การบริจาคโลหิต ได้มากกว่าการช่วยชีวิตแต่ยังได้สุขภาพที่ดีกลับมาด้วย

การบริจาคโลหิตเป็นการกระทำที่น่ายกย่อง ไม่เพียงแต่ช่วยเหลือผู้ที่ต้องการเท่านั้น แต่ยังช่วยผู้บริจาคด้วย การบริจาคโลหิตถือเป็นการช่วยเหลือชุมชน ขณะเดียวกันก็ได้รับประโยชน์ต่อสุขภาพและความรู้สึกดีขึ้นทางอารมณ์ มีการกล่าวกันว่าการบริจาคโลหิตเพียงครั้งเดียวสามารถช่วยชีวิตคนได้ถึง 3 คน โดยสามารถแยกออกเป็นเม็ดเลือดแดง เกล็ดเลือด และพลาสมาสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย  การบริจาคโลหิตไม่ได้เป็นอันตรายต่อผู้บริจาคโดย 1 คนจะบริจาคโลหิต ครั้งละ 350 – 450 ซีซีหรือคิดเป็นร้อยละ 10 – 12 ของปริมาณโลหิตทั้งหมดในร่างกาย หลังจากการบริจาคแล้ว ไขกระดูกในร่างกายจะทำการสร้างเม็ดเลือดใหม่ขึ้นทดแทนอย่างต่อเนื่อง โดยเม็ดเลือดแดงที่สร้างขึ้นใหม่นั้นจะไหลเวียนในร่างกายยาวนานประมาณ 120 วัน

 

 

ประโยชน์ของการบริจาคเลือด

ช่วยกระตุ้นการทำงานของโขกระดูก ในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงช่วยให้ทราบหมู่โลหิตของตนเองในระบบ ABO และ Rhช่วยให้มีระบบไหลเวียนโลหิตที่ดี

 

1. ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ 
การบริจาคเลือดอาจช่วยควบคุมระดับธาตุเหล็กในร่างกาย ลดความหนาของเลือด และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ การไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้นจะช่วยลดความเครียดของผนังหลอดเลือด  

 

2. การจัดการน้ำหนัก 
การบริจาคโลหิตช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้บ้าง 

3. ลดระดับธาตุเหล็กในผู้ที่เป็นโรคฮีโมโครมาโตซิส 
หากคุณเป็นโรคฮีโมโครมาโตซิสที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม การบริจาคโลหิตเป็นวิธีการจัดการอย่างหนึ่ง โดยจะช่วยกำจัดธาตุเหล็กส่วนเกินในเลือดของคุณ และช่วยควบคุมปริมาณธาตุเหล็กที่มากเกินไป ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม 

 

4. ความเป็นอยู่ที่ดีทางอารมณ์ 
การบริจาคโลหิตสามารถสร้างความพึงพอใจทางอารมณ์ได้ คุณรู้ว่าคุณกำลังเปลี่ยนแปลงชีวิต และรู้สึกดีกับมัน อาจช่วยลดความเครียด ปรับปรุงสุขภาพทางอารมณ์ 

 

 

แม้ว่าการบริจาคเลือดจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงและข้อเสียได้ หลังจากที่บริจาคเลือดไปแล้ว อาจรู้สึกเวียนศีรษะ มึนงง อ่อนแรง คลื่นไส้ มีเลือดออกหรือรู้สึกไม่สบายบริเวณที่ฉีด ซึ่งโดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะเป็นอาการข้างเคียงชั่วคราวที่หายไปภายในหนึ่งวัน การดื่มน้ำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบายได้ 

 

คลิกดูขั้นตอนขั้นตอนการบริจาคโลหิตที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย