ไขข้อข้องใจ 'กินเผ็ด' แล้ว ดื่ม 'น้ำอัดลม' ช่วยได้จริงหรือ?
เวลา 'กินเผ็ด' แล้วรู้สึกปวดท้อง เกิดจากการที่พริกทำให้เกิดกรดในกระเพาะ แล้วถ้าในกระเพาะมีกรดมากก็จะทำให้แสบท้อง ท้องอืด หรือปวดท้องได้
แพทย์จากโรงพยาบาลราคำแหง อธิบายว่า ปกติแล้วลิ้นคนเราสามารถรับรสได้ 4 รสชาติ คือ เปรี้ยว หวาน เค็ม และขม ส่วนเผ็ดนั้นไม่ใช่รสชาติ แต่คืออาการแสบร้อนที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีของสารชนิดหนึ่งในพริกที่ชื่อว่า แคปไซซิน
แม้พริกจะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ แต่ก็ไม่ได้มากมายถึงขั้นทำให้กระเพาะทะลุได้ เพียงแค่เวลาที่เรา กินเผ็ด แล้วรู้สึกปวดท้องเกิดจากการที่พริกทำให้เกิดกรดในกระเพาะ แล้วถ้าในกระเพาะมีกรดมากก็จะทำให้แสบท้อง ท้องอืด หรือปวดท้องได้
อีกอย่างหนึ่งคือพริกจะช่วยให้เจริญอาหาร ทำให้กินอาหารได้มากขึ้น และถ้าเผลอกินมากไปก็จะอ้วนได้เหมือนกัน นอกจากนั้นการกินพริกมากๆ จะทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายทำงานหนักขึ้น ดังนั้นคนที่เป็นโรคหัวใจอยู่ก็ควรหลีกเลี่ยง
คำถามต่อมาคือ เผ็ด แล้วต้องทำอย่างไรจึงจะหาย
สารที่ทำให้รู้สึกเผ็ดนั้นคือ แคปไซซิน ดังนั้นการดื่มน้ำมากๆ จึงไม่ช่วย เพราะสารตัวนี้ไม่ค่อยละลายน้ำ "กินเผ็ด" แล้วต้องทำยังไง? ก็แค่อยู่เฉยๆ เดี๋ยวน้ำลายของเราจะจัดการเอง หรือถ้ากินพวกนมหรือไอติมก็พอจะช่วยได้ เพราะแคปไซซินละลายได้ดีในน้ำมัน หลายคนชอบดื่มน้ำอัดลมแก้เผ็ด แต่ไม่อยากให้ดื่ม เพราะว่าช่วยไม่ได้สักเท่าไร และที่สำคัญไม่ดีต่อสุขภาพด้วย
แล้วน้ำอัดลมไม่ดีอย่างไร
อย่างแรกเลย คือมีน้ำตาลมาก อย่าง น้ำอัดลม 1 ขวด ก็มีประมาณ 9 ช้อนชา (ปกติให้กินได้ไม่เกิน 6 ช้อนชา) ถ้ากินแบบนานๆ ครั้งคงไม่เป็นไร แต่ถ้ากินทุกวันก็เสี่ยงจะเป็นโรคอ้วนหรือเบาหวานได้ แล้วความหวานที่ว่าก็ยังทำให้ฟันผุ และไปทำลายสารเคลือบฟันของเราด้วย
เมื่อ น้ำอัดลม ลงสู่กระเพาะด้วยความที่มีก๊าซอยู่ พอลงไปเยอะๆ ก็จะทำให้ท้องอืด อาหารไม่ย่อย จุกเสียดตามมา คนที่เป็นโรคกระเพาะอยู่จึงไม่ควรดื่ม เพราะจะทำให้อาการหนักขึ้น แล้วจะแน่นท้องทำให้ไม่อยากกินอะไร ซึ่งนานๆ เข้าก็จะทำให้เราเป็นโรคขาดสารอาหารได้
...สรุปก็คืออะไรก็ตามในโลก เราควรกินให้พอดี ถ้ามากไปบ่อยไปก็ส่งผลเสียกับร่างกายได้ทั้งนั้น...