
"หมอ" ยกเคสคนไข้วัย 48 หัวใจหยุดเต้น หลังเล่นฟุตบอลท่ามกลางฝุ่นพิษ
"หมอยกเคส" เตือนภัยพิษฝุ่น PM 2.5 คนไข้วัย 48 หัวใจหยุดเต้น หลังเล่นฟุตบอลท่ามหลางฝุ่นหนา เส้นเลือดตีบ 3 เส้น และมีลิ่มเลือดอุดตันเฉียบพลัน ชอร์ตไฟฟ้าไปเกือบ 10 รอบ ถึงฟื้นกลับมาได้!
นพ.ศุภชัย โรจน์ขจรนภาลัย โพสต์เตือนภัยพิษฝุ่นผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุข้อความว่า......หน้าฝุ่นนี้ ผมลุกขึ้นทำบอลลูนหลอดเลือดฉุกเฉินแทบจะทุกคืนแล้ว จากปกติจะมากในหน้าหนาว แต่หน้าฝุ่นนี้ ส่วนตัวรู้สึกได้ว่าเยอะขึ้นจริงๆครับ รับเคส คนไข้ อายุ 48 ปี หัวใจหยุดเต้นขณะไปเล่นฟุตบอล ท่ามกลาง PM2.5 จำนวนมหาศาลที่ปกคลุมทั่ว กทม โชคยังดี ทีมกู้ภัยมาช่วยปั๊มหัวใจไว้ทันและนำส่งถึงมือผม คนไข้ปฏิเสธโรคประจำตัว ไม่สูบบุหรี่ ผลการตรวจ เส้นเลือดตีบ3 เส้น และมีลิ่มเลือดอุดตันเฉียบพลันที่เส้นเลือดที่เลี้ยงผนังหัวใจด้านหน้า ระหว่างทำคนไข้หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงอีกหลายครั้ง ต้องทำบอลลูนไป ปั๊มหัวใจไป ช๊อคไฟฟ้าไปเกือบ10 รอบ จึงเอาชีวิตคนไข้กลับมาได้
จนถึงปัจจุบันมีข้อมูลยืนยันแล้วมากมาย ว่าPM2.5 สัมพันธ์ กับการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน พบว่า การสัมผัส PM2.5 ในระยะสั้น (1-2 วัน) สัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของอัตราการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน โดยความเสี่ยงสัมพัทธ์ (RR) เพิ่มขึ้นประมาณ 1.5-2% ต่อทุกๆ 10 µg/m³ ของ PM2.5
การสัมผัส PM2.5 ในระยะยาว (หลายเดือนถึงหลายปี) สัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยง ACS มากกว่า โดยความเสี่ยงสัมพัทธ์เพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% ต่อทุกๆ 10 µg/m³ ของ PM2.5 เพราะ PM2.5 ทำให้เกิด ภาวะอักเสบทั่วร่างกาย กระตุ้นการแข็งตัวของเลือดอย่างผิดปกติ กระตุ้นระบบซิมพาเทติก ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น จึงเพิ่มโอกาสของภาวะหัวใจขาดเลือด
ฝุ่นนี้เป็นภัยใกล้ตัว เพราะมันไม่มีอาการทันที มองไม่เห็น ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่อันตรายเหมือนยุค เรารู้จักโควิทกันใหม่ๆ น่าแปลกใจ ที่ตั้งแต่รัฐบาล ยันประชาชน ไม่ได้ตระหนักถึงภัยมากเพียงพอ หลบได้หลบ ถ้าหลบไม่ได้ หน้ากากอนามัยสวมใส่เถิดครับเวลาออกข้างนอก กีฬากลางแจ้งในช่วงนี้ไม่ควรเลยครับ โดยเฉพาะคนมีโรคประจำตัว ระวังและป้องกัน ทำให้เหมือนยุคโควิทเดลต้าระบาด ที่เรารู้ว่าอันตราย แล้วพวกเราจะปลอดภัยขึ้นนะครับ ด้วยความห่วงใย นพ. ศุภชัย โรจน์ขจรนภาลัย/หมอหัวใจ