ข่าว

ยกฟ้อง'แด๊ก-บิ๊กแอส'พรากผู้เยาว์

ยกฟ้อง'แด๊ก-บิ๊กแอส'พรากผู้เยาว์

26 ส.ค. 2554

ศาลยกฟ้อง 'แด๊ก บิ๊กแอส' ไม่ผิดพรากผู้เยาว์ 'น้องฝ้าย' ชี้ แด๊กสำคัญผิดเรื่องอายุ ขณะที่เจ้าตัว ดีใจพ้นมลทิน เตรียมหาแรงบันดาลใจทำอัลบั้มต่อ

          26 ส.ค.54 ที่ห้องพิจารณาคดี 914 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.2193/2549 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 โจทก์ และ น.ส.สุวรรณี ไชยมงคล หรือน้องฝ้าย อดีตนางแบบนิตยสารฟอร์เมน โจทก์ร่วม เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายเอกรัตน์ วงศ์ฉลาด หรือ แด๊ก นักร้องนำชื่อดังวงร็อค “บิ๊กแอส” สังกัดค่ายแกรมมี่ เป็นจำเลย ในความผิดฐาน พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์เต็มใจไปด้วย

          โดยคดีนี้ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่(4 ก.ค.49) ระบุความผิดสรุปว่า ระหว่างประมาณต้นเดือน ธ.ค.46 ถึงปลายเดือน เม.ย.48 จำเลยได้พราก น.ส.สุวรรณรี ขณะนั้นอายุ 15 ปีเศษ ไปเสียจากนางจรุงจิต สุรางคนารมภ์ ซึ่งเป็นมารดา ไปกระทำชำเราและเพื่อสำเร็จความใคร่ของจำเลยหลายครั้ง จึงขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 283 ทวิ และ 319

          ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่(21 มี.ค.50) เห็นว่า น.ส.ฝ้าย ยังอยู่ในความปกครองดูแลของมารดา การที่จำเลยพา น.ส.ฝ้าย ไปมีเพศสัมพันธ์กันหลายครั้งนั้น ถือเป็นการกระทำที่กระทบกระเทือนต่อศีลธรรมและสังคม และจำเลยยังไม่ประสงค์จะอยู่กินฉันท์สามีภรรยากับผู้เสียหาย ดังนั้นจำเลยจึงมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี  ตามมาตรา 319 วรรคแรก ให้จำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท

          แต่ศาลเห็นว่าคำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง จึงลดโทษให้ 1 ใน 4 จำคุกไว้ 1 ปี 6 เดือน และปรับ 15,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี โดยให้คุมประพฤติจำเลยไว้ตลอดระยะเวลารอการลงโทษ และมีเงื่อนไขว่าให้จำเลยผลิตเพลงเพื่อเยาวชนต่อต้านยาเสพติดและอบายมุขด้วย

          ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง อ้างว่า สำคัญผิดในข้อเท็จจริงว่า น.ส.ฝ้าย โจทก์ร่วม มีอายุเกินกว่า 20 ปีแล้ว จำเลยไม่มีเจตนากระทำความผิด

          ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยรู้จักกับ น.ส.ฝ้าย ผู้เสียหาย ที่ขณะนั้นอายุประมาณ 15 ปีเศษ เมื่อปี 2546 และมีเพศสัมพันธ์กันหลายครั้ง จนกระทั่ง น.ส.ฝ้าย ได้ตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย แต่ผลการตรวจดีเอ็นเอรวม 2 ครั้ง ปรากฏว่าจำเลยไม่ใช่บิดาของบุตรชาย น.ส.ฝ้าย คดีจึงมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิดฐานพรากผู้เยาว์หรือไม่ เห็นว่า จำเลยรู้จัก น.ส.ฝ้าย ที่ร้านอาหารซันไชน์ ถนนเกษตร-นวมินทร์

          โดย น.ส.ฝ้าย อ้างว่าเป็นนางแบบนิตยสารฟอร์ เมน และมีการแลกเบอร์โทรศัพท์กัน ซึ่งน.ส.ฝ้าย ได้โทรศัพท์มาหาจำเลยให้ซื้อนิตยสารมาดู ซึ่งนิตยสารดังกล่าวที่มีรูปภาพของ น.ส.ฝ้าย และข้อความระบุว่า “ชื่อฝ้ายค่ะ เล่นเจ็ทสกีมา 4 ปี แล้ว ตั้งแต่อายุ 17 ปี ”

          นอกจากนี้ทางนำสืบพยานปากอื่นเบิกความไปในทำนองเดียวกันว่า น.ส.ฝ้าย มีรูปร่างสูงใหญ่กว่าหากจะเทียบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน โดยมีความสูงถึง 170 เซนติเมตร สัดส่วน 36-26-35 ประกอบกับ น.ส.ฝ้าย ยังเบิกความยอมรับว่าไม่เคยบอกอายุให้จำเลยทราบ จนกระทั่ง น.ส.ฝ้ายตั้งครรภ์ จึงส่งข้อความมาบอกอายุเพื่อให้จำเลยรับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นจะให้มารดาเอาเรื่อง

          จากข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า จำเลยสำคัญผิดในข้อเท็จจริง ไม่รู้ว่า น.ส.ฝ้าย มีอายุไม่ถึง 18 ปี ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 62 บัญญัติว่า หากผู้กระทำสำคัญผิดในข้อเท็จจริงผู้กระทำนั้นย่อมไม่มีความผิด หรือได้รับยกเว้นโทษ ดังนั้นการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม ม.319 วรรคแรก ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์จำเลยฟังขึ้น พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

          ภายหลัง นายเอกรัตน์ หรือแด๊ก บิ๊กแอส กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง เพราะทำให้ประวัติของตนเคลียร์ ไม่มีความผิดติดตัวต่างกับการรอลงอาญาที่รู้สึกว่าเราเคยทำผิดมา ส่วนเรื่องงานเพลงกำลังหาแรงบันดาลใจในการทำผลงาน