ไลฟ์สไตล์

อำลาวันสุดท้าย “ตั้งฮั่วเส็ง” ห้างดังฝั่งธนฯ 62 ปีแห่งความทรงจำ

ประชาชนแห่ให้กำลังใจ มาถ่ายรูปเก็บภาพความทรงจำ บ่นเสียดาย  "ตั้งฮั่วเส็ง"  ห้างดังฝั่งธนฯ หลังประกาศหยุดกิจการ โดยให้บริการวันจันทร์ ที่ 9 ก.ย. 2567 เป็นวันสุดท้าย ก่อนปิดไม่มีกำหนด

วันที่ 9 กันยายน 2567   ประชาชนทยอยเดินทางมาเลือกซื้อสินค้าลดราคา 30-70% ที่ ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง สาขาธนบุรี ขณะที่บางส่วนนำโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำ ทั้งนี้หลังจากทางห้างได้ออกหนังสือแจ้งปิดทำการแก่ผู้ประกอบการภายในห้าง เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากการไฟฟ้านครหลวงขอยุติการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ในวันอังคารที่ 10 ก.ย. 2567 และยังไม่มีกำหนดกลับมาเปิดทำการ

 

อำลาวันสุดท้าย “ตั้งฮั่วเส็ง” ห้างดังฝั่งธนฯ 62 ปีแห่งความทรงจำ

 

 

โดยบรรยากาศช่วงเช้าวันนี้ ประชาชนบางส่วน ได้เดินทางมาที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อรอห้างเปิด โดยมีบางคน มาบันทึกภาพ ความทรงจำที่เคยมีกับห้างแห่งนี้  ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณมอน และ คุณอรสา ที่ได้เดินทางมาที่ห้างสรรพสินค้าและถ่ายรูปบันทึกความทรงจำ โดยทั้งคู่กล่าวว่า “ทราบว่าห้างกำลังปิดตัวเลยแวะมาดูและมาถ่ายรูป โดยพวกตนเป็นลูกค้าเก่าแก่ของทางห้าง คนฝั่งธนเราก็ผูกพันกับห้างตั้งฮั้วเส็ง มานานก็ไม่ได้อยากให้ห้างสรรพสินค้าปิดตัวลง พวกตนก็มาที่ห้างตั้งแต่ลูกๆยังเล็ก 30 กว่าปี โดยเสียดายที่ห้างปิดตัวลงเพราะยังต้องมาซื้ออุปกรณ์เย็บปักถักร้อย แต่ก็ยังมีอีกสาขา คือ สาขาบางลำภู ที่ยังเปิดอยู่ พวกตนก็ไม่ไดยินดีกับการปิดตัวไปของห้าง พวกตนก็เป็นกำลังใจให้ทางห้างตั้งฮั้วเส็ง

 

ทางด้านแม่ค้าขายน้ำ ซึ่งตั้งอยู่หน้าป้ายรถเมล์หน้าห้างสรรพสินค้า นางธันวา เพ็งฉุย อายุ 58 ปี ที่ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกล่าวว่า “ในส่วนของตนเองก็ได้รับผลกระทบจากห้างสรรพสินค้าปิดตัวลง เพราะทำให้ลูกค้าน้อยลง เพราะส่วนใหญ่ลูกค้า คือ พนักงานของทางห้าง และพนักงานบริษัทที่มาเช่าพื้นที่ ตนเองอยู่ตั้งแต่ห้างนี้สร้างเสร็จใหม่ๆโดยเป็นพนักงานของห้างมาก่อน ก่อนจะลาออกมาขายน้ำ  ความรู้ที่ห้างสรรพสินค้าปิดตัวลง รู้สึกใจหายและเสียดาย โดยในส่วนพนักงานบางคนได้มีโอกาสพูดคุย พนักงานบางคนก็พึ่งทราบไม่นานและตั้งตัวไม่ทัน เท่าที่ทราบว่าห้างสรรพสินค้าปิดตัวลงคือวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีพนักงานไม่ได้รับเงิน ตนเองก็เข้าใจเห็นใจเขาใจเรา โดยหลังจากห้างสรรพสินค้าปิดตัวลง ตนเองก็คงต้องขายของตรงนี้สักพักหนึ่งเพื่อดูสถานการณ์