ข่าว

ชี้ผู้นำสตรีอุษาคเนย์ล้วนตระกูลหนุน

ชี้ผู้นำสตรีอุษาคเนย์ล้วนตระกูลหนุน

23 ก.ย. 2554

เสวนาผู้นำสตรีในอุษาคเนย์ระบุผู้นำหญิงในภูมิภาคนี้มาจากครอบครัวที่เคยครองอำนาจ ก้าวเข้ามาในวิกฤตการเมืองด้วยเพศสภาพ ฟันธง "ยิ่งลักษณ์" ยังมีโอกาสเป็นนายกฯต่อ

            ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 ก.ย.2554 มีจัดการเสวนาอุษาคเนย์เสวนาสาธารณะ เรื่อง "ผู้นำสตรีในอุษาคเนย์" ณ ห้องประกอบ หุตะสิงห์  อาคารอเนกประสงค์ ชั้นสาม  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์  กทม. ดำเนินรายการโดยนายชาญวิทย์ เกษตรศิริ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์   และนางสาวสุภัตรา  ภูมิประภาส  นำการอภิปราย    โดยมีนายคริส เบเกอร์   นักวิชาการด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เสวนาในประเด็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย   

             นายอัครพงษ์ ค่ำคูณ  เสวนาในประเด็นนางคอราซอน อาคีโน่ อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์  นางสาวอรอนงค์  ทิพย์พิมล เสวนาในประเด็นนางเมกาวตี ซูการ์โน บุตรี   อดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย  นายดุลยภาค  ปรีชารัชช เสวนาในประเด็นนางอองซาน ซูจี   อดีตนักโทษทางการเมืองซึ่งโดนรัฐบาลทหารพม่าจองจำในบ้านพักเป็นเวลานับสิบปี  และนายพิเชฐ  สายพันธ์  เสวนาในประเด็นเพศสภาวะ

             นายคริสกล่าวเริ่มต้นการเสวนาว่า   ตนไม่มีความรู้เกี่ยวกับน.ส.ยิ่งลักษณ์เท่าใด  แต่ตนจะขอพูดถึงผู้นำในเอเชียใต้และเอเชียอาคเนย์  โดยศรีลังกา ปากีสถาน   บังคาลเทศ  รวมทั้งอินเดียมีผู้นำหญิงที่เป็นภรรยาและลูกสาวของอดีตผู้นำประเทศนั้นๆ แต่มักจะโดนยิงตาย  ส่วนในเอเชียอาคเนย์นั้นนางอองซานซูจีเป็นลูกสาวพลเอกอองซาน อดีตประธานาธิบดี  ส่วนนางเมกาวตีก็เป็นบุตรสาวนายซูการ์โนอดีตประธานาธิบดีอินโดฯคนแรก    ส่วนนางคอราซอนนั้นเป็นภรรยาของนายเบนิกโน  อาคีโน อดีตส.ว.ฟิลิปินส์ที่เป็นตัวเก็งประธานาธิบดีแต่โดนยิงตาย  จากนั้นคือนส.ยิ่งลักษณ์ น้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่โดนรัฐประหาร  

             “ในเอเชียใต้และเอเชียอาคเนย์นั้น สตรีเก้าคนขึ้นมามีอำนาจในลักษณะเดียวกัน  หลักการคือพ่อหรือสามีหรือพี่เข้ามามีอำนาจก่อน  โดยไม่มีลูกชายขึ้นมาเป็นผู้นำต่อจากพ่อ  ในเอเชียนั้นมีอิทธิพลทางวัฒนธรรมของอินเดียมากกว่าจีน เพราะเทพเจ้าเก่าๆในพื้นเมืองอินเดียนั้น เทพที่มีอำนาจจริงๆคือเทพเจ้าหญิง เช่นเจ้าแม่กาลี  สรุปว่าการเมืองจะมีอยู่ในอำนาจของผู้ชาย แต่หากมีสิ่งรุนแรงเกิดขึ้นในประเทศนั้นๆ เช่น ผู้นำโดนยิงตายหรือเกิดการรัฐประหารจะทำให้ผู้หญิงขึ้นมามีอิทธิพลแทน   และเรื่องครอบครัวยังมีความสำคัญในเอเชียคือ การสืบทอดอำนาจ  แม้น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีประสบการณ์การเมืองแต่กลับได้รับเลือกตั้งเพียงเพราะมาจากครอบครัวการเมือง  คือมีพ่อเป็นส.ส.เชียงใหม่และพี่ชายเป็นนายกฯ  โดยพี่ชายมีบทบาทกับน้องสาวมากกว่าในฐานะพี่และพ่อ    และผมเชื่อว่านส.ยิ่งลักษณ์น่าจะมีโอกาสเป็นนายกฯอยู่ ” นายคริสกล่าว

             นายดุลยภาคกล่าวในส่วนของพม่าว่า บทบาทของนางอองซานซูจีนั้น  เธอเติบโตและทำงานในต่างประเทศ  เมื่อเธอกลับพม่าในช่วงปี1980-90นั้น เธอมีวาทศิลป์อย่างยิ่งจนคนอื่นคาดไม่ถึง  ผู้ชายในชีวิตเธอคือนายพลอองซานบิดาแห่งพม่าและผู้ก่อตั้งกองทัพพม่า ในฐานะบิดาของเธอนั้น  นายพลอองซานร่วมรบกับนายพลเนวินที่สู้กับกองทัพต่างชาติ   ช่วงที่เธอกลับมาเยี่ยมมารดาเมื่อปี1988ที่เข้ามาพัวพันกับการเมือง  เธอใช้ภาพบิดาและวาทศิลป์ของเธอที่จับใจชาวพม่า  ทำให้คณะนายทหารของนายพลซอหม่องที่มองเธอกำลังแยกนายพลอองซานออกจากกองทัพพม่า  สิ่งที่ตามมาคือกองทัพพม่าพยายามชิงภาพลักษณ์นี้กลับมา  โดยกักขังนางซูจี และลบภาพนายพลอองซาน การสร้างอนุสาวรีย์ในพม่าในช่วงนี้ย้อนกลับไปสู่กษัตริย์แทนนายพลอองซาน     และสังคมพม่านั้นนับถือนัตคือผีชั้นสูงสิบแปดตน โดยในนั้นมีนัตผู้หญิงด้วย  แต่พม่าจะไม่มีนารีเขตหรือพื้นที่ยืนของนางซูจีก็ตาม   ส่วนอนาคตของเธอจากนี้ไปนั้น แม้พม่าจะมีการเลือกตั้งคือรัฐบาลนายพลเต็ง เส่งที่พยายามพูดและปรองดองกับนางอองซาน แต่วันนี้พม่ามีคลื่นใต้น้ำแล้วคือนายทหารที่สนับสนุนนายพลเต็งเส่ง และนายทหารขั้วตรงข้ามคือสายอนุรักษ์นิยม  หากมีการปฏิวัติขึ้นอีกนางซูจีคงจะอยู่ยาก

             นางสาวสุพัตรา กล่าวว่า  ผู้นำหญิงในอาเซียนนั้นมาเร็วและมาแรงหรือเรียกว่ามาก่อนกาลก็ได้  และจะอยู่หรือไปอย่างไรนั้น  ขอย้อนกลับไปในศตวรรษที่สิบเจ็ดจากบันทึกทางการค้าของพ่อค้าชาวตะวันตกคือนครรัฐปัตตานีมีสี่กษัตริยา    โดยพระนางฮิเจาพระองค์หนึ่งไม่ได้อยู่ในเส้นทางราชบัลลังก์  แต่เมื่อพี่น้องฆ่ากันตายจึงโดนอันเชิญรับราชบัลลังก์ โดยขุนนางคิดว่าพระองค์เป็นหุ่นเชิด แต่พระองค์ก็จัดการขุนนางเหล่านั้นแบบเงียบๆ โดยมีพระน้องนางคือเจ้าหญิงบิรูคอยช่วยเหลือ  ทำให้ปัตตานีช่วงนั้นการค้ารุ่งเรืองมาก  และครองราชย์ต่อจากพระนางฮิเจา  พระนางบิรูรวบรวมสหพันธ์รัฐปัตตานีขึ้นมาได้และยังรักษาสัมพันธ์กับสยามไว้ คือดำเนินการการทูตสองด้าน   พระนางบิรูได้สั่งหล่อปืนใหญ่สามกระบอก กระบอกหนึ่งนั้นคือปืนใหญ่พญาตานี 

             ฉะนั้นบทบาทของผู้หญิงภายใต้ความนิ่งนั้นจะรู้ว่าบริหารงานอย่างไร  และอาเจ๊ะห์ก็มีผู้นำนครรัฐเป็นสตรีถึงสี่พระนางเช่นกัน   ส่วนพม่านั้นพระนางศุภยรัตน์ พระมเหสีพระเจ้าธีบอ กษัตริย์พม่าองค์สุดท้าย  พระนางคือผู้มีอำนาจตัวจริงที่ต่อสู้  ชาวต่างชาติมองพระนางว่าเป็นตัวร้าย แต่หากถามชาวพม่านั้นจะพบว่ามีความชื่นชมที่พระนางไม่จำนนกับอำนาจในการต่อสู้เพื่อชาตติ

             นายชาญวิทย์กล่าวว่า ตอนนี้จีนมีการตีความบทบาทของพระนางซูสีไทเฮาใหม่แล้วจากบทร้าย   เพราะการบันทึกประวัติศาสตร์นั้นส่วนใหญ่ผู้บันทึกจะเป็นผู้ชาย  ส่วนสตรีไทยในประวัติศาสตร์คือพระนางจามเทวีและพระนางจิรประภาของราชวงศ์เชียงใหม่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และบทบาทของสตรีในปัจจุบันนี้จะเป็นอย่างไร

             นายอัครพงษ์ กล่าวในลำดับต่อมาในประเด็นของฟิลิปปินส์ว่า นางอาคีโนเป็นลูกสาวคนรวยที่เป็นส.ว.และโดนส่งไปเรียนต่างประเทศ  จากนั้นแต่งงานกับสามีเพื่อเชื่อมสัมพันธ์การเมืองของครอบครัว  เมื่อสามีโดนยิงตาย และศาลยกฟ้องคนที่ยิงสามี ทำให้นางอาคีโนลุกขึ้นมาเล่นการเมืองตามแรงหนุนของสหรัฐฯและตามคำขอของพระคาร์ดินัลที่ปลุกเร้าว่าเธอคือพระนางแมรีที่จะมาจัดการกับซาตานคือเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส   นางอาคีโนใช้เสื้อเหลืองเป็นสัญลักษณ์สู้และมีการปรามาสว่าไม่มีประสบการณ์การเมือง โดยนางอาคีโนยอมรับและย้อนว่าไม่มีประสบการณ์โกงและทำเรื่องเลวร้าย  เมื่อได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง   มีนายทหารบางคนอยากขึ้นเป็นผู้นำ แต่ต้องยอมให้นางอาคีโนเป็นผู้นำ  โดยที่ประชาชนไม่ได้ปลื้มการทำงานของนางอาคีโนที่มีปัญหาเยอะ  สมัยนั้นมีความพยายามรัฐประหารนางอาคีโนหกครั้ง  แต่เธออยู่จนครบวาระ และไม่มีใครสนับสนุนโดยเฉพาะพระคาร์ดินัลที่บอกว่าควรให้คนอื่นขึ้นมาแทน

             จากนั้นนางอรอนงค์กล่าวถึงอินโดนีเซียว่า นางเมกาวตี  ซูการ์โนบุตรี เล่นการเมืองอายุสามสิบเก้าปี  และเป็นประธานาธิบดีเมื่ออายุห้าสิบปีเศษ    โดยพรรคพีดีไอของเธอชนะเลือกตั้งเมื่อปี1993   แต่ซูฮาร์โต  ประธานาธิบดีในตอนนั้นไม่พอใจ จนเกิดความรุนแรงในเดือนก.ค. 1996  ต่อมาสามปีพรรคนี้แตกเป็นสองส่วน เธอเปลี่ยนชื่อพรรคในส่วนของเธอเป็นพีดีไอพี และพรรคของเธอชนะเป็นอันดับหนึ่ง  แต่ผู้นำศาสนาค้านว่าไม่ควรให้ผู้หญิงเป็นผู้นำ และมอบให้คนอื่นเป็นแทน     โดยเธอยอมเป็นรองประธานาธิบดี  

             จากนั้นปี2001มีการถอดถอนนายอับดุลเราะห์มาน วาฮิด ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเพราะบทบาทที่แข็งกร้าวกับทหารและมอบให้เธอดำรงตำแหน่งแทน โดยเธออยู่ครบวาระสี่ปี  เพราะช่วงนั้นครบหนึ่งร้อยปีของอดีตประธานาธิบดีซูการ์โน และมองว่าอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต้เลวร้ายกว่า   เธอในฐานะบุตรสาวของซูการ์โนซึ่งเป็นบิดาแห่งอินโดนีเซีย  เธอเป็นผู้นำที่มีคนสนับสนุนและต่อต้านเข้มข้นสองด้าน    โดยเธอนำเสนอตัวเองคือแม่ ใช้บุคลิกพูดน้อยและนิ่ง  เวลาให้สัมภาษณ์เธอก็โดนโจมตีว่าพูดแบบมีบทเท่านั้น หากถามนอกบทก็จะตอบไม่ได้   และเธอโดนสื่อมวลชนโจมตีรุนแรง  ตอนนั้นเธอโดนท้าทายหลายด้าน คือทหารสนับสนุนเธอ ปัญหาการแบ่งแยกดินแดน ปัญหาเศรษฐกิจ   ปัญหาการทุจริต  ปัญหาเรียกร้องให้รัฐบาลลดบทบาทของทหาร  รวมทั้งปัญหาความสัมพันธ์กับชาติตะวันตกที่สนับสนุนการก่อการร้าย  แม้ตอนหลังเธอแพ้เลือกตั้งสองครั้ง  แต่เธอยังเสนอตัวลงแข่งขันอีกในปี2014เพราะตอนนี้คะแนนนิยมของเธอเพิ่มขึ้น

             นายพิเชฐกล่าวถึงเพศสภาวะว่า  ขอกล่าวถึงสามเรื่องคือเส้นทางทางการเมืองที่ทำให้เกิดผู้นำสตรีคือวิกฤตการเมืองที่เกิดก่อนทำให้เกิดภาวะผู้นำสตรีและเกิดผลกระทบกับครอบครัวของพวกเธอเหล่านี้       พวกเธอผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยแสดงว่าประชาชนยอมรับ  โดยพวกเธอเกิดขึ้นมาทางการเมืองเพราะความผูกพันทางครอบครัว  คือเป็นภรรยา แม่ น้องสาวของอดีตผู้นำ         

             จากนั้นคือพื้นฐานทางสังคมที่ทำให้เกิดเพศสภาวะคือ พวกเธอเป็นชนชั้นสูงหรือตระกูลผู้นำในสังคมนั้นๆ     อีกทั้งระบบศาสนาทุกสังคมข้างต้นจะไม่อยู่ในศาสนาเดียวกันเลย เพราะมีศาสนาอิสลามที่มีแรงต้านกับสตรี   คริสต์ที่สนับสนุนนางอาคีโน  พุทธที่สนับสนุนนางซูจี  รวมทั้งระบบครอบครัว เครือญาติและวงศ์วาน   เพราะในอดีตนั้นท้องถิ่นต่างๆปกครองด้วยสตรีในภูมิภาคนี้ที่สืบตระกูลทางมารดา จากนั้นเปลี่ยนไปเป็นชายเพราะอิทธิพลจากอินเดีย  

             "มันเกิดขึ้นและส่งผลให้ภาวะผู้นำสตรีเกิดขึ้นและยอมรับ โดยความเป็นหญิงนั้นเป็นคุณสมบัติสำคัญที่นำมาใช้แก้ไขในภาวะวิกฤตของบ้านเมือง   เพราะวิกฤตสะท้อนอธรรมในสังคม ผู้หญิงเป็นภาพตัวแทนความบริสุทธิ์ที่เข้ามาชำระล้างความสกปรกทางการเมืองของผู้ชายที่โดนภาพควบคุมจากทหาร ผู้หญิงจึงเข้ามาประนีประนอม  ฉะนั้นอนาคตของไทยนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้มาก่อนกาลและมาก่อนหน้านี้แล้ว  โดยมีบทบาทฟื้นฟูประชาธิปไตย  มันจะเป็นภาพที่สังคมไทยจะได้พบเห็น" นายพิเชษฐ กล่าว