นกเอี้ยงเลี้ยงควาย?
คำกล่าวในลักษณะภาษิต ซึ่งมักจะหมายถึงการเกาะเกี่ยวเก็บผลประโยชน์บนการทำงานของผู้อื่น
คำกล่าวในลักษณะภาษิต, พังเพย หรือแม้แต่คำเสียดสีของไทย มีคำที่เกี่ยวข้องกับควายอยู่ไม่น้อย เช่น “โง่เหมือนควาย” ทั้งที่ในความเป็นจริงควายเป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก สอนให้ทำอะไรก็เรียนรู้จดจำได้รวดเร็ว และเป็นสัตว์ที่มีบุญคุณต่อคนไทยและประเทศไทยไม่น้อย แต่คนไทยสมัยก่อนเห็นว่าควายยอมให้คนเราเจาะจมูก เอาเชือกสอดเข้าไปสนตะพายแล้วจูงไปทางไหนก็ยอมง่ายๆ คนจึงคิดว่าควายโง่เลยเอามาว่าเปรียบเทียบกับคนที่สมองทึบ
หรือประโยคที่ว่า “นกเอี้ยง เลี้ยงควายเฒ่า” ซึ่งมักจะหมายถึงการเกาะเกี่ยวเก็บผลประโยชน์บนการทำงานของผู้อื่น ด้วยว่าคนไทยชินตากับภาพที่ไม่ว่าควายจะเดินไปทางไหน ก็มักจะมีนกเอี้ยงเกาะอยู่บนหลังควายตลอดเวลา และเมื่อควายเดินผ่านพงหญ้าป่าละเมาะไป ฝูงแมลงตัวเล็กตัวน้อยก็จะบินแตกพรูขึ้นมา นกเอี้ยงที่เกาะอยู่บนหลังควายโดยไม่ต้องออกแรงบินไปหาเหยื่อ ก็จะกางปีกโผไปจิกกินแมลงที่แตกพรูขึ้นมานั้นเสียง่ายๆ
แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าการที่นกเอี้ยงเกาะอยู่บนหลังควายนั้น ถือว่าเป็นหุ้นส่วนที่ผลประโยชน์สมกันอย่างลงตัว เพราะนกเอี้ยงจะคอยช่วยจิกกินตัวแมลงเล็กๆ ที่คอยบินมาตอมตามลูกนัยน์ตาของควาย อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ควายเป็นโรคตาแดงตาช้ำ ไม่ให้มารบกวนนัยน์ตาของควายได้อีกต่อไป แถมการจิกกินแมลงที่เกาะตามผิวหนังของควาย ยังช่วยให้ควายมีผิวหนังดำขลับสวยงาม ไร้รอยตำหนิแผลเป็นจากการชอนไชของแมลง และเป็นการช่วยเกาแก้คันให้ควายไปในตัวด้วย
ธุรกิจทั่วไปก็มีสินค้าที่เคียงคู่และเสริมซึ่งกันและกันอยู่มาก และก็แน่นอนว่าผลประโยชน์หรือรายรับผลกำไรที่เกิดขึ้นจาการเคียงคู่กัน ย่อมไม่สามารถยกมาเปรียบเทียบได้ว่า ใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบในการคบหาสมาคมกันและกัน ขอเพียงให้ทั้งสองฝ่ายหรือสามฝ่าย ต่างล้วนพึงพอใจในประโยชน์ที่ตนเองได้รับ ก็ถือว่าเป็นการเคียงข้างกันที่เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่ายแล้ว
ผมมีโอกาสเดินทางติดตามคณะของประธานบริษัทตรีเพชร อีซูซุเซลส์ ไปตรวจและเยี่ยมชมกิจการของผู้แทนจำหน่ายรถยนต์อีซูซุทั่วทุกมุมโลกที่ส่งไปจากประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา อเมริกากลาง ยุโรปทั้งทวีป เอเชีย หรือแม้แต่ออสเตรเลีย ทุกแห่งหนที่ได้ไปนอกจากจะได้เห็นการเติบโตของรถยนต์อีซูซุ ที่ผลิตจากประเทศไทยทุกขั้นตอนแล้ว
ผมยังมีโอกาสได้เห็นสินค้าจากประเทศไทยอีกมากมาย ที่ไม่เคยได้รับรู้ข่าวมาก่อนว่ามีการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เช่น บรรดาหลังคาไฟเบอร์รูปแบบต่างๆ พื้นปูกระบะป้องกันรอยขีดข่วน หรือแม้แต่อุปกรณ์ตกแต่งอีกหลายรายการ
เมื่อมีจังหวะเวลาและได้สอบถามผู้จำหน่ายในประเทศนั้นๆ ถึงเหตุผลของการสั่งซื้อสินค้าเหล่านั้นจากประเทศไทยมาจำหน่าย จึงได้รับรู้ว่าเมื่อผู้แทนจำหน่ายเหล่านั้นเดินทางเรียนหลักสูตรการตลาด “ตรีเพชร อีซูซุ มาร์เก็ตติ้ง สคูล” ในประเทศไทย และเห็นรถปิกอัพอีซูซุที่จอดโชว์อยู่ตามโชว์รูมของผู้แทนจำหน่ายอีซูซุในประเทศไทย ตกแต่งด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านั้นแล้วสวยถูกตาถูกใจ
จึงสืบถามหาแหล่งติดต่อและนำไปจำหน่าย โดยใช้แบบอย่างการตกแต่งไปจากประเทศไทยเรานี่เอง สินค้าจำพวกเหล่านั้นจึงถือว่าเป็นสินค้าที่ได้รับประโยชน์จากการขยายตลาดของรถปิกอัพจากประเทศไทย ซึ่งแต่ละปีมีการสั่งซื้อสินค้าเหล่านั้น เป็นจำนวนเงินรวมกันนับพันล้านบาททีเดียว
ล่าสุดเมื่อผมติดตามคณะของประธานบริษัทตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อชมการแข่งขันมวยไทยไฟท์ที่กรุงโตเกียว ผมมีโอกาสเข้าไปในห้องพักนักมวยที่ทำการอบอุ่นร่างกายและนวดกล้ามเนื้อกันอยู่ ทั้งนักมวยชาวไทย ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ทุกคนต่างใช้น้ำมันนวดกล้ามเนื้อขวดสีเหลืองยี่ห้อ “น้ำมันมวย” ทั้งสิ้น ไม่มียี่ห้อของต่างชาติเข้ามาปะปนแม้แต่นิดเดียว นี่ก็เป็นการก้าวคู่กันอย่างได้ประโยชน์ของน้ำมันมวย จากการขยายตัวออกไปสู่ตลาดโลกของกีฬามวยไทยเช่นเดียวกัน