ข่าว

ฝึกเข้ม"บอดี้การ์ด"สีกากีพิทักษ์..."ผู้สมัคร ส.ส."

ฝึกเข้ม"บอดี้การ์ด"สีกากีพิทักษ์..."ผู้สมัคร ส.ส."

18 มิ.ย. 2554

ภาพชายฉกรรจ์ชุดสูทสีดำ ใส่แว่นตาดำ ที่หูมีอุปกรณ์สื่อสาร หน้านิ่ง แต่มีท่าทางระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา คอยยืนเคียงข้างผู้สมัคร ส.ส. ที่ร้องขอความคุ้มกันมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) อาจไม่ใช่ชุดคุ้มกันที่ทำอารักขาเป็นประจำ แต่พวกเขาพกความมั่นใจมาเกินร้อย

แม้เพียงแค่ 2 วันที่บรรดาเหล่า "บอดี้การ์ดสีกากี" ต้องผ่านบททดสอบอันเข้มข้นในโครงการ "การฝึกอบรมการคุ้มครองให้ความปลอดภัยผู้สมัครรับเลือกตั้ง" ตามนโยบายของสตช. ที่ให้ พล.ต.ต. ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.กองบัญชาการตำรวจสันติบาล 3 จัดชุดฝึกเพื่อติดเขี้ยวเล็บให้ตำรวจที่เคยปฏิบัติหน้าที่ในโรงพัก สามารถคุ้มกันบุคคลวีไอพีได้

 พ.ต.ท.กรธวัช สวัสดิ์โรจน์ รองผกก.6 ส.3 หรือ "ครูตั้ม" หัวหน้าชุดครูฝึก เล่าว่า เนื่องจากเวลาฝึกมีจำกัดจึงมีชุดครูฝึกจากอรินทราช 1ชุดมาช่วยฝึกในภาค 3 กับ 6 และครูฝึกจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ 1 ชุด ช่วยฝึกภาค 8 ส่วนครูฝึกจากสันติบาล 3 อีกหนึ่งชุดจะดูในภาค 2, 4, 5, 9 และศชต. ซึ่งใช้เวลาฝึกแค่ 2 วันต่อหนึ่งภาค โดยแบ่งเป็นหลักทฤษฎีให้ 4 ชม. และหลักปฏิบัติ 12 ชม. รวมกันแล้ว 16 ชม. ทั้งนี้ การฝึกภาคปฏิบัติ จะมีการจำลองสถานการณ์ไว้ 4 เหตุการณ์คือ การถูกขว้างปาสิ่งของ ถูกระเบิดขว้าง ถูกมีดระยะใกล้ และถูกซุ่มโจมตี

 "ทุกชุดการฝึกเหมือนกันหมด ต่างที่ลีลาการสอนของครู รวมทั้งสถานการณ์ในท้องที่ เดี๋ยวฝึกไม่เหมือนกันแล้วเดี๋ยวแต่ละภาคน้อยใจ (ฮา) อย่างภาค 9 และศชต. ที่เราไปฝึกนั้น ในพื้นที่เขามีเฮลิคอปเตอร์ มีรถ วี 150 อยู่แล้วก็เอามาปรับใช้ให้เข้ากับการฝึก เนื่องจากเป็นของที่เขามีอยู่แล้วและสถานการณ์ระเบิดที่บ่อยครั้ง ก็ปรับกันไปแต่ละพื้นที่" พ.ต.ท.กรธวัช ระบุ

 ส่วนขั้นตอนการฝึกชุดคุ้มครองในการเลือกตั้ง ด.ต.วิรัตน์ นาหา หรือ ครูยักษ์ อธิบายว่า วันแรกจะมีการสอนการอารักขาบุคคลสำคัญตัวต่อตัว แล้วก็สองต่อหนึ่ง จากนั้นก็ฝึกป้องกันตอบโต้การต่อสู้ระหว่างคนร้ายที่เข้ามาหาแบบตัวต่อตัว ตลอดจนการดูแลวีไอพีในการขึ้นรถลงรถ สุดท้ายก็มีชุดปฏิบัติการพิเศษ ที่มีภัยคุกคามประสานไปยังท้องที่ในการช่วยดูในการขึ้นปราศรัย

 สิ่งที่ "ครูยักษ์" สอนนั้นจะใช้วิธีเหมือนทำกับข้าว คืออะไรอร่อยก็ใส่ลงไป ไม่ได้ยึดติดกับการสอน ทุกอย่างปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ และอาศัยดูสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งประสบการณ์ในการทำงานเอามาสอนซึ่งหลักการคุ้มครองคือ 1.ไม่ให้เสียหน้า 2.ปลอดภัย และ 3.ให้ความสะดวกสบาย บางคนมัวแต่ระวังอาวุธแต่พวกสิ่งสกปรก หรือกระดาษกับปากกามาเขียนป้ายแล้วชูก็เป็นการทำให้เสียหน้าได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ต้องติดตัวก็คือ วิทยุ มีด ปืน เครื่องมือสื่อสาร ไฟฉาย แล้วก็มีบอดี้อาร์มเมอร์ พร้อมสูททับ รวมทั้งเทคนิค ตาดูหูฟัง บางคนคิดว่าบอดี้การ์ดทำตัวเท่ๆ แต่ที่ใส่แว่นดำเพื่อช่วยให้กลอกตาได้ 360 องศา ขืนไม่ใส่จะตลกซะเปล่าๆ (ฮา) 

 "การฝึกจะเป็นไปตามหลักสากล และเสริมให้เข้ากับพื้นที่ ใช้อุปกรณ์ในพื้นที่ เพื่อนำมาปรับใช้กับสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ ชั้นแรกมีตำรวจท้องที่ตั้งด่าน ชั้นกลางก็มีการตรวจอาวุธวัตถุระเบิด ชั้นในก็จะเป็นชุดบอดี้การ์ดส่วนตัว ชุดล่วงหน้า ชุดอาวุธหนัก อย่างน้อยช่วยให้เขารู้ระบบว่าบุคคลสำคัญมาแล้วควรทำงานแบบไหน" ส.ต.อ.นิคม เกิดกลั่น หรือ ครูแจ๊ค เสริม

 จ.ส.ต.วิชิต พะมณี หรือ ครูชิต บอกว่า บางคนทำตัวเป็น "น้ำเต็มแก้ว" ว่าเคยฝึกมาแล้ว เวลาฝึกใครยศอะไรขอให้ถอดยศไว้ก่อน ถ้าเข้ารับการฝึกคุณมีค่าเท่ากับศูนย์ และต้องคอยย้ำเรื่องหลักข้อกฎหมายด้วย หากเขามีมีด ไม้ แล้วเราไปยิงเขาก็จะกลายเป็นทำเกินกว่าเหตุ และตอนอารักขาต้องคิดในมุมว่าถ้าเราเป็นคนร้ายจะทำอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้คอยระมัดระวัง เหมือนจะเว่อร์แต่ต้องทำเพื่อป้องกันทุกอย่าง

 แม้ว่าจะมีเวลาฝึกแค่ 2 วัน "บอดี้การ์ดจำเป็น" ก็ต้องกระโจนลงสนามเลือกตั้งเคียงคู่กับผู้สมัคร ส.ส. แต่ทว่าการฝึกฝนที่เข้มข้นอาจช่วยให้บุคคลวีไอพี "อุ่นใจ" และ "วางใจ" ได้แน่นอน