มะเร็งปอด ภัยร้ายที่ไม่ควรมองข้าม โรคร้ายลุกลามคร่าชีวิต "อ๋อม อรรคพันธ์"
จากกรณีสาเหตุการเสียชีวิตของพระเอกหนุ่ม "อ๋อม อรรคพันธ์" วัย 39 ปี ที่จากไปด้วยโรคมะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ ก่อนที่จะลามไปที่ปอด ซึ่ง "มะเร็งปอด" พบบ่อยในคนไทยเป็นภัยร้ายที่ไม่ครวมองข้าม มาดูปัจจัยเสี่ยงสาเหตุการเกิดโรคร้ายพรากชีวิต
ขอแสดงความเสียใจ กับการจากไปของ พระเอกหนุ่มมากความสามารถ "อ๋อม อรรคพันธ์" หลังป่วยมะเร็ง โดยอาการป่วยของพระเอกหนุ่มป่วยเป็นมะเร็ง มีก้อนเนื้อ บริเวณกล้ามเนื้อหัวใจ ขนาดยาว 12 เซนติเมตร มีการคีโมไปแล้ว 5-6 ครั้ง ทั้งยังมีส่วนที่ลามไปบริเวณปอด 2 จุด และมีการผ่านตัดแล้วแต่ท้ายที่สุด มะเร็งก็ได้คร่าชีวิตพระเอกหนุ่มไปในวันที่ 22 กันยายน 2567 หลังจากรักษาตัวนานร่วมสามปี “โรคมะเร็งปอด” พบบ่อยในคนไทย ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรค มะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดทั่วโลก สำหรับประเทศไทยโรคมะเร็งปอดถือเป็น 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบบ่อย ซึ่งพบมากเป็นอันดับ 2 ในเพศชาย และอันดับ 5 ในเพศหญิง แต่ละปีจะมีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 17,222 ราย เป็นเพศชาย 10,766 ราย และเพศหญิง 6,456 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 14,586 ราย หรือคิดเป็น 40 รายต่อวัน
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอด
- การสูบบุหรี่ – ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งปอด รวมถึงมะเร็งชนิดอื่นๆ โดยผู้ที่สูบบุหรี่จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดมากถึง 10 เท่า ของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
- ควันบุหรี่มือสอง – แม้จะไม่ได้สูบบุหรี่ แต่การได้รับควันบุหรี่มือสอง มือสาม จากกาสูดหายใจเข้าไปจะทำให้มีสารพิษตกค้างซึ่งก่อให้เกิดมะเร็ง
- การทำงานในอุตสาหกรรมที่มีสารก่อมะเร็ง – การสัมผัสสารก่อมะเร็ง เช่น โครเมียม ไรแย่หิน แร่เรดอน นิกเกิล เป็นต้น
- สภาวะแวดล้อมที่มีฝุ่นละอองพิษ – จากการศึกษาพบว่า ฝุ่น PM2.5 ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดได้มากถึง 1 – 1.4 เท่า ซึ่งถือว่ามีความร้อยแรงเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่
- พันธุกรรม – แม้โรคมะเร็งปอดจะไม่ได้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมโดยตรง แต่พบว่า หากมีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งปอดตั้งแต่อายุน้อยๆ สมาชิกในครอบครัวก็มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งปอดระยะแรกมักจะไม่มีอาการ แต่เมื่อโรคดำเนินไปมากขึ้นก็จะมีอาการแต่ก็มักไม่จำเพาะจึงอาจทำให้เกิดการวินิจฉัยที่ล่าช้ามีผลต่อระยะของโรคที่ลุกลามหรือแพร่กระจายไปมาก ส่งผลให้การรักษาได้ผลไม่ดีเท่าที่ควรและมีโอกาสการรักษาหายจากโรคน้อย โดยทั่วไปมะเร็งปอดมีสัญญาณเตือน เช่น อาการไอเรื้อรังมากกว่า 1 เดือน ไอมีเสมหะปนเลือด หายใจลำบาก เหนื่อยหอบง่ายมากกว่าปกติ เจ็บแน่นหน้าอก อ่อนเพลีย เป็นต้น หากมีอาการผิดปกติเหล่านี้ผู้ป่วยควรรีบปรึกษาแพทย์ ด้านการรักษามีวิธีหลัก ๆ ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และการฉายรังสี ซึ่งแพทย์จะพิจารณาจากระยะของโรค ตำแหน่งของก้อนมะเร็ง และการกระจายของโรค รวมถึงสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย
ปัจจุบัน การคัดกรองมะเร็งปอดในกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงที่ดีที่สุด คือ การทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ปอด แต่เนื่องด้วยมีค่าใช้จ่ายที่สูงจึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าได้ไม่ถึง จึงมีคำแนะนำให้ผู้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดมะเร็งปอดเข้ารับการตรวจคัดกรองโดยการเอกซเรย์ปอดเป็นประจำทุกปีเพื่อเป็นข้อมูลเปรียบเทียบในแต่ละปีว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสงสัยจะเป็นมะเร็งปอดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การป้องกันมะเร็งปอดด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคลงได้
คุณกำลังมีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่หรือไม่?!
สูบบุหรี่จัด มีอายุ 50 ปีขึ้นไป, เลิกสูบบุหรี่แล้ว แต่ยังหยุดสูบไม่ถึง 15 ปี, คนในครอบครัวสูบบุหรี่, มีโอกาสได้รับควันบุหรี่มือสอง, ทำงานใกล้ชิดกับสารเคมี หรือสารก่อมะเร็ง, สัมผัสฝุ่นควันหรือมลพิษทางอากาศเป็นเวลานาน, มีประวัติญาติสายตรงเป็นโรคมะเร็งปอด หากคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปอด และหมั่นตรวจร่างกายเป็นประจำสม่ำเสมอ