"ภาวะลำไส้รั่ว" ภัยเงียบทำป่วยหลายโรค เช็คสัญญาณเตือนก่อนป่วยหนัก
รู้จัก "ภาวะลำไส้รั่ว" ภัยเงียบทำป่วยซ้ำซ้อนหลายโรค เช็คอาการเบื้องต้น สัญญาเตือน และวิธีดูแลตัวเองก่อนป่วยหนักแบบไม่รู้ตัว
"ภาวะลำไส้รั่ว" (Leaky Gut Syndrome) หรือ ภาวะการดูดซึมของ ลำไส้ ผิดปกติ มีสาเหตุมาจากเยื่อบุผนังลำไส้ทำงานผิดปกติ โดยทั่วไปแล้วเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้จะเรียงติดกัน เพื่อป้องกัน คัดกรอง และควบคุมสารพิษ รวมทั้งเชื้อโรคที่จะเข้าสู่กระแสเลือดหากเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้อักเสบ แต่ "ภาวะลำใส้รั่ว" จะเกิดการปล่อยให้อาหารที่ยังย่อยไม่สมบูรณ์และของอันตรายอย่างสารพิษผ่านไป แต่เยื่อบุลำไส้ของคนที่มี อาการลำไส้รั่ว จะไม่เรียงอักเสบเสียหายและมีรูอยู่ระหว่างเซลล์ผนังลำไส้ ส่งผลให้ลำไส้ดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดี
อาการของ "ภาวะลำไส้รั่ว" เนื่องจากเราไม่สามารถรู้ได้ด้วยตาว่าร่างกายกำลังเผชิญกับ "ภาวะลำไส้รั่ว" หากไม่ทำการตรวจวินิจฉัย เอ็กซเรย์อย่างละเอียด แต่หากเรากังเป็นภาวะดังกล่าว จึงสามารถสั่งเกต อาการลำไส้รั่ว ได้ดังนี้
- ปวดศีรษะหรือปวดตามข้อต่าง ๆ
- มีแก๊สในอวัยวะระบบทางเดินอาหารมากผิดปกติ
- ไม่สามารถย่อยอาหารบางชนิดได้ โดยเฉพาะอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต
- แพ้อาหารแฝง
- ปวดท้องบ่อยๆ
- ท้องเสียเรื้อรัง หรือท้องผูก 1 ครั้งต่อสัปดาห์ขึ้นไป
- ท้องอืดอาหารไม่ย่อยเป็นประจำ
- เหนื่อยง่าย และอ่อนเพลียแม้ว่าจะแพ้ได้รับการผ่อนอย่างเพียงพอ
- มีผื่นคัน
- น้ำหนักขึ้นผิดปกติ
- มือและเท้าเย็น
ผลข้างเคียงจาก "ภาวะลำไส้รั่ว" คือร่างกายจะได้รับสารอาหารได้น้อยลง ในผู้ป่วยบางรายเริ่มขาดสารอาหาร ร่างกายยังเกิดการอักเสบมากขึ้น เพราะได้รับสารพิษและสารก่อความอักเสบสะสม หากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานานจะเกิดความผิดปกติในส่วนอื่นๆ ของร่างกายตามมา หรืออาจเกิดโรค ทั้งนี้ "ภาวะลำไส้รั่ว" อาจเป็นต้นเหตุของอาการต่อไปนี้
- ความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องผูก อาหารไม่ย่อย
- ลำไส้อักเสบเรื้อรัง
- ระบบเผาผลาญเสียหาย น้ำหนักขึ้นได้ง่าย เสี่ยงโรคเบาหวานและโรคอ้วน
- สิวอักเสบเรื้อรัง
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ปวดตามตัวและข้อ
- ภาวะภูมิแพ้ตัวเอง หรือโรคเซลิแอค
- อาการแพ้อาหาร
- ภาวะขาดสารอาหาร
การรักษา "ภาวะลำไส้รั่ว" สามารถรักษาให้หายได้ทั้งการพบแพทย์ และดูแลตัวเอง โดยเฉพาะการปรับรูปแบบการรับประทานอาหาร งดอาหารบางประเภท เพื่อรักษาสมดุลของ ลำไส้ ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้
- ลดการรับประทานแป้ง และน้ำตาลขัดขาว
- เลือกรับประทานข้าวไม่ขัดสี ขนมปังโฮลวีท และน้ำตาลทรายแดง
- รับประทานอาหารให้หลากหลายขึ้น เพื่อลดการได้รับสารเคมีชนิดเดียวนานๆ
- เน้นการรับประทานผัก ผลไม้ และดื่มน้ำให้มากขึ้น
- รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
ขอบคุณข้อมูล : petcharavejhospita,Bluzone
ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w