
สัปดาห์นี้อากาศร้อนจัด แนะกลุ่มเสี่ยง เลี่ยงทำงานกลางแจ้ง
สัปดาห์นี้! ทั่วไทยรับมืออากาศร้อนจัดในช่วงกลางวัน แนะกลุ่มเสี่ยง - ผู้ใช้แรงงาน เลี่ยงการทำงานกลางแจ้งต่อเนื่อง
ในช่วงฤดูร้อน ซึ่งในหลายๆ พื้นที่ของประเทศไทยโดยสัปดาห์นี้จะมีอากาศร้อนจัดปกคลุม ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงกลางวัน ระหว่างเดือน เมษายน - พฤษภาคม อาจทำให้เจ็บป่วยจากสภาวะอากาศร้อนจัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ต้องทำงานกลางแจ้ง อาทิ เกษตรกร คนงานก่อสร้าง และผู้ที่ทำงานใกล้แหล่งกำเนิดความร้อน เช่น ในโรงงานหลอม หรือโรงงานที่มีเครื่องจักรความร้อนสูงและมีพื้นที่ระบายอากาศไม่ดี เป็นกลุ่มที่น่ากังวลเป็นพิเศษ
ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญสภาพอากาศที่ร้อนจัด 27 เม.ย. - 1 พ.ค.68 :เป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ยังมีพายุฤดูร้อนเพิ่มขึ้น ทิศทางลมเปลี่ยนเป็นลมทิศใต้ ลมตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้พัดสอบเข้าหากันกับลมตะวันตกเฉียงใต้ ปกคลุมบริเวณภาคกลางภาคเหนือ กลางวันอากาศร้อน ต้องเฝ้าระวัง ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า ลูกเห็บตก และมีฝนตกหนักและอาจมีน้ำท่วมขังในระยะสั้นๆบางพื้นที่ ของภาคเหนือ (28 เม.ย.) ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออกในระยะแรก หลัง 27 เม.ย.68 อากาศจะคลายร้อนลงได้บ้าง ส่วนภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนอง ช่วงบ่ายถึงค่ำ
เมื่ออากาศร้อนต้องระมัดระวังโรคที่เกิดจากความร้อนเมื่อร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกได้ทันและอุณหภูมิภายนอกสูงกว่าร่างกาย กลไกการระบายความร้อนตามธรรมชาติ เช่น การหลั่งเหงื่อ การขยายตัวของหลอดเลือดที่ผิวหนัง การหายใจ และการพาความร้อนจะทำงานได้ไม่เต็มที่ อีกทั้ง เมื่อร่างกายร้อนจัดและเริ่มขาดน้ำ จะมีอาการอ่อนเพลีย หน้ามืดเป็นลม และหากเสียเกลือแร่ร่วมด้วยจะเกิดตะคริว ซึ่งหากไม่ได้รับการช่วยเหลือ อาจนำไปสู่อาการขาดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญ เกิดภาวะอวัยวะล้มเหลว หมดสติ และกลายเป็นโรคลมแดด (Heat Stroke) ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องรีบช่วยเหลือ มิฉะนั้นอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และป้องกันอันตรายจากความร้อน ขอแนะวิธีการปฏิบัติตน ดังนี้
1. ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศค่าดัชนีความร้อน และพิจารณาเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือทำงานกลางแจ้งในช่วงที่อากาศร้อนจัด หากเลี่ยงไม่ได้ให้สลับกันทำงาน หรือพยายามทำงานกลางแจ้งให้เสร็จก่อน เวลา 13.00 น. ซึ่งจะเป็นช่วงอากาศที่ร้อนที่สุด
2. ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ ทุก 15 - 20 นาที แม้จะไม่รู้สึกกระหาย โดยสถานที่ประกอบการควรจัดหาน้ำดื่มให้เข้าถึงง่าย อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม และงดการสูบบุหรี่
3. สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ
4. ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาแก้คัดจมูก ยาขับปัสสาวะ ยารักษาจิตเวช อาจส่งผลต่อการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ผู้ที่รับประทานยาดังกล่าวจึงควรหมั่นสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์ทันที
5. สำหรับผู้สูงอายุ ควรดื่มน้ำบ่อย ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เลี่ยงการอยู่กลางแจ้งในช่วงที่อากาศร้อนจัด และสังเกตอาการผิดปกติเป็นพิเศษ
6. ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ควรอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เพื่อคอยสังเกตอาการซึ่งกันและกัน หากมีอาการผิดปกติ เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้ หน้ามืด ควรหยุดทำงานหรือกิจกรรม เข้าที่ร่มและแจ้งเพื่อนร่วมงาน