หมอตอบแล้ว! กินแต่เนื้อสัตว์แบบไม่แตะผักผลไม้เลย ดีต่อสุขภาพจริงหรือ? | คมชัดลึก

หมอเจด นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ให้ความรู้ด้านสุขภาพผ่านเฟซบุ๊ก  หมอเจด  โดยระบุข้อความว่า.... ช่วงนี้เราคงได้ยินบ่อยๆแหละ ใครๆก็ฮิตทำ Carnivore Diet หรือการกินแต่เนื้อสัตว์แบบไม่แตะผักผลไม้เลย บางคนก็บอกว่าทำแล้วดี ลดน้ำหนักได้ไว คุมเบาหวานได้ง่ายขึ้น แต่เอาจริง ๆ มันก็มีข้อเสียที่ควรต้องรู้ไว้เหมือนกัน ไม่ได้ห้ามกินนะ แต่ถ้ากินระยะยาวก็ต้องระวังหน่อย วันนี้เลยอยากมาแชร์ 5 ข้อที่อาจเป็นผลกระทบจากการกิน Carnivore Diet ให้ทุกคนฟังกัน

 

 

 

 

1. ขาดใยอาหาร ระบบย่อยรวนได้ง่าย

อย่างที่รู้กันนะพวกผักผลไม้จะมีไฟเบอร์ที่ช่วยให้ระบบย่อยทำงานดีขึ้น ถ้าไม่กินเลย ระบบลำไส้อาจจะรวนได้ง่าย ๆ เช่น ท้องผูก ท้องอืด หรือถ่ายไม่ปกติ แถมยังมีโอกาสเสี่ยงมะเร็งลำไส้เพิ่มขึ้นด้วยนะ อีกอย่าง ผักยังเป็น พรีไบโอติกส์ หรือก็คืออาหารของจุลินทรีย์ดีในลำไส้ (โพรไบโอติกส์) ถ้าไม่กินเลย เจ้าจุลินทรีย์พวกนี้ก็อาจลดลงไป ทำให้ลำไส้ไม่สมดุล ระบบขับถ่ายก็แย่ลง และอาจมีผลกับภูมิคุ้มกันหรือระบบเผาผลาญในระยะยาว

 

 

 

แล้วจะแก้ยังไงดี?

ดื่มน้ำซุปกระดูก (Bone Broth) ตัวนี้ช่วยได้เยอะ เพราะมีเจลาตินที่ช่วยเคลือบลำไส้ ลดการอักเสบ และทำให้ระบบย่อยทำงานดีขึ้น เพิ่มโพรไบโอติกส์ ถ้าไม่เคร่งมาก ลองเพิ่มกิมจิ ก็ช่วยให้จุลินทรีย์ในลำไส้สมดุลขึ้น กินไขมันดี ๆ เช่น น้ำมันมะกอก ไขมันจากปลา หรือไขมันจากเนื้อสัตว์แบบไม่ผ่านการปรุงแต่งเยอะ ๆ มันช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพราะไม่มีไฟเบอร์คอยดูดซับน้ำ ถ้าน้ำไม่พอ ระบบย่อยก็อาจจะแย่กว่าเดิม

2. อาจขาดวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ

การกิน Carnivore Diet ทำให้เราอาจขาดวิตามินซี วิตามินอี แมกนีเซียม โพแทสเซียม ซึ่งมีผลต่อภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท และกล้ามเนื้อ ถ้าขาดไปนาน ๆ อาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือเป็นตะคริวบ่อยขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าจะกินแบบนี้ อาจต้องหาทางเสริมสารอาหารที่ขาดไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นจากเครื่องใน เช่น ตับ หัวใจ และไต พวกนี้เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุนะครับ หรือจะเสริมเกลือแร่จากน้ำซุปกระดูกหรือใช้น้ำแร่ธรรมชาติที่มีแร่ธาตุสูงได้นะ

 

 

 

3. เสี่ยงต่อโรคหัวใจและไขมันในเลือดสูง

เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อแดง มีไขมันอิ่มตัวสูง กินเยอะไปอาจทำให้ไขมันไม่ดี (LDL) สูงขึ้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด แม้ว่าบางคนอาจจะบอกว่า "ไขมันสูงแต่สุขภาพดี" แต่จากงานวิจัยที่มีมายาวนาน ระดับ LDL สูงเกินไปก็มักเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพอยู่ดี ใครที่ไขมันในเลือดสูงก็อาจต้องระวังตรงนี้นะครับ อาจจะแก้โดยการที่เลือกกินเนื้อสัตว์ที่มีไขมันดี เช่น เนื้อปลาที่มีโอเมก้า-3 หรือเนื้อสัตว์ที่มาจากแหล่งธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน ที่มีไขมันทรานส์และโซเดียมสูง รวมไปถึงออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อลดไขมันเลว (LDL) และเพิ่มไขมันดี (HDL) 

 

 

4. อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคเกาต์และนิ่วในไต

เนื้อสัตว์มี พิวรีนสูง ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นกรดยูริก ถ้าสะสมเยอะไป อาจทำให้เกิด โรคเกาต์ ทำให้ข้อบวม ใครเคยเป็นจะรู้ว่ามันปวดทรมานมาก แถมถ้ากินโปรตีนเยอะ ๆ ก็อาจเพิ่มโอกาสเป็น นิ่วในไต เพราะไตต้องทำงานหนักขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อขับของเสียออกซึ่งเราก็ลดความเสี่ยงได้โดยการดื่มน้ำเยอะ ๆ ช่วยให้ไตขับกรดยูริกออกง่ายขึ้น ลดโอกาสเกิดนิ่วในไต และกินเป็นมื้อเล็ก ๆ แทนการกินเยอะในครั้งเดียว เพื่อลดการสะสมของกรดยูริก รวมไปถึงเลือกเนื้อสัตว์ให้ดี ถ้าเป็นเกาต์หรือกลัวเสี่ยง เลี่ยงเนื้อแดงกับเครื่องใน แล้วเลือกกินปลา หรือเนื้อสัตว์ที่มีพิวรีนน้อยแทน

 

 

 

 

5. อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว

ถึงกินแต่เนื้ออาจให้พลังงานสูงและช่วยลดน้ำหนักได้ คุมเบาหวานได้ดี แต่ในระยะยาว การขาดสารอาหารบางชนิดอาจส่งผลต่ออายุขัยเรา และความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ งานวิจัยบางชิ้นยังระบุว่าการกินเนื้อแดงเยอะ ๆ อาจเกี่ยวข้องกับมะเร็งลำไส้ และทำให้ร่างกายอักเสบเรื้อรังซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้แก่เร็วขึ้น เพราะฉะนั้นแนะนำแบบนี้คือ หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ที่ย่างจนเนื้อปิ้งย่างไหม้เกรียม หรือเนื้อแปรรูป อีกวิธีคือลองลดความเคร่งลงนิดนึง โดยสลับวันกิน Carnivore Diet กับการกินผักผลไม้บ้าง เพื่อให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบ หรือเปลี่ยนจากเนื้อแดงเป็นเนื้อขาว อย่างเช่นปลาและไก่ อันนี้ก็ลดความเสี่ยงได้เหมือนกัน

 

 

 

สุดท้ายคืออย่าลืมตรวจสุขภาพและติดตามค่าทางเลือด เช่น พวกค่าการอักเสบ หรือระดับคอเลสเตอรอล เพื่อปรับการกินให้เหมาะสม ก็ต้องย้ำอีกครั้ง ไม่ได้ห้ามกิน Carnivore Diet นะ มันอาจจะมีข้อเสียอยู่บ้างตามที่ผมพูดมา แต่ข้อดีมันก็เยอะ ไม่ว่าจะเป็นช่วยลดน้ำหนัก ช่วยเรื่องเบาหวาน ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ ซึ่งในบางทีเราก็ต้องปรับจากหลักของมันไปอยู่บ้าง เช่น เรื่องเพิ่มไฟเบอร์ เพิ่มโพรไบโอติกส์ หรือหาทางเสริมสารอาหารที่ขาดไป แต่ก็เป็นการปรับเพื่อให้เราทำ Carnivore Diet ได้ยาวขึ้นนะ ลองอ่านโพสต์นี้ดูแล้วเอาวิธีที่บอกไปปรับใช้ดู