หวั่นวัวควายสูญพันธ์หลังถูกกว้านซื้อส่งนอก | คมชัดลึก

       12 ก.ย.54 จากสถานการณ์ระยะหลายปีที่ผ่านมา มีกลุ่มนายอ้อยออกตระเวณกว้านซื้อวังควายเพื่อส่งขายประเทศเวียดนาม ซึ่งรับซื้อไม่นและให้ราคางาม ทำให้วัวควายในภาคอีสานเร่มเหลือน้อยลงเต็มทน ที่มีอยู่ก็โตไม่พอจะใช้งานหรือชำแหละนั้น

       ล่าสุด เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ ในเขตพื้นที่อำเภอคูเมือง จ.บุรีรัมย์   ออกมาร้องขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลตรวจสอบ  หลังมีกลุ่มพ่อค้าทั้งในและนอกพื้นที่นำรถปิคอัพและรถหอล้อ  มาตระเวนกว้านซื้อวัว ควายของเกษตรตามหมู่บ้านในราคาที่สูงกว่าปกติมานานนับเดือนแล้ว  จากปกติวัวควายที่ซื้อขายกันในหมู่บ้านสูงสุดประมาณตัวละ 10,000 บาท แต่กลุ่มพ่อค้าดังกล่าวจะให้ราคาสูงถึงตัวละ 20,000 บาท   ทำให้ชาวบ้านและเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือขายวัวควายไปเกือบหมด เนื่องเป็นราคาที่จูงใจ ทำให้หวั่นวิตกว่าโค-กระบือจะหมดไปจากพื้นที่ในไม่ช้า  หากไม่มีการยับยั้งหรือเข้ามาตรวจสอบ พร้อมเร่งให้ความรู้ชาวบ้านในการอนุรักษ์   เพราะมีกระแสข่าวว่าโค-กระบือที่กว้านซื้อถูกนำไปขายให้กับนายทุนเพื่อส่งไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปัจจุบันนี้ได้มีกลุ่มพ่อค้าดังกล่าวมาตระเวนกว้านซื้อตามหมู่บ้านและนำใส่รถบรรทุกออกไปอยู่อย่างต่อเนื่อง

       นางหลี่   ตามสีรัมย์ เกษตรกรบ้านหัวหนอง  ต.หนองขมาร อ.คูเมือง กล่าวว่า จากเดิมเกษตรกรเลี้ยงวัว ควายทุกหลังคาเรือน ปัจจุบันในหมู่บ้านเหลือเพียง 2 - 3 ครอบครัวเท่านั้นที่ยังมีวัวควายอยู่ ที่เหลือขายไปเกือบหมดแล้ว หลังจากมีพ่อค้าทั้งในและนอกพื้นที่มากว้านซื้อไปในราคาที่สูง ไม่รู้ว่าวัว ควายดังกล่าวจะถูกนำไปแปรรูป หรือส่งขายที่ใด เกรงว่าในไม่ช้าวัว ควายในหมู่บ้านก็คงจะหมดไป เนื่องจากผู้ที่มาตระเวนกว้านซื้อให้ราคาสูงจูงใจกับผู้เลี้ยง

       นายสมร ตองติดรัมย์ เกษตรกร ต.หนองขมาร กล่าวว่า แต่ละวันจะมีพ่อค้าแวะเวียนมาหว่านล้อมขอซื้อวัวที่ตนเองเลี้ยงไว้ที่เหลืออยู่ในปัจจุบันไม่ถึง 10 ตัว โดยจะให้ราคาตั้งแต่ตัวละ 6,000 บาท ไปจนถึงกว่า 20,000 บาท จากเดิมที่เคยซื้อขายกันตัวละ 3 - 5,000 บาท แพงสุดตัวละ 10,000 บาท แต่ขณะนี้มีพ่อค้ามาเสนอราคาสูงขึ้นถึงเท่าตัว จึงทำให้แปลกใจและกังวลว่าวัว ควาย ที่เกษตรกรเลี้ยงไว้จะหมดไปในไม่ช้า หากทางภาครัฐไม่มีมาตรการเข้าควบคุมดูแล หรือหาแนวทางอนุรักษ์ พร้อมทั้งมีกระแสข่าวว่าวัวควายที่ถูกซื้อไปจะนำไปส่งขายยังประเทศเพื่อนบ้านยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงมากขึ้น