
ดื่มน้ำ ยิ่งเยอะ ยิ่งดีจริงหรือ? ในชีวิตประจำวันดื่มเท่าไหร่ถึงดีจะพอดี?
การดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไปส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร? แล้วรู้ได้อย่างไรว่าดื่มน้ำเพียงพอแล้ว ในชีวิตประจำวันควรดื่มน้ำเท่าไรถึงจะพอดี!
มีความเชื่อว่าการดื่มน้ำในปริมาณมาก ๆ ทำให้ร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยในการลดน้ำหนักและบำรุงสุขภาพผิว และเมื่อได้ออกกำลังกายอาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมาก โดยเฉพาะหากอุณหภูมิยิ่งสูงขึ้น อาจจำเป็นต้องดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อทดแทนส่วนที่สูญเสียไป
การดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไปส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร
อาจทำให้เป็นอันตรายร้ายแรงได้ เช่น ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia) มักพบได้ในการแข่งขันดื่มน้ำ การแข่งวิ่งระยะไกลหรือผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำเรียกอีกอย่างได้ว่า ภาวะน้ำเป็นพิษ เกิดขึ้นจากการดื่มน้ำปริมาณที่มากเกินไปภายในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น การดื่มน้ำรวดเดียวเป็นจำนวน 7 ลิตรหรือดื่มน้ำ 4 ลิตรภายใน 2 ชั่วโมง ที่อาจส่งผลให้เสียชีวิตได้ ผู้ป่วยอาจปรากฏอาการป่วย ปวดหัว อาเจียน อ่อนเพลีย รวมไปถึงเวียนศีรษะ สับสน มือและเท้าบวม หากไม่รีบไปพบแพทย์ ผู้ป่วยอาจมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น สมองบวม และเสียชีวิต
รู้ได้อย่างไรว่าดื่มน้ำเพียงพอแล้ว ?
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการสังเกต ผู้ที่ดื่มน้ำเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจะขับถ่ายสะดวก และมีปัสสาวะสีเหลืองใส แต่ผู้ที่ดื่มน้ำไม่เพียงพอจะมีปัญหาการขับถ่ายหรือท้องผูก และมีปัสสาวะสีเข้ม แต่หากมีปัญหาสุขภาพ เช่น ปัญหาเกี่ยวกับไตหรือภาวะหัวใจล้มเหลว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำ
ควรดื่มน้ำวันละเท่าไร ?
ในทุก ๆ วัน ร่างกายจะสูญเสียน้ำผ่านการปัสสาวะ เหงื่อ การหายใจ หรืออื่น ๆ การดื่มน้ำเพื่อทดแทนในส่วนที่สูญเสียไปจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า เพราะหากดื่มน้ำมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ และอย่างที่ทราบกันทั่วไปว่าการดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว นั้นเพียงพอต่อการทำงานของร่างกาย แต่แท้จริงแล้วปริมาณที่เหมาะสมอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ของผู้บริโภค เช่น กิจกรรมที่ทำ เพศและอายุ
ปริมาณการดื่มน้ำที่เหมาะสมมีดังนี้
- สำหรับผู้ที่อายุ 4-8 ปี 5 แก้วต่อวัน (ประมาณ 1,200 มล.)
- สำหรับผู้ที่อายุ 9-13 ปี 7-8 แก้วต่อวัน (ประมาณ 1,600-1,900 มล.)
- สำหรับผู้ที่อายุ 14-18 ปี 8-11 แก้วต่อวัน (ประมาณ 1,900-2,600 มล.)
- สำหรับผู้หญิงที่อายุ 19 ปีขึ้นไป 9 แก้วต่อวัน (ประมาณ 2,100 มล.)
- สำหรับผู้ชายที่อายุ 19 ปีขึ้นไป 13 แก้วต่อวัน (ประมาณ 3,000 มล.)
ปริมาณดังกล่าวได้นับรวมปริมาณน้ำที่ได้จากอาหาร ผักหรือผลไม้ต่าง ๆ ทั้งนี้ อาจจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณการดื่มน้ำให้มากขึ้น เมื่อต้องออกกำลังกายอย่างหนัก อยู่ในสภาพอากาศร้อน ป่วย มีไข้หรือมีปัญหาสุขภาพ