
"ต้นอ่อนข้าวสาลี" คุณประโยชน์เพียบ กินแล้วดีต่อสุขภาพ แนะข้อควรรู้ก่อนกิน
"ต้นอ่อนข้าวสาลี" คุณประโยชน์เพียบ กินแล้วดีต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด มีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งแนะข้อควรระวังในการรับประทานอย่างไรให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ
ต้นอ่อนข้าวสาลี (Wheat Grass) เป็นส่วนของต้นข้าวสาลีที่เพิ่งงอกออกจากเมล็ด อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน และสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ เชื่อกันว่ามีสรรพคุณช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย และช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปคนนิยมปลูกต้นอ่อนข้าวสาลีภายในบ้านและนำมาคั้นน้ำดื่ม ปั่นเป็นสมูทตี้ ทำน้ำสลัด หรือผสมในเครื่องดื่มอื่น ๆ นอกจากนี้ อาจรับประทานในรูปแบบอาหารเสริมชนิดแคปซูลหรือแบบผงสำเร็จรูปชงน้ำดื่ม ซึ่งสะดวกต่อการรับประทานและสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป
1. อุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด
ต้นอ่อนข้าวสาลีเป็นแหล่งของวิตามินต่าง ๆ มากมาย ทั้งวิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินอี วิตามินซี วิตามินเค รวมทั้งแร่ธาตุและสารอาหารอื่น ๆ เช่น แคลเซียม ซีลีเนียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก กรดอะมิโน และคลอโรฟิลล์ ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน เช่น ช่วยลดการอักเสบ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคติดเชื้อ และต้านอนุมูลอิสระ
2. คุณสมบัติในการต้านมะเร็ง
ผลการวิจัยหลายชิ้นพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระในต้นอ่อนข้าวสาลีอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าสารที่ได้จากสกัดต้นอ่อนข้าวสาลีอาจยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็งกล่องเสียงได้ สอดคล้องกับอีกงานวิจัยหนึ่งที่พบว่าสารคลอโรฟิลลิน (Chlorophyllin) ในต้นอ่อนข้าวสาลีมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านมได้ นอกจากนี้งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งพบว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ที่รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดและดื่มน้ำต้นอ่อนข้าวสาลีทุกวัน อาจช่วยลดความเสียหายของหลอดเลือดได้
3. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
ต้นอ่อนข้าวสาลีอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวานได้ โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่าต้นอ่อนข้าวสาลีอาจมีคุณสมบัติช่วยในการรักษาโรคเบาหวานได้ โดยพบว่าต้นอ่อนข้าวสาลีอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ อย่างไรก็ตามผลการศึกษาชิ้นนี้เป็นเพียงการทดลองในสัตว์และยังต้องการการศึกษาในมนุษย์เพิ่มเติมต่อไป
4. ต้านการอักเสบ
คลอโรฟิลล์ในต้นอ่อนข้าวสาลีมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ จึงอาจมีประโยชน์ต่อการลดภาวะเครียดออกซิเดชั่น (Oxidative Stress) ซึ่งเป็นภาวะความไม่สมดุลกันระหว่างอนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย เนื่องจากงานวิจัยหนึ่งระบุว่าสารอะพิจีนีน (Apigenin) หนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ที่พบมากในน้ำต้นอ่อนข้าวสาลี มีคุณสมบัติต้านการอักเสบได้ดี
ข้อควรระวังในการรับประทานต้นอ่อนข้าวสาลี
ต้นอ่อนข้าวสาลีมักปลูกในดินหรือปลูกโดยใช้น้ำ และนำต้นอ่อนสดมาคั้นน้ำดื่ม จึงอาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อปลูกเพื่อรับประทานเอง จึงควรเลือกซื้อต้นอ่อนข้าวสาลีจากแหล่งที่ได้รับการรับรองและเชื่อถือได้ ทั้งนี้หากสังเกตว่าต้นอ่อนข้าวสาลีมีลักษณะผิดปกติ เน่าเสีย หรือรับประทานแล้วมีรสขม ไม่ควรนำมารับประทานโดยเด็ดขาด
ที่มา : pobpad.com