกลางบ้านถือเป็นธาตุดิน แสงสว่างจากหลอดไฟที่ถูกต้องจะช่วยเสริมพลัง ให้ความมงคลแก่บ้าน
– ห้องนอน ไม่ควรใช้โคมไฟประเภทหลอดเปลือย หรือหลอดไฟที่ให้แสงสว่าง มากจนเกินไป และไม่ควรติดตำแหน่งไฟไว้ตรงกับเตียงนอน เพราะนอกจาก จะสร้างการรบกวนการนอนแล้ว จำนวนของหลอดไฟในห้องนอน ไม่ควรเป็นจำนวน 7, 9 และ 11 ดวง เพราะจะหมายถึงการแบกรับภาระหนักอับโชคนั่นเอง
– ห้องทำงาน เป็นห้องที่ต้องการชีวิตชีวา ต้องการพลัง ควรเลือกใช้หลอดไฟที่ให้แสงสว่างมาก
เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหว ส่วนจำนวนหลอดไฟนั้นไม่ควรเป็นจำนวน 7, 9 และ 11 ดวง เช่นกัน
– ห้องน้ำ ควรใช้ไฟที่สว่าง เพราะห้องน้ำมีความชื้นมาก อับทึบ ยิ่งถ้าเป็นห้องน้ำที่ไม่มีแสงจากธรรมชาติส่องถึง ยิ่งต้องใช้ไฟที่สว่างเป็นพิเศษ เพื่อเผาผลาญเชื้อโรค และลดความอับชื้น
– ไฟบันได เป็นจุดขึ้น-ลง และมีความลาดชัน ถ้าบริเวณบันไดไม่ติดดวงไฟ โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ
ลื่นล้ม หรือตกบันไดก็มีมาก ต้องใช้แสงที่สว่างมากเช่นกัน
– ไฟระเบียง หรือ บริเวณระเบียงบ้าน ดาดฟ้า ถือเป็นจุดรับพลังชี่ที่ดี ควรติดไฟ
และเปิดไว้ในช่วงเวลากลางคืน เพื่อเปิดรับพลังชี่ที่ดีเข้าสู่บ้าน
ควรติดหลอดไฟจำนวนเท่าไหร่เพื่อแก้เคล็ดตามหลักฮวงจุ้ย
- ติดหลอดไฟ 1 ดวง เหมาะแก่การติดตั้งบนโต๊ะทำงานหรือเคาน์เตอร์เก็บเงินทำให้มีพลังอำนาจ
- ติดหลอดไฟ 3 ดวงใช้ติดตั้งหน้าร้านที่ขายของเกี่ยวกับเหล็ก มีด ปืน นาฬิกา รถยนต์ โลหะที่ไม่ใช่ของสวยงาม
- ติดหลอดไฟ 5 ดวงเป็นเลขมงคลแสดงถึงความมั่นคงหนักแน่นใช้สำหรับออฟฟิศ หรือสถานที่ที่มีอาถรรพ์ต่างๆ
- ติดหลอดไฟ 6 ดวงเป็นเลขของดาวศุกร์ใช้สำหรับร้านขายอัญมณีเครื่องประดับ เสื้อผ้า อาหาร ของตกแต่งบ้าน
- ติดหลอดไฟ 7 ดวงไม่นิยมใช้เพราะเป็นเลขของดาวเสาร์จะนำมาซึ่งความร้อนรน
- ติดหลอดไฟ 8 ดวงใช้เสริมโชคลาภเป็นเลขมงคลของคนจีน
- ติดหลอดไฟ 9 ดวงใช้เสริมโชคลาภเป็นเลขมงคลของคนไทย
รู้หรือไม่? ทิศกับสีของไฟนั้นก็มีความสำคัญ
แม้แสงสีขาวจะถือเป็นแหล่งรวมพลังของทุกสีตามหลักฮวงจุ้ยที่ดี แต่เราสามารถใช้สีของไฟตามทิศทั้ง 4 ได้ ดังนี้
- ทิศเหนือ ธาตุน้ำ เลือกควรเลือกใช้ไฟสีโทนอ่อน เพื่อเสริมอาชีพการงาน
- ทิศใต้ ธาตุไฟ ควรเลือกสีไฟเป็นสีโทนร้อน เหมาะกับแสงสีแดงจะช่วยเสริมเรื่องชื่อเสียง
- ทิศตะวันออก ธาตุไม้ เสริมด้านสุขภาพเหมาะกับไฟสีเขียว
- ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ธาตุดิน เสริมด้านการงาน การศึกษา
- ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ธาตุดิน เสริมโชคด้านความรัก
- ทิศตะวันตก ธาตุโลหะ ติดไฟสีขาว เสริมเรื่องบริวาร มิตรสหาย
ที่มาข้อมูล homehub.co.th