ไลฟ์สไตล์

ดร.แป้ง อสมา ซีอีโอ Coraline เปิดตัวหนังสือไขความลับสู่ความสำเร็จ

ดร.แป้ง อสมา ซีอีโอ Coraline เปิดตัวหนังสือไขความลับสู่ความสำเร็จ

11 ก.พ. 2566

เสริมความรู้ผู้นำ! “Road to Data Driven Organization” หนังสือเล่มใหม่ จาก ดร.แป้ง อสมา CEO บริษัท Coraline ไขความลับหนทางสู่ความสำเร็จของการขับเคลื่อนโดยข้อมูล

ดร.อสมา กุลวานิชไชยนันท์ (ดร.แป้ง) CEO & Co-Founder บริษัท Coraline ผู้เชี่ยวชาญและให้บริการด้าน Big Data เป็นประธานเปิดงานเสวนา และเปิดตัวหนังสือ "Road to Data-Driven Organization หนทางสู่องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” ณ SE-ED Book Center สาขา เซ็นทรัลบางนา เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 

ดร.แป้ง อสมา ซีอีโอ Coraline เปิดตัวหนังสือไขความลับสู่ความสำเร็จ

 

ภายในงานเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น ทั้งกลุ่มผู้อ่านที่สนใจหนังสือของ ดร.แป้ง จากหนังสือชุดซีรี่ย์ Big Data และผู้บริหารบริษัทคู่ค้า และบริษัทต่าง ๆ ที่ให้ความสนใจ

ซึ่งนอกจากจะได้รับความรู้และวิสัยทัศน์กว้างไกลของผู้นำรุ่นใหม่ไฟแรงจากดร.แป้งแล้ว ยังมีของที่ระลึกสุด Exclusive มอบให้กับผู้ร่วมงานทุกคนด้วย

ดร.แป้ง อสมา ซีอีโอ Coraline เปิดตัวหนังสือไขความลับสู่ความสำเร็จ

 

ดร.อสมา เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือเล่มนี้ เกิดจากประสบการณ์ที่สามารถดำเนินโครงการ Data Driven Transformation จนประสบความสำเร็จ และพบว่าหลายครั้งที่ลูกค้าไม่สามารถวาง Roadmap ได้ หรือลูกค้าบางรายไม่ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารข้อมูล และสนใจแต่เพียงการขึ้น Dashboard

ทั้ง ๆ ที่ข้อมูลเบื้องหลังไม่ได้รับการดูแลอย่างเรียบร้อย เป็นที่มาของผลลัพธ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ 

 

 

หนังสือเล่มนี้จึงได้รวบรวมเอาทั้งความรู้ด้านวิชาการ และประสบการณ์หน้างานของดร.แป้ง ร้อยเรียงเป็นหนังสือ เพื่อกระจายองค์ความรู้ให้ได้กว้างมากที่สุด เพื่อเป็นตัวช่วยให้แต่ละองค์กรมีความตระหนักถึงความสำคัญในการใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์ และเข้าใจสถานะขององค์กรในการเรียงลำดับความสำคัญของแต่ละโครงการ

ดร.แป้ง อสมา ซีอีโอ Coraline เปิดตัวหนังสือไขความลับสู่ความสำเร็จ

ขณะที่ความแตกต่างของหนังสือ "Road to Data-Driven Organization” กับหนังสือ Big Data I, II, III ที่ตีพิมพ์ไปก่อนหน้านี้ และมียอดขายกว่า 30,000 เล่ม เป็น Best Seller ยาวนานถึง 3 ปี ดร.อสมา เปรียบเทียบว่า หนังสือเล่มนี้ เป็นการเพิ่มเติมการบริหารข้อมูลตั้งแต่ต้นทาง 

 

 

ซึ่งถ้าผู้ที่ได้อ่านหนังสือ Big Data I, II, III มาแล้ว และมาอ่านหนังสือเล่มนี้ รับรองว่าจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับการนำข้อมูลไปใช้กับองค์กรมากขึ้นอย่างแน่นอน

 

 

ดร.อสมา กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุผลที่ผู้อ่านควรซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน คือ ผู้บริหารองค์กรทุกคน ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ถ้าเปรียบเทียบข้อมูลเป็นทรัพยากรอย่างหนึ่ง คล้าย ๆ กับทรัพยากรบุคคล แต่ละองค์กรก็จะต้องมีแผนก HR มีระบบ HRM ซึ่งแตกต่างกันที่ขนาดขององค์กร เช่นเดียวกันทุกองค์กรที่มีการเก็บ และใช้ข้อมูล 

 

 

เพราะฉะนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลโดยทั้งสิ้น ซึ่งหนังสือที่มีอยู่ในท้องตลาดส่วนใหญ่จะเป็นการพูดถึงแบบแยกส่วนกัน เป็นจิ๊กซอว์ที่ไม่รู้จะประกอบร่างอย่างไร เช่น 

 

1.หนังสือเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูล หนังสือเกี่ยวกับการวางระบบ Database 

2.หนังสือเกี่ยวกับ Digital Transformation เป็นต้น 

แต่ละเล่มอาจจะลงรายละเอียดแบบเจาะลึกในด้านใดด้านหนึ่ง 

 

ในขณะที่หนังสือเล่มนี้ จะนำเรื่องราวในทุก ๆ ด้านมาเรียงร้อยต่อกันเพื่อให้ผู้บริหารเห็นภาพใหญ่ เพื่อใช้เป็นการวางกลยุทธ์ขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยงานภาครัฐที่มีข้อมูลของประชาชนคนไทยจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นมิติในด้านการจัดเก็บข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ หรือในมิติในด้านการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อสร้างประโยชน์ 

ทั้งนี้ เพื่อให้องค์กรภาครัฐได้เพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัว และสามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ที่จะส่งผลให้ให้ประเทศไทยได้มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดต่อไปได้ในที่สุด

 

“เราอาจจะคุ้นเคยกับการอ่านหนังสือแปล ก็อยากให้เปิดใจให้กับหนังสือเล่มนี้ ที่เขียนโดยคนไทย ที่คลุกคลีกับปัญหาวัฒนธรรมการจัดเก็บและใช้ข้อมูลในองค์กรไทย โดยหวังให้หนังสือเล่มนี้ ช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาด้านเทคโนโลยีในประเทศไทยได้มากขึ้น หากเรามองว่า “ข้อมูล” เป็นสินทรัพย์ เรากำลังจะเสียสินทรัพย์นั้นไปอย่างไร้คุณค่าโดยที่เราไม่รู้ตัว

 

 

 ยิ่งไปกว่านั้น คนที่เห็นประโยชน์ของสินทรัพย์นี้ เขาก็พยายามเข้ามาหาประโยชน์จากความไม่รู้ของเรา ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะช่วยกัน เพื่อให้องค์กรของเรา ประเทศของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น 

 

"แป้งหวังว่า ผู้บริหารองค์กรทุกท่าน จะเปิดใจให้กับหนังสือเล่มนี้ และนำความรู้จากหนังสือเล่มนี้ไปพัฒนาองค์กรของท่านให้เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างสูงที่สุดค่ะ” ดร.อสมา กล่าว

 

นอกจากนี้ ดร.อสมา ยังได้ยกตัวอย่างองค์กรที่ได้เข้าไปร่วมพัฒนาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจนเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เช่น ธนาคารออมสิน, บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน), และบริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน)  

 

ซึ่งในกรณีของ วอริกซ์ สปอร์ต เป็นการดำเนินโครงการ Data-Driven Transformation ที่เริ่มตั้งแต่การออกแบบแนวทางในการวางมาตรฐานข้อมูลในองค์กร การบริหารข้อมูล การปรับเปลี่ยนกระบวนการในการทำงานเพื่อใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ จนกระทั่งการนำข้อมูลมาใช้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการหารายได้ให้องค์กร

 

อย่างไรก็ตาม บริษัท Coraline เป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษา และรับพัฒนาโครงการ Big Data, Data Model, Artificial Intelligence และ Digital Transformation เพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจ โดยมุ่งเน้นให้เกิด Business Intelligence ขึ้นในองค์กรของลูกค้า 

 

สำหรับในอนาคตบริษัท Coraline ยังเตรียมเปิดตัวบริษัทในเครือเกี่ยวกับการพัฒนาแอปพลิเคชัน และการApply AI ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น 

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 099-425-5398 Email : [email protected] หรือ Facebook : Data Driven Business by Coraline (https://web.facebook.com/coralineltd)