ข่าว

'ยิ่งลักษณ์'เด้ง'วิเชียร'เข้าทำเนียบ

'ยิ่งลักษณ์'เด้ง'วิเชียร'เข้าทำเนียบ

20 ก.ย. 2554

“ยิ่งลักษณ์” สั่งเด้ง “วิเชียร” ไปนั่งช่วยราชการสำนักนายกฯ พร้อมตั้ง “พระนาย” นั่งเก้าอี้รักษาการปลัดมท.แทน หลังตุลานี้ดันขึ้นเป็นตัวจริง

            วันที่ 20 ก.ย. 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการมีคำสั่งให้นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทยไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีว่า "ได้ออกเป็นคำสั่งให้มาช่วยงานเรียบร้อยแล้วค่ะ"           

            ทั้งนี้ที่ห้องรับรองกระทรวงมหาดไทย  เมื่อเวลา 13.30 น. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้แถลงข่าวถึงการขอตัวนายวิเชียรไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเตรียมแต่งตั้งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการการบูรณาการแผนงานบริหารจัดการน้ำ ขณะเดียวกันก็แต่งตั้งนายพระนาย สุวรรณรัฐ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย

            โดยนายยงยุทธ กล่าวว่า การแต่งตั้งในครั้งนี้ยังไม่มีเป็นวาระเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องของตนกับนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีออกคำสั่งให้นายวิเชียร ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. ซึ่งตนได้ลงนามแต่งตั้งนายพระนาย เป็นรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย  อย่างไรก็ดีนายพระนาย ที่ได้รับการแต่งตั้งเพราะมีคุณสมบัติแรกคืออาวุโสสูงสุด มีความเหมาะสม มีประสบการณ์ในกระทรวงมหาดไทย ทำงานมานาน  ซึ่งการแต่งตั้งเป็นไปตามระบบคุณธรรม ถ้าดูเรื่องการโยกย้ายในกระทรวงมหาดไทย ถือว่า สื่อรับได้ ไม่ใช้คำถามแรง และนายวิเชียรเองยืนยันว่า มีความสุข เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่ตนก็พยายามรักษาบรรยากาศในการทำงานมหาดไทย จึงคิดว่า ทำได้

            “ผมไม่อยากปรับอะไร เพราะปัญหาน้ำท่วมยังวิกฤต จะเอาเรื่องแต่งตั้งมาสำคัญกว่า ดูว่าจะไม่สนใจประชาชน ถ้าไม่ติดว่า ผู้บริหารระดับสูงเกษียณหลายคน ต้องสรรหาใหม่  ต้องให้เรื่องน้ำท่วมมาก่อน  ขณะนี้ นายพระนาย เป็นรักษาการปลัดกระทรวง แต่ต่อไป เมื่อถึงเวลาก็จะเสนอแต่งตั้งนายวิเชียรจากกระทรวงมหาดไทยมาที่สำนักนายกรัฐมนตรี เสนอแต่งตั้งนายพระนายเป็นปลัดกระทรวงแทนแล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป   ซึ่งก็คงชัดเจนแล้วว่า นายพระนายจะมาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ต้องรีบแต่งตั้ง เพราะถ้าส่วนหัวไม่ขยับ ทำให้กระบวนการล่าช้าไปหมด ในวันที่ 30 ก.ย.นี้จะมีข้าราชการระดับสูงเกษียณหลายคน ถ้าส่วนที่เป็นปลัดกระทรวงยังไม่ชัดเจน จะพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายไม่ได้”  นายยงยุทธกล่าว และว่า

            ในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งต่อไปจะพิจารณารองปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าฯ ที่เป็นระดับ 10 ส่วนรองผู้ว่าฯ ที่เป็นระดับ 9 จะขึ้นมาเป็นระดับ 10 คงต้องรอการสอบหรือสรรหา ซึ่งอาจใช้เวลา 3 สัปดาห์หรือจะทำพร้อมกันเป็นพวงใหญ่ก็เป็นได้ ต้องรอดูว่าจะทำอย่างไร เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายประจำ ต้องปรึกษานายพระนายก่อน ซึ่งไม่แน่ใจว่า จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าได้หรือไม่  ส่วนที่ว่า นายพระนายเหมาะกว่านายวิเชียรในการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายหรือไม่นั้น มันเป็นเรื่องความเหมาะสมของคนแต่ละยุค เหมือนแต่ละฤดูคนก็แต่งตัวต่างกัน มันไม่ใช่เสื้อผ้าไม่ดี แต่ไม่เหมาะกับฤดู และการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งอื่นๆ ที่มีการมองว่า จะมีการล้างบางข้าราชการนั้น ถ้าสื่อเห็นว่า การสับเปลี่ยนนายพระนายกับนายวิเชียรดูดี ใช้ได้ ตำแหน่งอื่นๆ ก็ต้องใช้ได้เช่นกัน ถ้าใช้ไม่ได้สื่อก็มีความเห็นมา

            นายยงยุทธ ยังกล่าวถึงตำแหน่งใหม่ของนายวิเชียร ชวลิตว่า เป็นคณะกรรมการการบูรณาการแผนงานบริหารจัดการน้ำ เป็นคณะกรรมการที่มีโครงสร้างใหญ่โต ซึ่งมีตนเป็นประธาน โดยจะขอให้นายวิเชียรเป็นทั้งหัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการ และเลขาธิการทำหน้าที่ประสานงานทุกกระทรวงในการบริหารจัดการลุ่มน้ำ ดำเนินการด้านโครงการพระราชดำริ บูรณาการด้านน้ำทั้งหมดไม่ว่า น้ำท่วม น้ำแล้ง ระบบเตือนภัย ทำงานเกี่ยวกับทั้ง 25 ลุ่มน้ำ โดยข้อยุติเกี่ยวกับลุ่มน้ำทั้งหมดจะอยู่ที่คณะกรรมการนี้ เป็นหน่วยงานที่ตั้งใหม่ ซึ่งคงไม่มีภาระค่าใช้จ่ายมาก คณะกรรมการนี้ถือเป็นงานสำคัญ นายวิเชียรจะได้ไปทำงานเร็วที่สุด และจะได้มีอำนาจเต็ม

            เมื่อถามว่า ถ้าการแต่งตั้งถูกมองว่า แก้แค้นไม่แก้ไข จะเป็นอย่างไร นายยงยุทธ กล่าวว่า ถ้าคิดสร้างสรรค์ก็อย่าง ไม่สร้างสรรค์ก็อย่าง เรามีบุคลการที่เป็นคนดี นายวิเชียรก็มีความสามารถ แต่เมื่อมีความจำเป็นก็ต้องใช้บุคลการที่มีอยู่ให้คุ้ม ถ้าจะแก้แค้น นายวิเชียรก็คงต้องต่อสู้เพราะไม่เป็นธรรม และคิดว่า นายวิเชียรคงไม่ร้องเรียนคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ( ก.พ.ค.) เพราะท่านก็บอกว่าอย่างนั้น บอกว่า ยังรักและเคารพตนอยู่

            เมื่อถามว่า นายวิเชียรยังเหลืออายุราชการ 4 ปี แต่นายพระนายเหลือ 1 ปี มีโอกาสที่นายวิเชียรจะได้กลับมาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ตนคุยกับนายวิเชียรว่า นายพระนายเหลืออายุราชการปีเดียว นายวิเชียรก็มีเวลาสร้างชื่อ สร้างผลงานอีกมาก เหมือนกับนายวิเชียรได้ออกข้าง ไม่ใช่ถอยหลัง ไปตั้งหลักทำงานที่สำคัญมากขึ้น ได้ทำผลงาน นายกรัฐมนตรีก็บอกว่า จะส่งเสริม ให้กำลังใจคนทำงาน จะได้กลับมาที่เดิมหรือไม่ก็เป็นเรื่องของวันข้างหน้า  แต่ไม่ได้มีสัญญาใจว่า จะได้กลับ นายกรัฐมนตรีก็ขอให้นายวิเชียรตั้งใจทำงาน จากนั้นตนจะประเมินผลร่วมกับนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ให้ความหวัง แต่ประเมินผลงานตามปรกติ  ทั้งนี้ตนไม่ได้คาดหวังอะไรกับการทำงานของนายพระนาย เพราะคนที่เติบโตได้ขนาดนี้ ไม่ต้องหวัง มีแต่ความเชื่อมั่น เหมือนตนก็เชื่อมั่นว่า นายวิเชียรจะทำงานได้แน่ๆ

            ทั้งนี้ภายหลังการแถลงข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวไปสอบถามเพิ่มเติมว่า นายพระนาย มีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหลืออายุราชการเพียงแค่ 1 ปี นายยงยุทธ กล่าวว่า “ ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น ท่านเป็นอาวุโสลำดับ 1 ก็มีความเหมาะสม ถ้าจะว่า อย่างตนก็เป็นคนที่เคยเป็นอดีตปลัดกระทรวง เหลืออายุราชการ 7 เดือนแล้วก็เป็นปลัด ”

             ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เดิมมีการแจ้งข่าวไปยังสื่อมวลชนว่า นายพระนายและนายวิเชียรจะร่วมนั่งแถลงข่าวด้วย แต่นายยงยุทธกลับมาแถลงข่าวคนเดียว โดยเมื่อสอบถาม นายยงยุทธ กล่าวว่า ไม่ได้มีสาเหตุมาจากอะไร แต่เพื่อความสบายใจของทั้งสองท่าน มันเป็นเหตุผลส่วนตัว ต้องเข้าใจว่า เรื่องคนจะไปคนจะมา คงไม่อยากนั่งยิ้มเผชิญหน้ากัน แต่ไม่ใช่เรื่องความไม่พอใจ เป็นเรื่องของบรรยากาศ

            เมือผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์นายพระนาย  ก็ได้รับแจ้งว่า นายพระนายยังไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ ขณะที่นายวิเชียร ติดภารกิจประชุมบอร์ดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่มีการแต่งตั้งนายพระนายเป็นรักษาการปลัดกระทรวง เนื่องจากที่สำนักนายกรัฐมนตรี ยังไม่มีอัตราตำแหน่งว่างในระดับซี 11 ทั้งนี้ในวันที่ 1 ต.ค.ตำแหน่งระดับ 11 จะเกษียณ 3 คน จากนั้น จึงจะสามารถดำเนินการแต่งตั้งทั้งนายพระนายและนายวิเชียรให้เข้าสู่ตำแหน่งที่แท้จริงได้