ผลวิจัยชี้ คุณแม่รุ่นใหม่ เน้นเลี้ยงลูกด้วยสัมผัสอันอ่อนโยน เชื่อพัฒนา EQ
คุณแม่ทั้งหลายรู้ไหมว่า กิจวัตรประจำวันง่ายๆ ในแต่ละวัน ก็สามารถเสริมสร้าง EQ ให้กับลูกได้ การสัมผัสอันอ่อนโยนด้วยความรักของแม่ ทั้งการโอบกอดและการทำกิจวัตรประจำวันอย่างการอาบน้ำ หรือการทาโลชั่น มีส่วนช่วยพัฒนา EQ ให้ลูกได้ตั้งแต่แรกเกิด
EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์ นับว่ามีความสำคัญไม่แพ้ IQ หรือความฉลาดทางปัญญา โดย เด็ก ที่มี EQ ที่ดีจะเป็นเด็กที่สามารถสังเกตอารมณ์ของตัวเองและผู้อื่น มีการควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดี มีความอดทนอดกลั้นและเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น ทำให้สามารถปรับตัวและอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข เด็กทุกคนจึงควรได้รับการส่งเสริม EQ ที่ดีตั้งแต่วัยแรกเกิด
ซึ่งวิธีการเสริมสร้าง EQ ที่ดีให้กับ ลูก ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ คุณแม่ อีกต่อไป โดยข้อมูลจากการวิจัยของบริษัท Hummingbirds Consulting ชี้ให้เห็นว่า คุณแม่ทุกเซ็กเมนต์ในไทยต่างเห็นตรงกันว่า การเลี้ยงดูแบบใหม่ ด้วยกิจวัตรประจำวันง่ายๆ ที่ให้การสัมผัสของแม่ช่วยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ ที่ดีให้ลูกวัย 0-3 ปี นั้น มีส่วนช่วยส่งเสริมให้ลูกมีความพร้อมทางอารมณ์ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น เพื่อการเติบโตอย่างสร้างสรรค์ มีทักษะในการใช้ชีวิตที่ดีและมีความสุข
ดังนั้น ทุกครั้งที่ คุณแม่ ได้สัมผัสผิวกายของ ลูก อย่าง อ่อนโยน จะเป็นการสื่อให้ลูกรับรู้ว่า แม่เข้าใจอารมณ์ของลูกและตอบสนองความต้องการของเขา ซึ่งจะช่วยให้ลูกค่อยๆ รู้จักฝึกและควบคุมอารมณ์ของตัวเอง เริ่มเรียนรู้ และมีความระมัดระวังในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น โดยกิจกรรมที่คุณแม่ทำกับลูกน้อยในทุกๆ วัน เช่น การอาบน้ำ การนวด หรือการทาแป้งให้ลูก จึงไม่เพียงช่วยเชื่อมสายใยผูกพันแม่กับลูก แต่ยังช่วยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ของลูกได้เป็นอย่างดีด้วย ด้วยพลังสัมผัสอันอ่อนโยนของคุณแม่ที่มีต่อลูกน้อย ผ่านกิจวัตรประจำวันนี้จะช่วยส่งเสริมให้ลูกเติบโตอย่างเพียบพร้อม มีความมั่นคงทางอารมณ์ และมีทักษะในการในการใช้ชีวิตที่ดีและมีความสุข
ผู้ช่วย คุณแม่ ร่วมเสริมสร้าง EQ ที่ดีแก่ลูก
เมื่อการอาบน้ำ เด็ก ไม่ใช่เพียงทำความสะอาดร่างกายลูกน้อย แต่ยังช่วยเสริมสร้าง EQ ให้ ลูก ในการอาบน้ำให้ลูกน้อยจึงควรเลือกใช้สบู่เหลวที่มีความปลอดภัยต่อผิวบอบบางของทารกแรกเกิด เพราะผิวเด็กมีความอ่อนแอและระคายเคืองต่อปัจจัยทำร้ายผิวได้ง่าย