โรคหนอนพยาธิ ภัยร้ายที่มากับมื้อแซ่บ อย่าเสี่ยง! กินสุกๆดิบๆตุยไม่รู้ตัว
"โรคหนอนพยาธิ" ภัยร้ายที่มากับมื้อแซ่บ อย่าเสี่ยง! กินสุกๆดิบๆ หากป่วยหนักกลายเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในตับได้ หรือขั้นร้ายแรงที่สุดอาจทำให้เสียชีวิตได้
อาหารต่างๆ นั้นให้ประโยชน์ แต่ถ้ากินมากเกินไปหรือไม่ถูกวิธี อาจจะเป็นอันตรายได้โดยไม่รู้ตัว เหมือนอย่างอาหารดิบที่มีรสชาติอร่อยถูกปาก แต่ก็แฝงด้วยเชื้อโรค แบคทีเรีย และสารปนเปื้อน
อย่าเสี่ยง! กินดิบตุยไม่รู้ตัว
- กินหมู หรือเลือดหมูที่ปรุงสุกเท่านั้น
- อาหารปิ้งย่าง ควรใช้อุปกรณ์คีบหมูดิบและเนื้อหมูสุกแยกจากกัน
- ไม่กินหมูดิบร่วมกับดื่มสุรา
- เลือกซื้อเนื้อหมูจากแหล่งที่เชื่อถือได้
- ไม่สัมผัสเนื้อหมูและเลือดดิบด้วยมือเปล่า
- หากมีอาการป่วย สงสัยโรคไข้หูดับโดยมีไข้สูง ปวดศีรษะ ร่วมกับประวัติเสี่ยง ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที
อีกหนึ่งอันตรายที่มาพร้อมกับอาหารดิบ คือ ‘โรคหนอนพยาธิ’ ที่เกิดจากพฤติกรรมการรับประทานเนื้อที่ไม่ปรุงสุก ทำให้พยาธิเหล่านี้ไม่ตาย เช่น ‘พยาธิตัวตืด’ พบได้ในเนื้อหมูหรือวัว เกิดจากการที่หมูหรือวัวกินไข่ของพยาธิตัวตืดเข้าไป หลังจากไข่ฟักเป็นตัวอ่อนแล้วจะไปฝังตัวอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ ของสัตว์ ลักษณะเป็นถุงน้ำใส ๆ ขาว ๆ คล้ายเม็ดสาคู
เมื่อคนรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีพยาธิชนิดนี้เข้าไป พยาธิก็จะเจริญเติบโตแล้วไปเกาะอยู่ตามผนังลำไส้เล็ก ลักษณะเป็นตัวแบน ๆ คล้ายเส้นบะหมี่ที่เรารับประทาน ระยะแรกอาจจะไม่มีอาการอะไรมาก แต่เมื่อเกิดการสะสมมากขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นระยะเวลานาน จะมีอาการท้องอืด เจ็บบริเวณชายโครง หรือถึงขั้นมีอาการอักเสบของท่อน้ำดี ตัวเหลือง ตาเหลือง ตับโต กลายเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในตับได้ หรือขั้นร้ายแรงที่สุดก็อาจถึงตายได้เลย
พยาธิอีกหนึ่งชนิดที่พบได้จากการรับประทานปลาน้ำจืดดิบ หอย หรืออาหารหมักดองอย่างปราร้า ปลาส้ม นั่นคือ ‘พยาธิใบไม้ตับ’ เมื่อคนกินถุงซีสต์ตัวอ่อนของพยาธิชนิดนี้เข้าไปโดยไม่รู้ตัว พยาธิจะไปเจริญเติบโตอยู่ที่ท่อน้ำดีที่ตับ มีลักษณะเป็นตัวรี แบนคล้ายใบไม้ เมื่อสะสมไปมากๆ เป็นเวลานาน จะเกิดการอักเสบของท่อน้ำดี ตับโต หรือเป็นมะเร็งตับ
ส่วนการรับประทานกุ้งฝอยในเมนูกุ้งเต้น ก็เสียงที่จะเจอกับ ‘พยาธิใบไม้ปอด’ เมื่อตัวอ่อนของพยาธิเติบโตจะไชเข้าไปในปอด ทำให้ปอดอักเสบ เจ็บหน้าอก และไอ หรือบางครั้งพยาธิอาจไชไปยังอวัยวะอื่น อย่างลำไส้เล็ก ตับ สมอง หรือตาได้อีกด้วย ส่วนกรณีที่มีป่วยรายหนึ่งที่จังหวัดพิษณุโลก เกิดอาการตาขวาบอดเมื่อต้นปี 2565 มีสาเหตุมากจาก ‘พยาธิปอดหนู’ ขึ้นตา เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้ชอบรับประทานอาหารดิบ ๆ โดยเฉพาะกุ้งแช่น้ำปลา
ส่วนเมนูอาหารที่มีส่วนประกอบเป็นเนื้อสัตว์ทะเลดิบ เช่นปลาแซลมอนดิบหรือปลาทูน่าดิบนั้น หลายคนอาจคิดว่าไม่มีพยาธิ แต่จริง ๆ แล้วก็พบได้เช่นกัน อย่าง ‘พยาธิอะนิซาคิส’ ที่คนญี่ปุ่นเป็นมากที่สุดในโลก โดยพยาธิชนิดนี้ทำให้มีอาการเลือดออกในกระเพาะ ปวดท้อง หรือท้องเสียได้ ที่น่ากลัวคือพยาธิชนิดนี้ไม่มียารักษา ใช้ยาถ่ายก็ทำไม่ได้เพราะตัวพยาธิฝังอยู่ที่กระเพาะอาหาร ต้องผ่าตัดคีบพยาธิออกเท่านั้น แต่พยาธิชนิดนี้สามารถป้องกันได้โดยการแช่แข็งที่อุณหภูมิต่ำกว่า -20 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 – 7 วัน หรือต่ำกว่า -35 องศาเซลเซียส อย่างน้อย 15 ชั่วโมง วิธีนี้สามารถฆ่าพยาธิได้ ทำให้คนไทยมักไม่พบคนเป็นโรคนี้เท่าไหร่เนื่องจากต้องนำเข้าปลาแช่แข็งจากต่างประเทศ