"ข้าวโพด" ธัญพืช หวานอร่อย สรรพคุณเต็มฝัก สารพัดประโยชน์
"ข้าวโพด" ธัญพืช ที่คนทุกเพศ ทุกวัยนิยมรับประทาน แถมยังมีสรรพคุณ สารพัด คุณประโยชน์ เต็มฝัก หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง
“ข้าวโพด” ธัญพืชรสหวาน ที่คนทุกเพศทุกวัย นิยมรับประทาน ด้วยการนำมาต้มสุก จะได้รสชาติหวานอร่อย เคี้ยวอร่อย และยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์สำคัญมากมายที่จำเป็นต่อร่างกาย การทานข้าวโพดต้มเพียงแค่ 1 ฝักต่อวัน สามารถให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากมายเพราะ ข้าวโพดต้มเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อะไรบ้างเราลองไปดูกันเลย
- สารอาหารสำคัญมากมาย
ข้าวโพด นอกจากจะมีมีคาร์โบไฮเดรต เป็นองค์ประกอบหลักแล้ว ยังมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟอสฟอรัส แมกนีเซียม แมงกานีส ซิลีเนียม สังกะสี และเหล็ก วิตามินมากมาย โดยเฉพาะวิตามินบีชนิดต่าง ๆ ที่มีอยู่เกือบครบวิตามินบีรวม
- ดีต่อระบบย่อยอาหาร
เพราะในข้าวโพดมีเส้นใยอาหารในปริมาณสูง และส่วนใหญ่เป็นเส้นใยชนิดไม่ละลายน้ำ ซึ่งมีคุณสมบัติ ช่วยกระตุ้นในการทำงานของลำไส้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย และการทำงานของลำไส้ดีขึ้น การทานข้าวโพดจึงช่วยให้เราขับถ่ายดีขึ้น ลดอาการท้องเสีย ป้องกันอาการท้องผูก ริดสีดวงทวาร และโรคมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย
- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
สารลูทีน และซีแซนทีน ที่อยู่ในข้าวโพด มีส่วนช่วยปกป้องดวงตา ลดความเสี่ยงของการเสื่อมสภาพของต้อกระจก ในขณะเดียวกันสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ป้องกันการเกิดโรคทางระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์ นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ในการทำลายเซลล์ที่เสื่อมสภาพหรือ เซลล์ที่ผิดปกติในร่างกายอีกด้วย
- ต้านโรคมะเร็ง
ในข้าวโพดต้มสุกจะมีกรดเฟอรูลิก ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยรักษาโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งตับได้ และยังช่วยล้างพิษอนุมูลอิสระที่ไปทำอันตรายกับเซลล์ในร่างกาย มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลงไปได้ระดับหนึ่ง
- ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ บำรุงหัวใจ
การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำส่งผลให้ร่างกายสะสมไขมันไม่ดีในเลือด อาจเกิดคราบไขมันตามผนังหลอดเลือดหัวใจซึ่งส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจตีบและอุดตันได้ การรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูงโดยเฉพาะธัญพืชอย่างข้าวโพดอาจช่วยลดระดับไขมันในเลือดซึ่งช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้ รวมถึงข้าวโพดอาจช่วยลดระดับไขมันชนิดไม่ดีและไขมันคอเลสเตอรอลรวมในผู้ป่วยหรือผู้ที่มีความเสี่ยงเผชิญโรคหลอดเลือดหัวใจได้
คมชัดลึก ยังมีเนื้อหาสาระอื่นๆ ดูเพิ่มเติมได้ที่
Website - www.komchadluek.net
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057