"ขมิ้นชัน" สู่ยาเพื่อผู้ป่วยโรคเบต้าธาลัสซีเมีย
"ขมิ้นชัน" พืชล้มลุกที่จัดอยู่ในตระกูลขิง มีเหง้าอยู่ใต้ดิน อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด สู่ยาเพื่อผู้ป่วยโรคเบต้าธาลัสซีเมีย
จากการศึกษาสารสกัดขมิ้นชันที่ได้มานั้น พบว่ามีฤทธิ์แอนตี้ออกซิแดนซ์ที่ดี ต้านการอักเสบที่ดี และช่วยเสริมการขับเหล็กในคนไข้ที่ได้รับยาขับเหล็กบางรายการ ซึ่งจะเสริมฤทธิ์ช่วยได้ดีขึ้น จึงคิดว่าน่าจะต่อยอดได้ เบื้องต้นผ่านขั้นตอนในหลอดทดลอง หนูทดลอง กระทั่งได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และกำลังจะศึกษาในกลุ่มประชากรที่มากขึ้น จึงจะร่วมมือกับทางรพ.ศิริราช ในการศึกษานับจากนี้ “การมียาตัวนี้จะเป็นตัวเสริมการรักษา และทำให้คุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยาตัวนี้จะเหมาะกับกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการถ่ายเลือดเป็นประจำ”
ขมิ้นชันอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และเกลือแร่ต่าง ๆ รวมไปถึงเส้นใย คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน เป็นต้น และขมิ้นชันมีสรรพคุณทางยาที่รักษาอาการและโรคต่าง ๆ ได้หลายชนิด มีประวัติในการนำมาใช้ในการรักษามากกว่า 5,000 ปี โดยในปัจจุบันการใช้สารสกัดจากขมิ้นชันเพื่อขับเหล็กและต้านการอักเสบในผู้ป่วยโรคเบต้า-ธาลัสซีเมีย-ฮีโมโกลบิน อี
ล่าสุดอภ. ได้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้ชื่อ นันท์ จีพีโอ - โกลบิเน็กซ์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากสารสกัดขมิ้นชัน ซึ่งขมิ้นชันที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบจากจ.น่าน ภายใต้มูลนิธิกสิกรไทย ซึ่งช่วยสนับสนุนให้ชุมชนปลูกพืชยา เพื่อใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่อไป โดยใน 1 แคปซูล ประกอบไปด้วย สารสกัดขมิ้นชันเทียบเท่าสารเคอร์คูมินอยด์ 250 มิลลิกรัม มีสรรพคุณลดความรุนแรงของภาวะเครียดออกซิเดชัน และใช้เสริมการรักษาเพื่อลดความรุนแรงของภาวะเหล็กเกินและภาวะอักเสบ ในผู้ป่วยโรคเบต้าธาลัสซีเมีย “ขณะนี้ได้ผ่านการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) แล้ว คาดว่าจะสามารถออกสู่ตลาดได้ในเร็วๆนี้ แต่จะเป็นการใช้ภายใต้แพทย์ในโรงพยาบาล ควบคู่กับการศึกษาประสิทธิผลของยาเพิ่มเติม ในระดับคลินิก ศึกษาในผู้ป่วยมากกว่า 100 คนที่รพ.ศิริราช