ไลฟ์สไตล์

ปกป้องลูกน้อยได้อย่างไร ให้พ้น ไวรัสวายร้าย 'RSV'

ปกป้องลูกน้อยได้อย่างไร ให้พ้น ไวรัสวายร้าย 'RSV'

16 ก.ย. 2566

เชื้อไวรัส 'RSV' เป็นเชื้อที่ติดต่อสู่กันได้ง่ายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กสู่เด็กด้วยกัน สามารถติดต่อผ่านสารคัดหลั่ง น้ำมูก น้ำลาย ผ่านการไอ จาม และสัมผัสกันโดยตรง

ความกังวลของคนเป็นพ่อแม่ในช่วงการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจในเด็ก Respiratory Syncytial Virus (RSV) โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง จนร่างกายของลูกน้อยอาจไม่สามารถรับมือได้ ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงมีอยู่ ฉะนั้นคุณแม่และคุณพ่อจึงต้องใส่ใจดูแลลูกน้อยให้มากเป็นพิเศษ พญ.สิริรักษ์ กาญจนธีระพงค์ กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยา ศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลนวเวช ได้อธิบายเกี่ยวกับ RSV พร้อมรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นให้ทุกท่านได้ทำความรู้จัก และเข้าใจเชื้อ ไวรัส RSV เพื่อจะได้นำไปสังเกตอาการและแนวทางป้องกันรักษาได้อย่างทันท่วงที

 

พญ.สิริรักษ์ กาญจนธีระพงค์

 

 

อาการ RSV

 

  • อาการเริ่มแรกเหมือนไข้หวัดทั่วไป คือ มีไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล และจะหายได้ภายใน 5-7 วัน
  • แต่อาการมีได้หลากหลายและมีความรุนแรงที่ต่างกัน เด็กบางคนมีอาการมากกว่าไข้หวัด คือ

             -  คออักเสบ จะมีอาการเจ็บคอ ไอมีเสมหะ

             -  กล่องเสียงอักเสบ จะมีอาการเสียงแหบ ไอเสียงก้อง

             -  หลอดลม/หลอดลมฝอยอักเสบ/ปอดบวม ไอแบบมีเสมหะร่วมด้วย                    ไอมากจนอาเจียน อาจมีหายใจเร็ว แรง หายใจลำบาก หรือหายใจ                    แบบมีเสียงวี๊ด ได้ในรายที่มีอาการหนัก

 

ปกป้องลูกน้อยได้อย่างไร ให้พ้น ไวรัสวายร้าย \'RSV\'

 

 

การรักษา RSV

 

  • การรักษาอาการทั่วไป ให้สารน้ำทางเส้นเลือดดำ ให้ออกซิเจน ช่วยดูดระบายเสมหะ
  • การรักษาแบบเฉพาะที่ พ่นยาขยายหลอดลม พ่นน้ำเกลือเข้มข้นชนิดพิเศษ เพื่อลดภาวะหลอดลมเกร็ง หายใจมีเสียงวี๊ด
  • การใช้ยา Montelukast มีส่วนช่วยในการลดความรุนแรงในช่วงแรกของการหายใจหอบเหนื่อยแบบมีเสียงวี๊ด และให้ใช้ยาต่อเนื่องเพื่อลดการกลับเป็นซ้ำ

 

การป้องกัน

 

  • ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค ดังนั้นจึงเน้นการป้องกันโดยการเพิ่มภูมิต้านทานธรรมชาติ โดยเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
  • หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่แออัด
  • ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง และล้างมือบ่อยๆ

 

เนื่องจากเชื้อ ไวรัส RSV เป็นโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจในเด็ก ซึ่งสามารถติดเชื้อไวรัสซ้ำได้อีกแม้จะเคยติดเชื้อไวรัสดังกล่าวมาก่อนแล้ว สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับเป็นแนวทางให้กับผู้ปกครองทุกท่านได้นำไปปฎิบัติต่อเด็กๆ  ได้แก่ การใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง และล้างมือบ่อยๆ อยู่เสมอทั้งผู้ปกครองและเด็ก รวมทั้งการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กๆ ทำให้ร่างกายแข็งแรง

 

ปกป้องลูกน้อยได้อย่างไร ให้พ้น ไวรัสวายร้าย \'RSV\'

             

และในปัจจุบัน พบว่ามีอาการแทรกซ้อนของการติดเชื้อในโพรงจมูกเรื้อรัง รวมถึง ภาวะการนอนกรนจากการโตของต่อมอะดรีนอยด์อักเสบเพิ่มมากขึ้น ตามหลังการติดเชื้อ RSV นี้ด้วย ผู้ปกครองควรสังเกตอาการต่อเนื่อง และพาบุตรหลาน ติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่องด้วย เช่นกัน