ททท. ฉลองรับศักราชใหม่กับงาน Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ ฉายภาพควาดงาม ของแลนด์มาร์กประเทศไทย ดันรายได้ท่องเที่ยวเพิ่ม 5 หมื่นล้านบาท
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ ส่งมอบความมหัศจรรย์แห่งค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด วิจิตร อรุณ สร้างปรากฎการณ์ความวิจิตรตระการตาของแสงแรกแห่งอรุณรุ่งของกรุงสยาม พร้อมจัดเต็มการแสดงบนเวทีกลางน้ำและการแสดงพลุสุดอลังการเบื้องหน้า พระปรางค์วัดอรุณฯ แลนด์มาร์กของประเทศไทย
คาดเงินสะพัดทั่วประเทศกว่า 5 หมื่นล้านบาท โอกาสนี้นายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีการนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. และคณะผู้บริหาร ททท. ให้เกียรติร่วมงาน ณ สวนนาคราภิรมย์ กรุงเทพมหานคร
"นายกิตติ เชาวน์ดี" เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า "ในนามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการจัดงาน “Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ” ร่วมกันเฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่ากับความวิจิตรตระการตาของแสงแรกแห่งอรุณรุ่งของกรุงสยาม ที่จะส่งมอบความสุขในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจและขออำนวยพรให้แก่ชาวไทยและชาวต่างชาติให้มีชีวิตที่เต็มไปด้วยกำลังใจที่ดี ก้าวผ่านปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ อย่างราบรื่น
และที่สำคัญที่สุดขอให้ทุกท่านจงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สุขภาพจิตใจที่แข็งแกร่งและมีกำลังใจในการก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นงานที่สร้างความสุข สร้างรอยยิ้ม ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงตอกย้ำภาพลักษณ์ให้ทั่วโลกได้รับรู้และเกิดภาพจำในเอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามของกรุงเทพมหานครและประเทศไทยต่อไป
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า "ปีนี้ ททท. ร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ภายใต้ชื่องาน “Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ” ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 - 1 มกราคม 2567 ณ สวนนาคราภิรมย์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นบิ๊กอีเวนต์สำคัญภายใต้โครงการ Thailand Winter Festivals ของรัฐบาล เพื่อเพิ่มแรงส่งกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปลายปี 2566 ทั้งสอดคล้องกับนโยบาย Soft Power ที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กรุงเทพมหานครเป็นแลนด์มาร์กและ Global Countdown Destination ที่นักท่องเที่ยวต้องนึกถึงและมาเยือนอย่างต่อเนื่อง
โดยเนรมิตพื้นที่สวนนาคราภิรมย์ให้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด "วิจิตร อรุณ" เปิดปรากฏการณ์ความวิจิตรของแสงแรกแห่งอรุณรุ่งของกรุงสยาม ด้วยภาพความสวยงามของแลนด์มาร์กของประเทศไทยอย่าง “พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร” คู่กับนวัตกรรมแสง สี เสียง และสื่อประสมที่ทันสมัย
ไม่เพียงเท่านั้น ททท. ยังจัดเต็มค่ำคืนแสนพิเศษด้วยเวทีกลางน้ำขนาดใหญ่สุดอลังการ พร้อม Light & Sound และเอฟเฟกต์สุดตระการตา ส่งมอบบรรยากาศแห่งความสุขและสนุกส่งท้ายปีด้วยการแสดงระดับโลกของวง Symphony Orchestra บรรเลงร่วมกับโขน ซึ่งเป็นการแสดงสุดพิเศษแห่งเดียวในประเทศไทย รวมทั้งการแสดงของศิลปินชื่อดัง ได้แก่ ฃ
- น้อย - กฤษดา สุโกศล แคลปป์
- นัท มีเรีย
- เก่ง ธชย
- ติวเตอร์ - กรภัทร์ ลำน้อย
- และเข้ม - หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล ก่อนจะก้าวสู่ปีใหม่ไฮไลต์การแสดงพลุที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยายาวต่อเนื่องกว่า 7 นาที
โดยแบ่งเป็น 9 องก์ ประกอบด้วย
- อรุณรุ่ง
- อรุณแห่งศรัทธา
- รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย
- ดินแดนแห่งความสุข
- สยามเมืองยิ้ม
- รุ่งอรุณแห่งการท่องเที่ยว
- แสงอรุณแห่งอิสระเสรี
- เจริญ รุ่งโรจน์ และ แสงอรุณแห่งความเชื่อ ศรัทธา ก้าวหน้า
รอยยิ้มสะท้อนสัญญาณแห่งการเริ่มต้นปีศักราชและส่งมอบความสุขต้อนรับปีใหม่ 2567 พร้อมตลาดวิจิตรอรุณที่เนืองแน่นไปด้วยอาหารและเครื่องดื่ม ไม่เพียงเท่านั้น ปีนี้ งาน “Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ” ของประเทศไทย ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญและตัวแทนกิจกรรมเอกลักษณ์ของประเทศไทย ออกอากาศสดในช่วง “New Year’s Eve Live” ของ CNN International อีกด้วย
ททท. คาดว่าในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ปี 2567 บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวไทยทั้งตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศจะคึกคักขึ้นจากปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดรายได้ทางการท่องเที่ยวไทยรวมประมาณ 54,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 44 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยตลาดต่างประเทศตั้งแต่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสไปจนถึงช่วงเคาน์ดาวน์ปีใหม่ วันที่ 22 ธันวาคม 2566 - 1 มกราคม 2567 คาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 41,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากจำนวนนักท่องเที่ยว 1.1 ล้านคน ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยสนับสนุนการเปิดเที่ยวบินเข้าไทยเดือนธันวาคม 2566 เพิ่มขึ้นจาก 3.3 ล้านที่นั่งในเดือนพฤศจิกายน 2566 เป็น 3.7 ล้านที่นั่ง
การอำนวยความสะดวกการเดินทางเข้าไทยในช่วงไฮซีซั่นมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าไทย (Visa Exemption) ของนักท่องเที่ยวจีน คาซัคสถาน อินเดีย ไต้หวัน และรัสเซีย และมาตรการขยายเวลาเปิดบริการสถานบันเทิงยามค่ำคืนถึงเวลา 04.00 น. ในพื้นที่ท่องเที่ยวได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
ขณะที่ตลาดในประเทศ มีแนวโน้มเติบโตได้ดีเช่นกัน มีรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 12,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 3.76 ล้านคน-ครั้ง ตั้งแต่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (วันที่ 29 ธันวาคม 2566 – 1 มกราคม 2567)
ทั้งนี้ พื้นที่ที่ ททท. ดำเนินการจัดกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และร่วมกับพันธมิตร ภาคเอกชนจัดกิจกรรมแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่
- กรุงเทพมหานคร
- นครราชสีมา
- เชียงใหม่
- ขอนแก่น
- นครพนม
- ร้อยเอ็ด
- สุพรรณบุรี
- ประจวบคีรีขันธ์
- ภูเก็ต และ
- สงขลา
คาดว่า บรรยากาศทางการท่องเที่ยวดีขึ้น โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาว ไทย 1.11 ล้านคน-ครั้งเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 และสร้างรายได้ 4,740 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย ร้อยละ 82 ซึ่งคาดการณ์ว่า กรุงเทพมหานครจะเป็นพื้นที่ที่มีจำนวนการเดินทางมากที่สุดจาก 10 จังหวัด รองลงมาคือ นครราชสีมา และเชียงใหม่ ตามลำดับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง