หมอแนะ 7 อาหารเสริมช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันไข้หวัดใหญ่! | คมชัดลึก

 

ช่วงปลายปีถึงต้นปี ก็คือ 2 กันยายน 2567 ถึง 26 มกราคม 2568 
ไข้หวัดใหญ่เล่นงานคนญี่ปุ่นไปกว่า 9.523 ล้านคน ภายใน 144 วัน นั่นหมายความว่าแต่ละวันมีคนติดเชื้อมากถึง 66,132 
ส่วนในไทยเอง ปี 2567 คนไทยติดไข้หวัดใหญ่ 6 แสนคน
 ตัวเลขนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะไข้หวัดใหญ่อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง อย่างปอดบวมหรือหัวใจล้มเหลวได้   นอกจาการใส่แมส ล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงที่คนเยอะๆ  หรือเลี่ยงการสัมผัสหรืออยู่ใกล้คนป่วย  โดยทาง นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก “หมอเจด”  โดยระบุข้อความว่า "อย่าลืมเสริมภูมิคุ้มกันเพื่อรับมือกับไวรัส  และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง 7 อาหารเสริมที่ว่ามีอะไรบ้างมาดูกันครับ" 

 

 

 

1. วิตามิน D

 

เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราทำงานได้เต็มที่ มันช่วยเพิ่มจำนวนและประสิทธิภาพของเซลล์เม็ดเลือดขาว (T cells) ซึ่งเป็นเหมือนทหารทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรค โดยเฉพาะไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่ นอกจากนี้ วิตามิน D ยังช่วยลดการอักเสบ ทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นหากติดเชื้อ งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า คนที่ขาดวิตามิน D มีแนวโน้มที่จะติดเชื้อทางเดินหายใจสูงขึ้น รวมถึงมีอาการรุนแรงกว่าคนที่มีระดับวิตามิน D เพียงพอ ดังนั้น การเสริมวิตามิน D เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ ปริมาณที่แนะนำ อยู่ที่ 1,000-4,000 IU ต่อวัน วิธีที่ง่ายที่สุดคือการรับแสงแดดวันละ 15-30 นาที ในตอนเช้า หรือตอนเย็น รวมถึงยังเจอได้ในอาหาร  ปลาแซลมอน, ปลาซาร์ดีน, ไข่แดง และตับ ถ้าคิดว่ายังได้รับไม่พอ อาหารเสริมวิตามิน D ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะ

 

 

2. วิตามิน C

 

 

วิตามิน C อันนี้เขาก็ดังเรื่องเสริมภูมิคุ้มกัน  เพราะวิตามิน C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคและฟื้นตัวจากการติดเชื้อได้เร็วขึ้น  นอกจากนี้ วิตามิน C ยังช่วยลดการอักเสบและป้องกันความเสียหายของเซลล์ที่เกิดจากเชื้อไวรัส
มีงานวิจัยที่พบว่า การทานวิตามิน C เป็นประจำสามารถช่วยลดระยะเวลาการเป็นหวัดได้ประมาณ 8-14% ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลย และถ้าเราติดไข้หวัดใหญ่อยู่แล้ว วิตามิน C ก็สามารถช่วยให้หายเร็วขึ้น และลดอาการที่รุนแรงลงได้ด้วย ปริมาณที่แนะนำ อยู่ที่ 500-2,000 mg ต่อวัน แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน C ได้แก่ ส้ม, ฝรั่ง, กีวี่, พริกหวาน และบรอกโคลี ถ้าคิดว่าอาหารไม่พอ ก็เสริมด้วยอาหารเสริมวิตามิน C ได้เลยนะ

 

 

 

3. ซิงค์ (Zinc)

 

 

ซิงก์เป็นเกราะป้องกันไวรัสที่ดีมาก เพราะมันช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัสในร่างกาย และช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ตอบสนองต่อเชื้อโรคได้เร็วขึ้น ซิงก์ยังช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการกำจัดเชื้อไวรัส งานวิจัยพบว่าการรับประทานซิงก์ตั้งแต่เริ่มมีอาการไข้หวัด สามารถช่วยลดระยะเวลาและความรุนแรงของอาการได้ ดังนั้น ถ้าเริ่มรู้สึกเจ็บคอ คัดจมูก รีบเสริมซิงก์ ก็จะช่วยให้หายไวขึ้นนะ
ปริมาณแนะนำ อยู่ที่ 10-30 mg ต่อวัน แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยซิงก์ ได้แก่ เนื้อแดง, เมล็ดฟักทอง และถั่วต่าง ๆ

 

 

5. NAC (N-Acetyl Cysteine)

 

 

NAC เป็นสารตั้งต้นของกลูตาไธโอน ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดภาวะอักเสบ และช่วยบรรเทาอาการของไข้หวัดใหญ่ มีงานวิจัยที่บอกว่า NAC อาจช่วยลดความรุนแรงของการติดเชื้อทางเดินหายใจและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปริมาณที่แนะนำ อยู่ที่ 600-1,200 mg ต่อวัน แหล่งอาหารที่มี NAC ได้แก่ เนื้อสัตว์, ไข่, กระเทียม และหัวหอม

 

 

6. เคอร์คูมิน (Curcumin) จากขมิ้นชัน

 

 

เคอร์คูมินเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะการกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น ปริมาณแนะนำ อยู่ที่ 500-1,000 mg ต่อวัน ควรเสริมด้วยไพเพอรีนจากพริกไทยดำเพื่อเพิ่มการดูดซึม แหล่งอาหารก็แน่นอนว่าคือ ขมิ้นชัน 

 

 

7. โอเมก้า-3 (Omega-3 Fatty Acids)

 

 

โอเมก้า-3 มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ดี มีงานวิจัยว่าการเสริมโอเมก้า-3 สามารถช่วยลดภาวะอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อทางเดินหายใจได้
ปริมาณแนะนำ อยู่ที่ 1,000-2,000 mg ต่อวัน แหล่งอาหารหลักได้แก่ ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, วอลนัท และเมล็ดแฟลกซ์

 

 

 

ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่เราต้องดูและตัวเองนะครับ เพราะอาหารแทรกซ้อนอาจทำให้เสียชีวิตได้เลย   นอกจาการใส่แมส ล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงที่คนเยอะๆ  หรือเลี่ยงการสัมผัสหรืออยู่ใกล้คนป่วย  รวมถึงถ้ารู้สึกไม่สบายควรจะแยกตัวจากผู้อื่น  และการฉีดวัคซีน จะช่วยป้องกันได้ แต่การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากภายในก็สำคัญไม่แพ้กันนะ ถ้าเราได้รับวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นอย่าง วิตามิน D, วิตามิน C, ซิงก์, NAC, เคอร์คูมิน และโอเมก้า-3 จะช่วยให้ร่างกายของเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น  พร้อมสู้กับไวรัสและลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้