เปิด 8 "อาหารมงคล" รับ "ตรุษจีน 2566" เสริมสิริมงคล ตลอดปี สุขภาพดี ตลอดไป | คมชัดลึก

อีกไม่กี่วันก็เข้าสู่เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ของพี่น้องชาวจีน กับเทศกาล “ตรุษจีน 2566” ซึ่งปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 22 มกราคม ในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้คนจีนจะนิยมรับประทานอาหารที่เป็นมงคล เพราะมีความเชื่อว่า “อาหารมงคล” ประหนึ่งคำอวยพรตรุษจีนที่จะทำให้ผู้รับประทานประสบพบเจอแต่ความสุข ความโชคดี ตลอดปีนั่นเอง วันนี้ คมชัดลึก ออนไลน์ จึงได้รวบรวม  8 เมนู “อาหารมงคล” ที่กินแล้วเพิ่มสิริมงคลให้กับชีวิต โดยเฉพาะคนที่ดวงชงปีนี้ กินแล้วจะแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง ใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข รวยๆ เฮงๆ สุขภาพแข็งแรงตลอดทั้งปี

1.ซุปไก่ตุ๋นยาจีน ไก่ทั้งตัวตามความเชื่อของคนจีนนั้น หมายถึง ความเจริญในหน้าที่การงาน หนึ่งใน "อาหารมงคล" ที่เป็นที่นิยมที่สุด ในเทศกาล “ตรุษจีน 2566” เคล็ดลับการต้มก็คือต้องต้มไก่ทั้งตัว นำมาตุ๋นกับยาจีน เช่น เก๋ากี้ ฮวยซัว ปักคี้ เง็กเต็ก และที่ขาดไม่ได้ก็คือเห็ดหอมแห้ง และลำใยแห้ง เพิ่มความหวานของน้ำซุป อีกหนึ่งเคล็ดลับคือ ต้องต้มน้ำให้เดือดก่อนใส่ไก่ลงไป ตามด้วยเห็ดหอมแห้ง ที่สำคัญต้องคอยตักฟองออกอยู่เรื่อยๆ และให้ใช้ไฟอ่อนๆ ยิ่งตุ๋นนานเนื้อไก่ก็จะยิ่งนุ่ม

2.ปลานึ่งซีอิ๊ว ปลาเป็นตัวแทนของความเจริญรุ่งเรือง อีกทั้งยังออกเสียงเหมือนคำว่า “เหลือเฟือ” เปรียบเสมือนการที่เราเหลือเงิน มีกินมีใช้ทั้งปี คนจีนจึงนำปลามาประกอบอาหารที่หลากหลาย เพราะเชื่อว่า หากกินปลาแล้วชีวิตจะรุ่งเรือง สุขภาพจะแข็งแรง เมนูที่นิยมทำคือ “ปลานึ่งซีอิ๊ว” ซึ่งปลาแต่ละชนิดออกเสียงไม่เหมือนกัน ความหมายก็แตกต่างกันด้วย

การนำปลาไปนึ่งกับซีอิ๊ว ใส่น้ำมันงาหอมๆ ตกแต่งด้วยผักโรยอย่าง ผักชี ต้นหอม พริกชี้ฟ้าและขิง ยิ่งถ้าใส่เห็ดหอมลงไปตอนนึ่ง ยิ่งจะทำให้ซีอิ๊วเข้มข้น ได้กลิ่นเห็ดหอม เหยาะเหล้าจีนเข้าไปนิดหน่อย เป็นเคล็ดลับของการทำปลานึ่งซีอิ๊ว

3.ผัดหมี่ซั่ว เส้นหมี่ หรือ เส้นก๋วยเตี๋ยว ถ้าพูดถึงเมนูเส้นยอดฮิตในเทศกาลมงคลอย่าง "ตรุษจีน 2566" ก็มักจะนึกถึงเส้นเหลืองๆ อย่าง “ผัดหมี่ซั่ว” ซึ่งเป็น "อาหารมงคล" สื่อความหมายหมายถึง การอวยพรให้มีอายุยืนยาวเหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยวนั่นเอง เคล็ดลับของการผัดหมี่ซั่วก็คือ ห้ามผัดให้เส้นหมี่ขาดจากกันเด็ดขาด หากเส้นขาดจะไม่เป็นมงคลแก่ชีวิต ดังนั้นไม่ควรลวกเส้นให้เปื่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้เส้นขาดง่าย การลวกจะต้องลวกในน้ำร้อนๆ จัดๆ แล้วล้างด้วยน้ำเย็นทันที วัตถุดิบที่ผัดกับหมี่ซั่วก็ล้วนแล้วแต่มีความหมายมงคลทั้งสิ้น เช่น หมู ไก่ กุ้ง เห็ดหอม ผัก เช่น แครอท กุยฉ่าย กะหล่ำปลี และผักอื่นๆ ตามใจชอบ และที่สำคัญนั่นก็คือซอสถั่วเหลืองที่ใช้ผัดจะต้องเข้มข้น

4.โหงวก้วยกระทงเผือก เป็นอาหารที่รวบรวมวัตถุดิบมงคล 5 ชนิดเข้าด้วยกัน ได้แก่ แปะก๊วย พุทราจีน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เห็ดหอม และแห้ว ซึ่ง แปะก๊วย แปลว่า อายุที่ยืนยาว ส่วน พุทราจีน แปลว่า ความร่ำรวยเงินทอง ใส่เนื้อสัตว์อย่างกุ้งและไก่ลงไป เสิร์ฟในกระทงที่ทอดจากเผือก เพิ่มความจัดจ้านด้วยพริกแห้ง และซอสหวานอมเปรี้ยว รสชาติกลมกลมกล่อม ประดับตกแต่งด้วยผักโรยให้ดูน่ารับประทาน นอกจากจะอร่อยแล้วยังได้สารอาหารครบถ้วนอีกด้วย

5.เสี่ยวหลงเปา เป็นที่ยนิยมในวัน "ตรุษจีน" ติ่มซำแบบหนึ่งของจีน มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง อาณาจักรซ่งเหนืออพยพหนีชนเผ่าจินลงไปทางใต้ของจีน ย้ายเมืองหลวงจากเมืองไคฟงมาเมืองหางโจว ปัจจุบัน “เสี่ยวหลงเปา” ได้รับความนิยมอย่างมากในเซี่ยงไฮ้ ลักษณะจะคล้ายซาลาเปาลูกใหญ่และเกี๊ยวหรือขนมจีบรวมกัน ทำจากแป้งขนมปังผสมกับแป้งสาลีอเนกประสงค์ ไส้เป็นหมูสับ มีน้ำซุปร้อนๆ กินแล้วชุ่มคอ

6.ปอเปี๊ยะทอด หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารจีนมงคล นั่นเพราะการทอดแป้งปอเปี๊ยะให้มีสีเหลืองทองอร่าม รวมกับลักษณะเป็นแท่งที่ดูคล้ายทองคำแท่ง ปอเปี๊ยะจึงกลายเป็นอาหารประเภททอดที่นิยมรับประทานกันในงานเทศกาลมงคล ปอเปี๊ยะที่นิยมกินจะเป็นไส้หมูสับ วุ้นเส้น เห็ดหอม ใส่กะหล่ำปลีและแครอทซอย เพื่อเพิ่มสีสัน

7.ขนมเข่ง เป็นขนมหวานที่มีในทุกเทศกาลมงคลของครอบครัวคนจีนและคนไทยเชื้อสายจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทศกาลตรุษจีน นิยมนำขนมเข่งมาไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ เสริมสร้างความเป็นสิริมงคลและความมั่งมีศรีสุข แป้งเหนียวนุ่มทำจากแป้งข้าวเหนียวและน้ำตาล ใส่ในกระทงใบตอง สีแดงจากสีผสมอาหารแต้มเป็นจุดด้านบนของขนมเข่งเพิ่มความเฮง

8.บัวลอยน้ำขิง บัวลอยเป็นขนมหวานที่รูปลักษณ์เป็นทรงกลม  คำว่า กลม ในภาษาจีนนั้นสื่อความหมายที่ดี เปรียบเสมือนการรักใครกลมเกลียวกัน “บัวลอยน้ำขิง” จึงนิยมกินในเทศกาลมงคล เช่น เทศกาลโคมไฟ หรืองานแต่งงาน วัตถุดิบหลักคือแป้งข้าวเหนียว สอดไส้ด้วยงาดำ ปั้นเป็นลูกกลมๆ กินคู่กับน้ำขิง ร้อนๆ ชุ่มคออย่าบอกใคร