
นักดาราศาสตร์พบบริวารใหม่ของดาวเสาร์เพิ่ม รวมเป็น 145 ดวง
นักดาราศาสตร์พบบริวารใหม่ของดาวเสาร์เพิ่ม รวมเป็น 145 ดวง ทวงคืนบันลังก์ ราชาแห่งดวงจันทร์บริวาร กลายเป็นดาวเคราะห์ที่มีดวงจันทร์บริวารมากที่สุดในระบบสุริยะ
หลังจากที่เสียแชมป์ให้แก่ดาวพฤหัสบดีไปไม่ถึงครึ่งปี ดาวเสาร์ก็ทวงตำแหน่งคืนได้อีกครั้ง เมื่อนักดาราศาสตร์พบบริวารของดาวเสาร์เพิ่มขึ้นคราวเดียวถึง 62 ดวง เพิ่มจากของเดิม 83 ดวง ทำให้ยอดจำนวนบริวารของดาวเสาร์ตอนนี้มีมากถึง 145 ดวงแล้ว กลายเป็นดาวเคราะห์ที่มีดวงจันทร์บริวารมากที่สุดในระบบสุริยะ ส่วนดาวพฤหัสบดีแชมป์เก่ายังอยู่ที่ 95 ดวง เรียกว่าดาวเสาร์ ทวงคืนบันลังก์ 'ราชาแห่งดวงจันทร์บริวาร'
การค้นพบครั้งนี้เป็นผลงานของมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย ซึ่งสำรวจดาวเสาร์โดยใช้กล้องโทรทรรศน์แคนาดา-ฝรั่งเศส-ฮาวายที่อยู่บนบนยอดเขามานาเคอา ความสามารถของกล้องที่ทรงพลังอย่างเดียวไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการค้นพบครั้งสำคัญนี้ แต่เป็นเทคนิคการประมวลภาพที่คณะนี้นำมาใช้ เรียกว่า วิธีเลื่อนแล้วซ้อน
นักวิทยาศาสตร์คณะนี้ได้ใช้ภาพถ่ายดาวเสาร์ที่ถ่ายระหว่างปี 2562 ถึง 2564 แล้วนำภาพถ่ายแต่ละภาพที่ถ่ายตามลำดับเวลากันมาวางให้เหลื่อมกันโดยให้มีระยะเหลื่อมสอดคล้องกับความเร็วในการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์บนท้องฟ้า แล้วนำภาพในแต่ละภาพมาซ้อนกัน วิธีนี้ช่วยให้จุดภาพของดวงจันทร์ดวงเล็กที่จางมากจนมองไม่เห็นในแต่ละภาพปรากฏเด่นชัดขึ้นมาได้ นักดาราศาสตร์เคยใช้เทคนิคนี้ในการค้นหาดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสและเนปจูนมาแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มีการใช้เทคนิคนี้กับดาวเสาร์
ดวงจันทร์ที่พบใหม่ทั้งหมดเป็นดวงจันทร์ประเภทดวงจันทร์อปกติ ซึ่งหมายถึงเป็นดวงจันทร์ที่มีวงโคจรกว้างและรีมาก มีระนาบวงโคจรทำมุมกับระนาบเส้นศูนย์สูตรของดาวเสาร์มากกว่าปกติ บางดวงถึงกับโคจรรอบดาวเสาร์ในทิศทางสวนทางกับการหมุนรอบตัวเองของดาวเสาร์ วงโคจรที่แปลกประหลาดเช่นนี้ทำให้นักดาราศาสตร์เชื่อว่าดวงจันทร์ประเภทนี้เป็นวัตถุจากที่อื่นที่ผ่านเข้ามาแล้วถูกสนามความโน้มถ่วงของดาวเสาร์คว้าจับเอาไว้เป็นบริวาร
ดวงจันทร์อปกติมักเกาะกลุ่มกัน นักดาราศาสตร์พบว่าดาวเสาร์มีกลุ่มของดวงจันทร์อปกติสามกลุ่ม คือกลุ่ม อินูอิต กัลลิก และนอร์ส กลุ่มนอร์สมีจำนวนดวงจันทร์มากที่สุด ในจำนวนดวงจันทร์ 62 ดวงที่เพิ่งพบใหม่นี้พบว่ากระจายกันไปทั้งสามกลุ่ม โดยอยู่ในกลุ่มนอร์สมากที่สุด นักดาราศาสตร์เชื่อว่าการที่มีการเกาะกลุ่มกันเช่นนี้ แสดงว่าดวงจันทร์เหล่านี้เป็นชิ้นส่วนที่แตกออกมาจากการชนครั้งใหญ่ในอดีต
ที่มา สมาคมดาราศาสตร์ไทย