6 ชนเผ่าเชียงราย โชว์อัตลักษณ์สุดว้าว รังสรรค์ทอมือต้นคริสต์มาสแรกของไทย | คมชัดลึก

เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ เป็นอีกช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย เพราะนอกจากจะมีงานเทศกาลท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายแล้ว ในหลาย ๆ พื้นที่ยังมีการจัดตกแต่งประดับประดาสถานที่อย่างสวยงาม

 

 

โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าและอาคารต่าง ๆ ในประเทศไทย ที่จัดเต็มทั้งไฟหลากสีสันและของตกแต่งน่ารัก ๆ มากมาย งานไฟคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯเมืองหลวงของเรา ที่หลายคนตั้งตารอคอย อย่างไฟคริสต์มาสเซ็นทรัลเวิลด์ ที่จะเปิดเป็นลำดับถัดไป เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเริ่มต้นเทศกาลแห่งความสุข

 

 

แต่ล่าสุดที่ทำพิธีเปิดไฟไปเรียบร้อย กับรรยากาศเย็นๆ ฟินๆ รับฤดูหนาวของไทย น่าจะเป็นต้นแรกของไทยและโลกก็ว่าได้ ที่เปิดไฟในปีนี้ สำหรับ ช่วงฤดูหนาวของภาคเหนือ จัดงาน “เทศกาลสีสันกาสะลอง”คิกออฟความสุขด้วย "ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา ต้นเดียวในประเทศไทย" ตั้งแต่วันนี้-31ม.ค.66 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงราย

 

 

 

งานนี้ทีมข่าวคมชัดลึก อย่าง "ภาคย์ พรภวิษย์" ไม่รอช้า บินลัดฟ้าไปเหนือสุดแดนสยาม เก็บภาพบรรยากาศ คนบันเทิง ร่วมเปิดไฟต้นคริสต์มาสหมอกพันวา ที่ความพิเศษอยู่ตรงที่ ถักทอด้วยผ้าธรรมชาติ และคงอัตลักษณ์ของ 6 ชนเผ่าต่างๆในจังหวัดเชียงราย ในคอนเซปต์ พันดารกา เก็บดาวนับพันแบ่งปันความสุขกับเทศกาลปีใหม่ สูงกว่า15 เมตร ออกแบบและสร้างสรรค์โดยดอยตุง แห่งแรกในประเทศไทย

 

 

 

 

 เพื่อสร้างสีสันและต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมารับลมหนาวภาคเหนือในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง พร้อมเผยแพร่ เรื่องราวทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ทรงคุณค่าแห่งล้านนาให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นโดยได้นำเทคนิคต่างๆ เข้ามาผสมผสาน โดยแต่ละปีจะมีไฮไลท์สุดพิเศษแตกต่างกันออกไป เพื่อมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับชาวเชียงรายและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมงาน

 

 

 

บอกเลยว่า สวยสสะดุดตาตั้งแต่ผู้สื่อข่าวของเราไปถึง จนถึงช่วงนาทีเปิดไฟอย่างเป็นทางการ หม่อมหลวง ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปภัมภ์ เผยว่า “ต้นคริสต์มาสหมอกพันวา  ตั้งชื่อตามความยาวของงานผ้าทอมือขนาด  1,000 วา  หรือ 2,000 เมตร ที่เป็นการร่วมมือกันของชาวบ้าน กลุ่มชนเผ่าบนพื้นที่ดอยตุงที่ใช้เวลาว่างมาร่วมแรงร่วมใจถักทอผ้า ส่วนคำว่า หมอก  นำมาจากการที่จังหวัดเชียงรายจะเกิดปรากฏการณ์ชมหมอกที่สวยงาม ในช่วงต้นเทศกาลคริสต์มาส คือตั้งแต่ เดือน พ.ย. ถึง ม.ค.เป็นประจำทุกปี

 

 

โดยปีนี้ตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปต์   พันดารกา หมายถึง “ดาวนับพันดวง” ที่เชียงรายเก็บมาแบ่งปันให้กับทุกคน เพราะความสวยงามที่โดดเด่นแห่ง จ.เชียงราย ที่มีดอยและภูเขา ที่เหมาะกับการชมความงดงามแห่งดวงดาวมากมาย และยังหมายถึงการแบ่ง“ปัน”ความสุข สดใส ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีโดยการใช้วัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น และการสื่อถึงวัฒนธรรมเครื่องแต่งกายอัตลักษณ์แห่งชาติพันธุ์ของเชียงรายที่สอดประสานกันในแต่ละชั้น เพื่อแสดงถึงความหลากหลายที่สามารถอยู่รวมกันได้อย่างกลมเกลียว”

 

 

 

และอย่างที่บอกไป จากการสัมภาษณ์และพูดคุย กับทางคณะผู้จัดงาน ได้ทราบว่า ต้นนี้เป็นต้นเดียวของโลกที่ถักทอด้วยผ้าธรรมชาติและวัสดุในท้องถิ่นสื่อถึงการใช้ชีวิตทีเรียบง่ายและผูกพันกับธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่  เถาสน  ไหมย้อมสี  ผ้าฝ้าย และหญ้าแฝก โดยได้รับแรงบันดาลใจจากลายปักผ้าและของตกแต่งบนเครื่องแต่งกายของ 6 ชนเผ่าต่างๆในจังหวัดเชียงราย ได้แก่ อาข่า​ ลาหู่​ ลัวะ​ ไทใหญ่​ ไทลื้อ​และม้ง ที่แต่ละชนเผ่าจะมีอัตลักษณ์การแต่งกายที่แตกต่างกันออกไป เช่นการประดับโลหะที่หมวก การปักลวดลายประจำเผ่าหรือประดับผ้าแถบสีสันสดใส 

 

 

โดยทั้ง 6 ชนเผ่าได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตกแต่งต้นคริสต์มาสหมอกพันวาในครั้งนี้   สำหรับยอดต้นคริสต์มาส ประดับด้วย "ตำแหลว" ที่มักจะใช้ในพิธีกรรมล้านนาเช่นพิธีสืบชะตาหรือประดับไว้ตรงประตู มีลักษณะเหมือนกับกระจกแปดทิศ เพื่อดักความชั่วร้าย สำหรับ“ต๋าแหลว”   สีทองจะสื่อถึงความหลากหลายของชาติพันธุ์ในเชียงรายที่อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข

 

 

บอกเลยว่า เห็นแบบนี้แล้ว นับถือในฝีมือจริงๆ เพราะว่าขนาดของผ้าทอ และลูกที่มีลักษณะกลมๆ เต็มไปทั่วต้นนั้น ทำมาจากการทำมือ และฝีมือล้วนๆ ส่วนพิธีเปิดต้นคริสต์มาสหมอกพันวา แห่งแรกในประเทศไทย ได้รับเกียรติจากท่านภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงาน

 

 

 

ซึ่งความพิเศษคือ มีศิลปินที่มาร่วมสร้างสีสันภายในงานเรียกได้ว่าเป็น4 คนแรกของปีนี้ที่ได้มีโอกาสเปิดไฟแห่งความสุข สำหรับ ตงตง กฤษกร กนกธร ,ตรี ภรภัทร ศรีขจรเดชา,เพลงขวัญ นัตยา ทองเสน,ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พ.ย.65 เวลา18.00น. ณ ลานกาสะลอง ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ที่ผ่านมา