ไลฟ์สไตล์

ใครว่าตดไม่สำคัญ!  ตดบ่อย เสียงดังผิดปกติ บอกปัญหาสุขภาพได้!

ใครว่าตดไม่สำคัญ! ตดบ่อย เสียงดังผิดปกติ บอกปัญหาสุขภาพได้!

01 ก.ย. 2567

ใครว่าตดไม่สำคัญ! ถึงแม้ว่าตด หรือ การผายลม อาจเป็นเรื่องปกติ แต่หากตดบ่อย มีกลิ่นแรง เสียงดังผิดปกติ นี่อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพได้อีกด้วย

การผายลม หรือ การตด เป็นเพียงกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกายในการขับไล่ลม หรือแก๊สผ่านลำไส้ใหญ่ เพราะทุกครั้งที่คุณรับประทานอาหาร ดื่มเครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่งในระหว่างที่พูดคุยกับผู้อื่น คุณจะกลืนอากาศเข้าไปด้วยโดยไม่รู้ตัว การตดในชีวิตประจำวันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่หลายคนอาจข้องใจว่า แล้วตดบ่อยแค่ไหนถึงจะเรียกว่า ปกติ แล้วตดดังและเหม็นเป็นสัญญาณอันตรายเกี่ยวกับสุขภาพหรือไม่

 

 

ใครว่าตดไม่สำคัญ!  ตดบ่อย เสียงดังผิดปกติ บอกปัญหาสุขภาพได้!

 

โดยปกติผู้ที่มีร่างกายอุดมสมบูรณ์และแข็งแรงจะตดประมาณ 14-23 ครั้งต่อวัน ซึ่งเมื่อใช้เกณฑ์นี้เป็นตัววัดความเหมาะสม การตดมากกว่า 23 ครั้งภายใน 1 วันจึงถือว่า “ผิดปกติ” ความผิดปกติที่ว่านี้อาจเกิดจากความผิดปกติบางอย่างภายในร่างกาย การรับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดแก๊สในร่างกายมากเกินไป  โดยลักษณะของกลิ่น และเสียง ของตดอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ 

 

ใครว่าตดไม่สำคัญ!  ตดบ่อย เสียงดังผิดปกติ บอกปัญหาสุขภาพได้!

 

ตดกับปัญหาสุขภาพที่ควรรู้

ตดมีกลิ่น เกิดจากการรับประทานที่มีเส้นใยสูง เช่น หน่อไม้ฝรั่ง กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ อาหารเหล่านี้ใช้เวลาค่อนข้างนานในการย่อยอาหาร อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดได้

ตดมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ การติดเชื้อทางเดินอาหาร ส่งผลให่แก๊สมีปริมาณสูงกว่าปกติและมีกลิ่นเหม็นรุนแรง ผู้ที่มีอาการติดเชื้อทางเดินอาหารอาจมีอาการปวดท้องและท้องเสีย

ตดไม่มีกลิ่น อาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนน้อย 

 

ใครว่าตดไม่สำคัญ!  ตดบ่อย เสียงดังผิดปกติ บอกปัญหาสุขภาพได้!

 

ภาวะ หรือความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับตด

การตดบ่อยเกินไปเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะสุขภาพภายในได้ โดยภาวะ หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับการตดมีดังต่อไปนี้

  • โรคมะเร็งลำไส้ (Colon Cancer)
  • โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome: IBS)
  • การทำงานผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร (Functional GI Disorders)
  • การแพ้อาหารที่มีส่วนประกอบของแลคโตส (Lactose) เช่น นมวัว โยเกิร์ต
  • ภาวะที่เกี่ยวของกับกระเพาะอาหาร เช่น อาหารเป็นพิษ (Food poisoning)
  • แผลในกระเพาะอาหาร (Peptic ulcer)
  • โรคเบาหวาน (Diabetes)
  • โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome: IBS)
  • โรคโครห์น (Crohn’s Disease)
  • โรคเซลิแอค (Celiac Disease) หรือโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อโปรตีนกลูเตน
  • โรคลำไส้อักเสบ (Ulcerative Colitis)
  • โรคระบบทางเดินอาหารอักเสบ (Inflammatory Bowel Disease)
  • โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease)
  • โรคมะเร็งรังไข่ (Ovarian cancer)

 

ใครว่าตดไม่สำคัญ!  ตดบ่อย เสียงดังผิดปกติ บอกปัญหาสุขภาพได้!

 

ภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับตด

ตดเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม หากตดมากขึ้นผิดปกติ และมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ร่วมด้วยดังต่อไปนี้ ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง และหาทางรักษาโดยเร็วที่สุด

  • มีเลือดปนในอุจจาระ
  • มีภาวะกลั้นอุจจาระไม่ได้
  • น้ำหนักลดอย่างหาสาเหตุไม่ได้
  • ท้องเสีย
  • ท้องผูก
  • ท้องอืด
  • มีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น ไข้ขึ้นสูง อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ

 

ใครว่าตดไม่สำคัญ!  ตดบ่อย เสียงดังผิดปกติ บอกปัญหาสุขภาพได้!