Texas Chicken เปิดประวัติ "ไก่ทอดอเมริกัน" ปิดกิจการ 9 ปีในไทย
เปิดประวัติ Texas Chicken ร้านไก่ทอดสัญชาติอเมริกัน หลังประกาศปิดกิจการในไทยหลังเข้ามาทำตลาดเมื่อ 9 ปีก่อน รู้จักความเป็นมาของฟาสต์ฟู้ดชื่อดังที่ส่งมอบเอกลักษณ์ด้านรสชาติที่แตกต่างในช่วงเวลาหนึ่ง
คนไทยใจหาย Texas Chicken แบรนด์ไก่ทอดเก่าแก่ที่เปิดตัวมากกว่า 60 ปีจากประเทศสหรัฐอเมริกา และมีสาขามากกว่า 1,500 สาขาทั่วโลก ประกาศปิดกิจการในไทยทุกสาขาในวันที่ 30 กันยายน 2567 หลังเข้ามาทำตลาดเมื่อปี 2015 รวมระยะเวลา 9 ปีเต็ม
โดยประวัติของไก่ทอด เท็กซัส ชิคเก้น (Texas Chicken) มีต้นกำเนิดที่เมืองซานอันโตนีโอ รัฐเท็กซัส ในปี 1952 โดย George W. Church Sr. อดีตเซลล์ขายไก่ที่ผันตัวมาเปิดร้านของตนเอง โดยใช้ชื่อตอนแรกว่า "Church's Fried Chicken To-Go"
ถัดมาเพียง 4 ปี George W. Church Sr. ได้เสียชีวิตลง และเป็น Bill Church Jr. ลูกชายที่เข้ามาบริหาร Church’s Chicken พร้อมปรับโมเดลเป็นรูปแบบสาขา ขายไปยังรัฐอื่นๆ จนครอบคลุมไปทั่วสหรัฐอเมริกา
จากนั้นได้ขยายสาขาไปในต่างประเทศ ซึ่งประเทศแรกคือ แคนาดา ในปี 1970 ก่อนจะบุกไปตลาดฟาสต์ฟู้ดทั่วโลก อาทิ เม็กซิโก ญี่ปุ่น และเปอร์โตริโก โดยทั้งหมดยังใช้ชื่อว่า Church’s Chicken ตามต้นตำหรับเดิม
อย่างไรก็ตามร้านไก่ทอดดังถูกเปลี่ยนมือเจ้าของมาหลายเจ้า ครั้งหนึ่งเคยถูกบริหารโดย บริษัท Venture Capital ซึ่งเป็นธุรกิจอาหารอิสลาม ทำให้เมนู และวัตถุดิบต้องปรับเป็นฮาลาลทั้งหมด ก่อนจะถูกส่งต่อไปยังบริษัทชื่อ Private Equity Firm ที่ชื่อว่า Friedman Fleischer & Lowe และในปี 2022 บริษัทบริหารกองทุนในสหรัฐอเมริกา ที่ชื่อว่า High Bluff Capital Partners ได้เข้ามาดูแล และเปิดตลาดเอเชียในชื่อ Texas Chicken
และในปี 2015 ร้านไก่ทอด Texas Chicken ที่ดำเนินธุรกิจมากกว่า 60 ปี และมีสาขามากกว่า 1,500 สาขาทั่วโลก ได้เข้ามาเปิดกิจการในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยบริษัท ปตท. เป็นผู้ได้สิทธิ์ในการขยายสาขาและบริหาร โดยสาขาแรกในประเทศไทย เปิดที่เซ็นทรัลเวสต์เกท เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
ซึ่งเอกลักษณ์ของไก่ทอดเท็กซัสชูโรงด้วยรสชาติเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมจากอเมริกา แต่เมนูเด็ดที่คนไทยหลงรักกลับเป็นของหวานอย่าง "ฮันนี่บัตเตอร์บิสกิต" ที่รังสรรค์จากจากเนย และน้ำผึ้ง ซึ่งแน่นอนว่าการปิดกิจการคราวนี้จะทำให้เราคิดถึงรสชาติหอมหวานแบบลืมไม่ลงแน่นอน
Cr. เนื้อหาประกอบ longtunman.com, stock2morrow.com