ไลฟ์สไตล์

คนไทยเกิดก่อนปี 2523 ปลูกฝีแล้วลดความเสี่ยงติดเชื้อ "ฝีดาษลิง"

คนไทยเกิดก่อนปี 2523 ผ่านการปลูกฝีแล้วลดความเสี่ยงติดเชื้อ "ฝีดาษลิง"  ได้ซึ่งจะมีภูมิต่อต้านฝีดาษลิง คุ้มกันได้นานถึง 92 ปี ทำให้มีความเสี่ยงน้อยลง ส่วนคนที่อายุต่ำกว่า 44 ปี จะไม่มีภูมิ แล้วปลูกฝีป้องกันฝีดาษ ต้องมีแผลเป็นแบบไหนที่หัวไหล่ เช็กรายละเอียดได้ที่นี่

 

ขณะนี้วัคซีนฝีดาษวานร (Monkey pox) เป็นการใช้วัคซีนไข้ฝีดาษ (Small pox) แต่เป็นตระกูลเดียวกันกับฝีดาษวานร ซึ่งคนไทยที่เกิดก่อนปี พ.ศ.2523 จะได้รับวัคซีนไข้ฝีดาษ หรือการปลูกฝีแล้ว สามารถลดความเสี่ยงการติดเชื้อฝีดาษวานรได้ โดยทางสภากาชาดไทยประกาศให้บริการวัคซีนป้องกันโรค ฝีดาษวานร ระบุว่า ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่มีความประสงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษวานร สามารถเข้ารับบริการวัคซีนได้ที่ตึกราชูทิศ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย โดยมีการบริการฉีด 2 วิธี ดังนี้  วิธีที่ 1 ฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง (ขนาดเต็มโดส 0.5 ML) ราคาเข็มละ 8,500 บาท ฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 28 วัน และวิธีที่ 2 ฉีดเข้าชั้นผิวหนัง (ครั้งละ 0.1 ML) ราคาจุดละ 2,200 บาท ฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 28 วัน (ต้องมาพร้อมกัน 4 ท่าน) 

 

คนไทยเกิดก่อนปี 2523 ปลูกฝีแล้วลดความเสี่ยงติดเชื้อ \"ฝีดาษลิง\"

 

ฝีดาษวานร เกิดตั้งแต่ปี 1958 เกิดในลิง และจากนั้นในปี 1970  หรือพ.ศ.2513 ข้ามมาติดในคน จากประเทศคองโก  และเริ่มแพร่ระบาดในบริเวณแถบแอฟริกากลางและตะวันตก และพบมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่ง องค์การอนามัยโลกได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ คนไทยที่ได้รับวัคซีนฝีดาษ หรือได้รับการปลูกฝีดาษในอดีตเมื่อ 40 ปีก่อน  แต่หลังจากปี 2523 จะไม่ได้มีการปลูกฝีดาษอีก เพราะขณะนั้นกวาดล้างฝีดาษหมดแล้ว คนก่อนเกิดปี 2523 จะได้รับการปลูกฝีทุกคน ซึ่งจะมีภูมิต่อต้านฝีดาษลิง คุ้มกันได้นานถึง 92 ปี ทำให้มีความเสี่ยงน้อยลง ส่วนคนที่อายุต่ำกว่า 44 ปี จะไม่มีภูมิ 

 

คนไทยเกิดก่อนปี 2523 ปลูกฝีแล้วลดความเสี่ยงติดเชื้อ \"ฝีดาษลิง\"

ปลูกฝีป้องกันฝีดาษ ต้องมีแผลเป็นแบบไหน?

การปลูกฝี ภาษาอังกฤษเรียกว่า Vaccination คือ การฉีดวัคซีนอย่างหนึ่ง โดยจะนำเอาเชื้อไวรัสในหนองฝี เข้าไปอยู่ในชั้นผิวหนังบริเวณต้นแขนของผู้ที่ยังไม่เคยเป็นโรค เพื่อให้เชื้อเพิ่มจำนวนต่อไปและช่วยกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกันต่อโรค ซึ่งกระบวนการนี้จะก่อให้เกิดตุ่มหนองเฉพาะที่ขึ้นมา และเมื่อภูมิคุ้มกันเอาชนะเชื้อไวรัสได้ ตุ่มหนองนั้นก็จะค่อย ๆ แห้งและตกสะเก็ดเป็นแผลเป็นบนร่างกาย

ปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ
•แผลเป็นมีลักษณะแบนเรียบ หรือเป็นหลุมลงไปเล็กน้อย
•ขนาดประมาณเหรียญบาทขึ้นไป
•การตรวจสอบแผลเป็น ส่วนใหญ่จะฉีดที่ต้นแขนซ้าย

ปลูกฝีป้องกันวัณโรค
•แผลจะเล็กประมาณ 5 มิลลิเมตร (เล็กกว่ากว่าปลูกฝีดาษ)
•มีการบุ๋มของผิว หรือนูนของผิว มากกว่าแผลเป็นจากวัคซีนป้องกันฝีดาษ


ถ้าเกิดหลัง 2523 ถือว่าไม่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษมาก่อน

ฝีดาษคนหรือไข้ทรพิษ ได้หมดไปจากโลกเรา โดยการประกาศขององค์การอนามัยโลกในปี 2523 ส่วนประเทศไทยเราไม่มีไข้ทรพิษมาตั้งแต่ปี 2517 นั่นคือประเทศไทยเริ่มทยอยเลิกปลูกฝีตั้งแต่ปี 2517 และทั่วโลกเลิกปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษตั้งแต่ปี 2523 ผู้ที่เคยปลูกฝีดาษมาแล้วภูมิคุ้มกันจะลดลงช้ามาก โดยมีครึ่งชีวิตนานถึง 92 ปี แยกเป็นในผู้ชาย 99 ปี และในผู้หญิง 85 ปี ดังนั้นผู้ที่เคยปลูกฝีดาษมาเมื่อ 50 ปีก่อน ก็จะมีระดับภูมิคุ้มกันเพียงพอต่อโรคฝีดาษลิง

 

 

คนไทยเกิดก่อนปี 2523 ปลูกฝีแล้วลดความเสี่ยงติดเชื้อ \"ฝีดาษลิง\"

 

 

โดยทางกรมควบคุมโรค แนะนำกลุ่มที่จำเป็นต้องการรับวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง 

 1.กลุ่มผู้ให้บริการทางการแพทย์ (HealthCare Worker) เช่น พยาบาลที่ต้องทำงานในพื้นที่ระบาด

 2.กลุ่มที่มีการสัมผัสเชื้อแล้ว เช่น คนที่มีเพศสัมพันธ์แล้วพบว่ามีเม็ดขึ้น ซึ่งยังสามารถรับวัคซีนได้ทันภายใน 4 วัน ภูมิคุ้มกันขึ้นจะป้องกันการติดเชื้อได้อาจจะไม่ถึง 100%  แต่ถ้ารับภายในวันที่ 5-14 จะป้องกันความรุนแรงได้ โดยจะต้องรับวัคซีน 2 เข็ม ห่างกัน 28 วัน

 

คนไทยเกิดก่อนปี 2523 ปลูกฝีแล้วลดความเสี่ยงติดเชื้อ \"ฝีดาษลิง\"

ข่าวยอดนิยม