ไลฟ์สไตล์

เรื่องน่ารู้ของพาสปอร์ตไทย มีสิทธิประโยชน์ทำอะไรได้บ้าง?

เรื่องน่ารู้ของพาสปอร์ตไทย มีสิทธิประโยชน์ทำอะไรได้บ้าง?

18 ธ.ค. 2567

เรื่องน่ารู้ของคนชอบเที่ยวเกี่ยวกับ "พาสปอร์ตไทย" มีสิทธิประโยชน์ทำอะไรได้บ้าง? เที่ยวได้ไม่ต้องขอวีซ่ากี่ประเทศ? สีของพาสปอร์ตบ่งบอกถึงอะไร?

 

หนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ตเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้ยืนยันตัวตน และสัญชาติของเพื่อน ๆ  ช่วยให้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ และยังทำหน้าที่เป็นหลักฐานว่าเป็นใคร มาจากไหน โดยทั่วไปจำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตเมื่อข้ามไปต่างประเทศและยังสามารถใช้เป็นเอกสารสำคัญในการระบุตัวตนเท่าเหมือนกับบัตรประชาชนสากลเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การขอใบอนุญาตขับรถ และอื่นๆ อีกมากมาย  

 

เรื่องน่ารู้ของพาสปอร์ตไทย มีสิทธิประโยชน์ทำอะไรได้บ้าง?

 

พาสปอร์ตไม่ได้มีแค่สีเดียวแล้วแต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร? 

 

สีเลือดหมู จะเป็นหนังสือเดินทางที่ทางกระทรวงต่างประเทศ ออกให้กับบุคคลธรรมดา โดยมีอายุของหนังสือเดินทางไม่เกิน 5 ปี


สีน้ำเงินเข้ม จะเป็นหนังสือเดินทางที่ออกให้ข้าราชการ สมาชิกรัฐสภา ที่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ รวมถึงบุคคลอื่นใดที่เดินทางไปทำประโยชน์ทางราชการตามที่กระทรวงต่างประเทศกำหนด โดยหนังสือเดินทางประเภทนี้จะมีอายุไม่เกิน 5 ปี


สีแดงสด เป็นพาสปอร์ตนักการทูต มีอายุ 5 ปี และไม่สามารถต่ออายุได้ หากนักการทูตทำหายรัฐบาลจะมีการทำหนังสือแจ้ง “ยกเลิกใช้หนังสือเดินทาง” ไปยังประเทศอื่นๆทั่วโลก เพื่อป้องกันมิให้มีผู้ปลอมแปลงสวมสิทธิ์ และนำไปก่อเหตุร้ายได้


สีเขียว  หนังสือเดินทางนี้ถูกเเบ่งออกเป็น 2 จำพวก คือ หนังสือเดินทางของพระภิกษุที่ถูกอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศโดยมหาเถรสมาคม เเละอีกพวกหนึ่ง คือ หนังสือเดินทางที่ออกให้ชาวมุสลิมเพื่อเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์โดยหนังสือเดินทางประเภทนี้จะมีอายุ 2 ปี เท่านั้น

 

เรื่องน่ารู้ของพาสปอร์ตไทย มีสิทธิประโยชน์ทำอะไรได้บ้าง?

 

พาสปอร์ต 10 ปีจ่ายค่าดำเนินการ  1,500 บาท ส่วนพาสปอร์ต 5 ปี 1,000 บาท  Update 36 ประเทศและดินแดน ที่คนไทยไปเที่ยวได้ไม่ต้องขอวีซ่า ปี 2567 แค่ถือพาสปอร์ตไทยก็เข้าประเทศไปเที่ยวได้เลย ตัวเลขในวงเล็บ = จำนวนวันที่พำนักอยู่ได้ในประเทศปลายทาง  (หลังชื่อประเทศ) คือ ประเทศและดินแดนที่ประกาศยกเว้นการตรวจลงตราแก่ไทยฝ่ายเดียว ที่เหลือนอกนั้นคือ ประเทศที่ทำความตกลงทวิภาคีกับไทย

 

 

เรื่องน่ารู้ของพาสปอร์ตไทย มีสิทธิประโยชน์ทำอะไรได้บ้าง?

 

 

ทวีปเอเชีย 

  • ญี่ปุ่น* (15 วัน)
  • จีน (30 วัน) *เริ่ม 1 มีนาคม 2567
  • มณฑลไห่หนาน* (30 วัน) (เกาะทางใต้ของจีน)
  • ไต้หวัน* (14 วัน) *ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2566 – 31 กรกฎาคม 2568
  • มัลดีฟส์* (30 วัน)
  • ลาว (15 วัน)
  • สิงคโปร์* (30 วัน)
  • ฮ่องกง (30 วัน)
  • เวียดนาม (30 วัน)
  • มาเลเซีย* (30 วัน)
  • อินโดนีเซีย* (30 วัน)
  • ฟิลิปปินส์* (30 วัน)
  • เมียนมา (14 วัน) *International Airport Only
  • กัมพูชา (14 วัน)
  • มาเก๊า (เขตบริหารพิเศษของสาธารณรัฐประชาชน จีน) (30 วัน)
  • บรูไน* (14 วัน)
  • กาตาร์* (30 วัน)
  • บาห์เรน (14 วัน)
  • มองโกเลีย (30 วัน)
  • จอร์เจีย* (365 วัน)
  • คีร์กีซ* (60 วัน) *ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2564 – 31 กรกฎาคม 2568
  • ทาจิกิสถาน* (30 วัน)
  • คาซัคสถาน* (30 วัน)
  • เกาหลีใต้* (90 วัน) *ต้องกรอก K-ETA / ชำระค่าธรรมเนียม / รอผลอนุมัติผ่านอีเมลก่อน (หากไม่ได้ต้องขอวีซ่า)
  • อินเดีย* (30 วัน) ยกเว้นค่าธรรมเนียม E-Tourist Visa ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2567 - 31 ธันวาคม 2567

 

ทวีปยุโรป

  • แอลเบเนีย* (90 วัน) (*ตั้งแต่ 6 มีนาคม 2567 - 31 ธันวาคม 2567)
  • รัสเซีย (30 วัน)
  • ทูร์เคีย* (หรือ ตุรกี ทั้งฝั่งทวีปยุโรปและเอเชีย) (30 วัน)

 

ทวีปอเมริกาใต้

  • อาร์เจนตินา (90 วัน)
  • บราซิล (90 วัน)
  • ชิลี (90 วัน)
  • เอกวาดอร์* (90 วัน)
  • เปรู (90 วัน)

 

ทวีปอเมริกากลาง

ปานามา* (180 วัน)

 

ทวีปแอฟริกา

  • แอฟริกาใต้* (30 วัน)
  • เซเชลส์ (30 วัน)
  • เคนย่า (90 วัน)

 

ทวีปโอเชียเนีย (หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก)

วานูอาตู* (30 วัน)

 

ประเทศที่สามารถขอ Visa on Arrival (VOA) ได้ ปี 2567

  • จอร์แดน (30 วัน)
  • โอมาน (30 วัน)
  • เนปาล (15 / 30 / 90 วัน)
  • โบลิเวีย (30 วัน)
  • ฟิจิ (4 เดือน)
  • นีอูเอ (30 วัน)
  • หมู่เกาะโซโลมอน (3 เดือน)
  • ติมอร์-เลสเต (30 วัน)
  • บาร์เรน (14 วัน)
  • นิการากัว (30 วัน)

 

หมายเหตุ 

ข้อมูลอ้างอิงจากกรมการกงสุล กรุณาตรวจสอบข้อมูลอัพเดทประเทศปลายทางอีกครั้งก่อนเดินทาง เนื่องจากเป็นการอนุญาตของประเทศปลายทางซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้  การขอ Visa on Arrival อาจมีค่าธรรมเนียมตามแต่ละประเทศ และข้อมูลต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาตรวจสอบทุกครั้งก่อนเดินทาง