ข่าว

เปิดใจคนเวียด'มีใจละแต่ต้องกิน'หมา

เปิดใจคนเวียด'มีใจละแต่ต้องกิน'หมา

29 ส.ค. 2554

"ก็มีใจล่ะ แต่ต้องกิน" ชะตากรรมหมา...ที่เวียดนาม : ไชยฤทธิ์ เสนาะวาที : เรื่อง/ภาพ

           หลังเกิดเหตุสะเทือนใจคนรักสุนัข เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจยึดสุนัขร่วม 2,000 ตัว กำลังจะถูกส่งข้ามแม่น้ำโขงฝั่งจังหวัดนครพนม เพื่อนำไปทำเมนูเปิบพิสดารของชาวเวียดนาม ที่เชื่อกันว่า "เนื้อสุนัข" มีสรรพคุณทางยา บำรุงร่างกายให้ฟิตปั๋ง ฯลฯ เมื่อ "คม ชัด ลึก" มีโอกาสเดินไปพื้นที่ชายขอบของประเทศเวียดนาม ซึ่งตั้งอยู่ภาคกลางของประเทศและมีพรมแดนอยู่ติดกับประเทศลาว แม้จะไม่พบเนื้อสุนัขวางขายเกลื่อนกราดตามตลาดนัด หรือร้านอาหารใหญ่น้อย แต่ยังพอเห็นสุนัขวิ่งเล่นอยู่บริเวณบ้านเรือนของพวกเขา จึงหอบเอาความสงสัยไปถามว่า การกินเนื้อสุนัข พวกเขามีทัศนะอย่างไร? 
   
            ชาวเวียดนามที่หมู่บ้านพังเกียบ ต.ลูเคียม อ.ตุงดุง จ.เนอา ส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนามเชื้อสายลาว แต่พวกเขาเรียกตัวเองว่า "ชาวไทย-เวียด" สามารถสื่อสารภาษาไทยกันพอเข้าใจ บอกเล่าถึงวัฒนธรรมการกินเนื้อสุนัขของพวกเขาว่า ไม่ใช่ของที่จะหากินได้ง่ายๆ จะกินเนื้อสุนัข เฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่, ตรุษจีน เท่านั้น

            "คนเวียดนามที่บริโภคสุนัข เพราะมีความเชื่อว่ากินเนื้อสุนัขแล้วจะมีโชคดี เป็นยาชูกำลัง โดยเฉพาะเนื้อสุนัขดำกับเหล้า จะช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้ปึ๋งปั๋ง ตลอดเวลา" แม แว ฮุง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ต.ลูเคี่ยม บอกและยืนยันอีกว่า ตอนนี้เขาอายุ 59 ปีแล้ว ยังสามารถอุ้มสาวๆ อย่างสบายๆ

            แม แว ฮุง บอกอีกว่า เนื้อสุนัขอร่อยกว่าเนื้อหมู เพราะเนื้อสุนัขไม่มีมัน เมนูที่นิยมกิน จะเป็นไส้ย่าง, เท้าย่าง, หางย่าง และเนื้อย่าง ส่วนหัวสุนัขจะนำไปต้มเค็ม, ต้มซุป , ผัด และลาบเลือด 

            สำหรับการคัดเลือกเลือกสุนัขที่จะฆ่าเพื่อนำมาปรุงอาหารนั้น แม แว ฮุง เล่าว่า จะไม่นิยมสุนัขที่อายุต่ำกว่า 6 เดือนและสุนัขเพศเมีย เพราะสุนัขที่ต่ำกว่า 6 เดือนตัวยังเล็ก ส่วนสุนัขเพศเมีย เก็บไว้เพื่อให้มันออกลูก และที่สำคัญเนื้อสุนัขเพศเมียไม่ค่อยอร่อย ส่วนขั้นตอนการฆ่าสุนัขก็ไม่ได้ยากอะไร แค่ใช้มีดปาดคอ ใช้ภาชนะรอเลือดสุนัขเก็บไว้ เอาขนออก แล้วชำแหละเอาไส้ออกมาแล้วสับแยกชิ้นส่วน นำไปปรุงตามเมนูที่ต้องการ 
 
            "คนเวียดนามมีวัฒนธรรมการกินสุนัขและแมวมานานมากแล้ว แต่ใช่ว่าคนเวียดนามทุกคนจะนิยมบริโภคเนื้อสุนัขและแมวได้ทุกคน เพราะตลอด 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลรณรงค์ให้หันไปบริโภคเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ แทน จนทำให้ร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อสุนัขลดลงไปด้วย ปัจจุบันใครอยากกินเนื้อสุนัขต้องเดินทางไปจังหวัดทางเหนือของประเทศเวียดนาม" แม แว ฮุง กล่าว

            ทางตอนเหนือของเวียดนามที่ แม แว ฮุง กล่าวถึงว่าเป็นแหล่งซื้อขายเนื้อสุนัขที่ใหญ่ที่สุดของประเทศนั้น ส่วนใหญ่มาจาก "ด่านกาวแจว" ซึ่งเป็นตลาดค้าขายสุนัขเป็นๆ ที่รับมาจากฝั่งไทยนั่นเอง ส่วนภูมิภาคอื่นๆ ของเวียดนาม หากใครอยากกินเนื้อสุนัข ต้องใช้วิธีการเสาะแสวงหาพอสมควร!!

             ระหว่างที่ "คม ชัด ลึก" เดินทางผ่านตลาดชุมชนเล็กๆ ยังพอเห็น "สุนัข" ถูกใส่อยู่ใน "ตูโก๋" หรือตะกร้าหวายที่สานตาห่างๆ ที่ใช้ขนหมูไปขายในบ้านเรา อยู่ท้ายรถจักรยานยนต์ ปลายทางของสุนัขตัวนั้น ต้องตกไปอยู่ในเมนูจานพิเศษของชาวเวียดนาม

            วี ตี่ เจี่ยน แม่ค้าวัย 45 ปี ชาวบ้านพังเกียบ ยอมรับว่า เธอและครอบครัวนิยมกินเนื้อสุนัข แต่ด้วยราคาสุนัขสูงมาก เริ่มตั้งแต่ตัวละ 9 แสน-1.5 ล้านดอง (1,250-2,400 บาท) ถ้าซื้อเป็นกิโลกรัมจะอยู่ที่ 6-7 หมื่นดอง (85-100 บาท) ซึ่งแพงกว่าเนื้อหมู จึงเลือกที่จะเลี้ยงสุนัขไว้กินเอง เฉกเช่นเดียวกับอีกหลายๆ ครอบครัว

            "สุนัขเลี้ยงง่าย เลี้ยงให้อยู่กับไก่กับแมว ปล่อยให้วิ่งเล่นในชุมชน ตามท้องถนน เวลากลางคืนสุนัขยังเป็นยามเฝ้าบ้านให้อีก ฉันว่าสุนัขเลี้ยงง่ายกว่าหมู วัว ควาย เสียอีก บางทีก็เป็นเพื่อนเล่น" วี ตี่ เจี่ยน บอกถึงวิธีการเลี้ยงสุนัขไว้บริโภค

            เมื่อถึงเวลาที่สุนัขที่เลี้ยงไว้ต้องถูกมาทำเป็นอาหาร?

            "ก็รู้สึกมีใจนะ แต่ต้องกิน มันก็เหมือนเป็ดไก่ที่เลี้ยงไว้กิน" วี ตี่ เจี่ยน บอกสั้นๆ

            เศษเสี้ยวชะตากรรมของสุนัขจาก "ลูเคียม" ตำบลเล็กๆ ของเวียดนาม บรรดาสุนัขวัยกำลังซนที่กำลังหยอกล้อกันอยู่ หรือสุนัขที่กำลังเฝ้าบ้านอย่างซื่อสัตย์ วันดีคืนดีต้องกลายเป็นอาหารมื้อเลิศของเจ้านายที่มันรักอยู่ดี!!

            แต่หากใครผ่านไปแถวเวียดนาม และอยากลิ้มลอง....ลองถามคนเวียดนามที่หน้าตาเป็นมิตรว่า "เตย เหมียน อิน ถิด จ๋อ" ท่านจะได้รับประทานเมนูเด็ดจากเนื้อสุนัขแน่นอน