ธุรกิจคู่ขนานการเมือง
หวยผู้แทนฯ หรือการรับแทงพนันว่าผู้สมัครคนใดจะเข้าวินได้นั่งในสภาผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติ ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีมานานแล้ว
บางพื้นที่รอคอยยิ่งกว่าฟุตบอลโลกที่ 4 ปีมีครั้งเสียอีก เพราะหวยผู้แทนฯ หรือการรับแทงพนันนั้นโอกาสได้เงินมีสูง มากกว่าแทงฟุตบอล 2 ทีมเสียอีก
พูดภาษาชาวบ้านก็คือ ช่วงรับทรัพย์ ซานตาคลอสมาแจกเงินแบบนั้นคงไม่ผิด
เนื่องจากการพนันขันต่อ ส่วนใหญ่อยู่ในเครือข่ายของนักการเมือง ในรูปหัวคะแนนบ้าง มาเฟียท้องถิ่น ซึ่งวิธีนี้จะเป็นตัวเลือกสุดท้าย เนื่องจากต้องใช้เงินมาก
ห่วงเวลาไม่เกิน 3-5 วันก่อนการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เพราะเช็กคะแนนได้ชัวร์กว่า จังหวะสุดท้ายที่ต้องยิงดินดำเพื่อหวังผล หมาเลยหอนกันลั่นในช่วงนั้น
กว่า 20 ปี มีกลุ่มการเมืองหัวสมัยใหม่ คิดเก่ง ทางภาคตะวันออก นำวิธีนี้มาใช้อย่างได้ผล (อาจไม่ใช่เจ้าแรก) แต่เห็นผลเพราะคะแนนตัวเองเป็นรองจึงคิดวิธีซื้อเสียงแนวใหม่เพราะถูกจับตาไม่กะพริบในการแจกเงิน
นักการเมืองกลุ่มนี้จึงให้หัวคะแนนไปพนันขันต่อว่า ตัวเต็งหรือฝ่ายตรงข้ามจะได้เป็น ส.ส. ห่างวันเลือกตั้ง ราคาไม่มากอยู่ระดับ 5 ต่อ 4 หรือ 2 ต่อ 1 อย่างมาก ถ้าเช็กแล้วว่าคะแนนยังห่าง และใกล้วันเลือกตั้งราคาจะไหลเพื่อดึงชาวบ้านมาลงคะแนน บางครั้งไปไกลถึง 5 ต่อ 1 ชาวบ้านหันมาเทคะแนนให้รับทรัพย์เข้ากระเป๋า
ตอนนั้นผู้แทนฯ คนนี้ถูกพรรคพวกเพื่อนฝูงแถวภาคตะวันออกแซว แต่ระยะหลังใช้ไม่ค่อยได้เพราะเจ้าหน้าที่รู้แกว ชาวบ้านลองกันเยอะจ่ายไม่ไหว จึงซาๆ ไป
การแทงพนันอีกประเภทคือ เจ้ามือหวยเจ้าเดิม ตามพื้นที่ในท้องถิ่นนี่แหละซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นหัวคะแนนของนักการเมืองเช่นกัน
ออกราคาพนันขันต่อติดปลายนวม เป็นการหาเงินหมุนเวียนเข้ากระเป๋า หากผู้สมัครในสายเดียวกันไม่ได้อย่างน้อยก็ยังได้เงินคืนจากชาวบ้านบ้าง
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ 10) หัวหน้าศูนย์เลือกตั้งมีข้อมูลอยู่มากส่วนใหญ่อยู่ในภาคอีสานกับภาคใต้ แต่ยังจับไม่ได้พอตำรวจเพ่งเล็งก็หยุด พอเผลอก็เอาอีก
แต่ไม่ต้องห่วง "โต๊ะพนัน" พวกนี้จะหายไปหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นประมาณสัก 1 เดือน เพราะเหลือซ็อตสุดท้ายคือพนันตั้งรัฐบาล
เสร็จสิ้นมีนายกฯ มีคณะรัฐมนตรีเมื่อไร พับเสื่อกลับไปเล่นหวยใต้ดินเหมือนเดิม!!