ปรับสูตรค่าหมูเหลือเฉลี่ย116-124บ./กก. | คมชัดลึก

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สมาคมผู้ค้าชำแหละสุกรและผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย ที่ประชุมยอมรับว่า สาเหตุที่ทำให้เนื้อหมูมีราคาแพง เนื่องจากเป็นช่วงฤดูร้อนส่งผลให้หมูโตช้า ส่วนการบริโภคหมูปีนี้ลดลงเหลือประมาณ 11.3 ล้านตัว จากเดิมปีละ 12-13 ล้านตัว อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภค จึงเห็นร่วมกันที่จะปรับสูตรการคำนวณราคาหมูใหม่ รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์จะขอความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าและตลาดสด รวมทั้งผู้ประกอบการจำหน่ายหมูตามโครงการธงฟ้า โดยจะนำหมูราคาถูกประมาณ 70-80 บาทต่อกิโลกรัม ไปจำหน่าย

 สำหรับสูตรคำนวณราคาหมูเดิมนั้นคือ คูณ 2 บวก 2 เช่น หากราคาหมูหน้าฟาร์มอยู่ที่ 62 บาทต่อกิโลกรัม คูณ 2 จะเท่ากับ 122 บาท แล้วบวก 2 เท่ากับราคาหมูหน้าเขียงจะเฉลี่ยอยู่ที่ 124-126 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเมื่อมีการกำหนดโครงสร้างราคาสุกรใหม่ ราคาหมูมีชีวิตอยู่ที่ 61-65 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อส่งไปยังสมาคมชำแหละจะบวกการดำเนินการต่างๆ 10% ทำให้หมูชำแหละอยู่ที่ 70-80 บาทต่อกิโลกรัม และจะส่งไปยังเขียงตามตลาดสดต่างๆ จะบวกกับการดำเนินการอีก 7% ทำให้ราคาหมูหน้าเขียงราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 116-124 บาทต่อกิโลกรัม

 "การกำหนดราคาใหม่นี้ ทางสมาคมจะไปชี้แจงกับสมาชิกทั่วประเทศ โดยกรมการค้าภายในจะไม่ใช้มาตรการบังคับ แต่จะให้เป็นไปตามกลไกตลาด แม้ว่าราคาหมูจะเป็นสินค้าควบคุม และเชื่อว่าราคาดังกล่าวผู้บริโภคยอมรับได้ ซึ่งขณะนี้ราคาหมูในตลาด มีราคาเฉลี่ย 120-130 บาทต่อกิโลกรัม" อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าว

 นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า เอกชนจะพยายามตรึงราคาหมูหน้าฟาร์มอยู่ที่ 61-65 บาทต่อกิโลกรัม ไว้ให้นานที่สุด เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ซึ่งในสัปดาห์นี้ จะยื่นหนังสือไปยังหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำเนินการออกประกาศห้ามนำเข้าสุกรและเครื่องในจากต่างประเทศ เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากสุกรต่างประเทศมาระบาดในประเทศไทย โดยแต่ละปีไทยนำเข้าเครื่องในสุกรประมาณ 1.4 หมื่นตัน และเชื่อว่าหากทุกอย่างสามารถควบคุมได้ ราคาสุกรในประเทศจะกลับสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้