ผ่อนคลายกลางขุนเขา กรุ่นกลิ่นไอหมอก @ แกรนด์ กกกอด เขาค้อ รีสอร์ท
'เขาค้อ' อีกหนึ่งจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ทั้งที่ความจริงแล้วที่นี่อากาศเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่จะเต็มไปด้วยความสดชื่นชุ่มฉ่ำจากต้นไม้นานาพรรณบนพื้นที่ซึ่งรายล้อมด้วยขุนเขา
ช่วงหน้าหนาวที่อากาศเย็นสบายที่สุดของปี ทำให้หลายคนนึกถึงบรรยากาศชิลล์ๆ ของ “เขาค้อ” ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ทั้งที่ความจริงแล้วที่นี่อากาศเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่จะเต็มไปด้วยความสดชื่นชุ่มฉ่ำจากต้นไม้นานาพรรณบนพื้นที่ที่รายล้อมไปด้วยขุนเขา
มาเยือนเขาค้อ สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดคือ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัดที่มีความโดดเด่นสะดุดตา มีการสร้างเจดีย์บนภูเขาของผาซ่อนแก้ว โดยใช้เครื่องเบญจรงค์ เครื่องประดับ ลูกปัด ลูกแก้ว กระเบื้องสี มาตกแต่งพื้นผิวของพระธาตุ และพื้นโดยรอบ ยังมีการซ่อนปริศนาธรรมไว้ด้วย วัดมีมหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 องค์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และมีจุดชมวิวแบบสุดลูกหูลูกตา
อีกหนึ่งจุดไฮไลท์คือ ทุ่งกังหันลม นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ยังเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้ามาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 โดยการเข้าไปเที่ยวชมด้านในสามารถใช้บริการรถรางไฟฟ้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมตามจุดต่างๆ เช่น ทุ่งดอกไม้สีสันสดใส ไร่สตรอเบอรี่ รวมถึงจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงาม สามารถมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน และทะเลหมอกยามเช้าได้อย่างเต็มตานอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสนุกๆ อย่าง โล้ชิงช้าม้ง ฟอร์มูล่าม้ง ขับรถเอทีวี ฯลฯ ให้สนุกกันด้วย
และแลนด์มาร์คล่าสุดที่มาเขาค้อแล้วห้ามพลาดคือ สกาย วอล์ค เขาค้อ จุดชมวิวและจุดเช็คอินล่าสุดบนทางเดินกระจกใส ใครกลัวความสูงงานนี้ต้องลุ้นกันหน่อย แต่ถ้าขึ้นไปถึงด้านบนแล้ว บอกเลยว่าฟินสุดๆ เพราะนอกจากจะได้สูดโอโซนอย่างเต็มปอดแล้ว ยังได้ชมความงดงามของเขาค้อแบบ 360 องศาอีกด้วย
หลังจากตระเวนเที่ยวจนสาแก่ใจแล้ว ก็ว่าด้วยเรื่องของที่พักกันบ้าง ครั้งนี้เราตั้งใจพุ่งตัวไปที่รีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาว “แกรนด์ กกกอด เขาค้อ รีสอร์ท” เนื่องจากที่นี่เขาเปิดบริการโซนใหม่เป็นแบบพูลวิลล่าสุดหรู บนพื้นที่กว้างขวางถึง 145 ตารางเมตร มีความเป็นส่วนตัวสูง ที่สำคัญภายในห้องพักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
นอกจากนี้ยังมีพูลวิลล่าแบบ 2 ห้องนอนเหมาะสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน มีโซนครัว โต๊ะรับประทานอาหาร และมุมนั่งเล่น พร้อมสระว่ายน้ำระบบน้ำอุ่นส่วนตัวขนาดใหญ่ บนพื้นที่ใช้สอยรวม 232 ตารางเมตร และที่เริ่ดสุดๆ สำหรับห้องพักแบบพูลวิลล่า คือ อาหารเช้าสุดพิเศษ เสิร์ฟถึงประตูห้อง และยังสามารถนำไปลอยถ่ายรูป หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศนั่งกินชิลล์ๆ ในสระน้ำก็ได้
ทั้งหมดที่ว่ามานี้ จะบอกว่ามีแค่ 4 ห้องเท่านั้นนะ ใครสนใจอยากสัมผัสประสบการณ์แบบลักชัวรี่คงต้องใช้ความพยายามในการจองกันหน่อย
แต่ถ้าจองแบบพูลวิลล่าไม่ได้ ไม่ต้องเสียใจไป เพราะที่ แกรนด์ กกกอด เขาค้อ รีสอร์ท ยังมีห้องพักแบบอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัลเลย์ วิลล่า ขนาดห้อง 60 ตารางเมตร หรือจะเป็น ออนเซ็น วิลล่า ขนาดห้อง 55 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยไม้เป็นหลังโทนสีน้ำตาล-ทอง ให้ความหรูหรา ทั้ง 2 แบบนี้ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น และมาพร้อมลานระเบียงขนาดใหญ่สามารถมองเห็นวิวด้านหน้าห้องพักได้ถึง 180 องศา และสามารถชมพระอาทิตย์ตกดินบริเวณด้านหน้ารีสอร์ทซึ่งมีความสวยงามดังภาพวาด
และนอกจากประเภทวิลล่าแล้วยังมีห้องพักแบบอื่นๆ ให้เลือกด้วย ซึ่งทุกแบบครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ สถานที่รับรองส่วนกลางขนาดใหญ่ ห้องอาหารและบาร์ ศูนย์ออกกำลังกาย ผู้เข้าพักสามารถผ่อนคลายบริเวณสวนหย่อม หรือถ่ายภาพและชมวิวบริเวณดาดฟ้าของตัวอาคาร ซึ่งมี สกาย วอล์ค เป็นจุดเด่นอีกด้วย นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้เลยที่ https://grandkokkodkhaokho.com/ หรือ Fb : GrandKokKodKhaoKho สอบถามโทร.08-9888-8838