เปิดแผน'วัดพนัญเชิง'เอาอยู่ด้วยปัญญา | คมชัดลึก

          ท่ามกลางพิบัติภัยน้ำท่วมสร้างความเสียหายมหาศาลในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่น่าเชื่อว่า "วัดพนัญเชิงวรวิหาร" พระอารามหลวงชั้นโท สมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา สามารถรอดพ้นวิกฤติมหาอุทกภัยครั้งนี้
   
         "เราติดตามสถานการณ์น้ำตลอดเวลา ตั้งแต่เริ่มท่วมภาคเหนือเมื่อเดือนสิงหาคม และวางแผนป้องกัน โดยเสริมแนวถุงทรายให้แข็งแรง เพราะวัดพนัญเชิงตั้งอยู่บนพื้นที่ยื่นเข้าไปในแม่น้ำ บริเวณแม่น้ำป่าสักกับแม่น้ำเจ้าพระยาไหลมาบรรจบกัน กระแสน้ำจึงไหลเชี่ยวกราก ที่สำคัญตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจตระเวนชายแดน กว่า 300 นาย ช่วยดูแลพื้นที่ด้วย" พระมหาเชิดชัย กตปุญโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิง เล่าถึงแนวทางการรับมือปัญหา
   
         หลักการวางแนวสกัดของวัดพนัญเชิง คือ การเข้าใจถึงเทคนิคในการวางกระสอบทรายเพื่อให้เป็นพนังกั้นน้ำ โดยทำแนวกั้นน้ำกว้าง 3-5 เมตร สูง 5 เมตร แนวถุงทราย 600 เมตร ใช้ทราย 4 แสนถุง บรรจุทรายไม่แน่นจนเกินไป ไม่มัดปากถุง แค่พับปากถุงไว้เท่านั้น จากนั้นเรียงให้เป็นระเบียบให้แน่น และนำผ้าใบปิดในช่วงที่น้ำท่วมถึงเพื่อป้องกันการกระแทกของน้ำ จากนั้นใช้เสาเข็มและดินเสริมด้านหลังอีกชั้นหนึ่งเป็นการค้ำยัน
   
         "ทางวัดไม่มีเทคนิคอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่การเรียงกระสอบทราย เราจะให้พระ เณร ชาวบ้านที่เข้าใจการเรียงมาเรียง เพราะหลายคนมีประสบการณ์และความเข้าใจการกรอกกระสอบทรายการเรียงอย่างดี จะเห็นว่าจนถึงขณะนี้พนังกั้นน้ำยังรับน้ำไว้ได้ และที่ซึมเข้ามาบ้างก็สูบออก ทำให้ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ก่อให้เกิดผลกระทบต่อวัดในระดับที่เบาบางมาก ส่วนการทำพนังกั้นน้ำใช้งบประมาณ 6 ล้านบาท” พระมหาเชิดชัย กล่าว
   
         พระราชรัตนวรากรณ์ เจ้าคณะจังหวัด ในฐานะเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิง เล่าว่า จากประสบการณ์เมื่อปี 2538 วัดถูกน้ำท่วมขังถึง 4 เดือน เสียหายกว่า 20 ล้านบาท แม้ปีนี้ทางวัดจะรับมือสถานการณ์เอาไว้ได้ แต่อนาคตจะทำเขื่อนถาวรปกป้องวัด เพราะสถานการณ์อาจรุนแรงขึ้น เชื่อว่าจากนี้ไปอยุธยาน้ำจะท่วมทุกปี
   
         "ปีนี้น้ำท่วมมาก เพราะว่าในอดีตเวลาระบายน้ำลงทุ่งได้ แต่ตอนนี้ทุ่งกลายเป็นโรงงาน หมู่บ้านจัดสรร ดังนั้นเราต้องรักษาวัดพนัญเชิง ถ้าน้ำไม่ท่วม เราก็ช่วยวัดอื่น ช่วยญาติโยมที่เดือดร้อนได้ ช่วงที่ประสบภัยน้ำท่วมในแต่ละวัน วัดจะประกอบอาหารลงเรือไปแจกจ่ายพระภิกษุ สามเณร และญาติโยมจำนวนมาก" พระราชรัตนวรากรณ์กล่าว
   
         แนวทางข้างต้นที่เกิดขึ้นจากการตื่นตัวต่อการรับมือ รวมไปถึงการเสียสละของชุมชนโดยรอบ ทำให้วัดพนัญเชิงวรวิหาร ยังคงเป็นศูนย์รวมใจที่สำคัญ ทั้งยังทำหน้าที่ในการช่วยวัดช่วยชุมชนที่ประสบภัยให้ผ่านพ้นความเดือดร้อนเฉพาะหน้า สะท้อนว่า การตระหนักและเตรียมพร้อม รวมถึงการเสียสละ คือทางออกของการที่จะรักษาพื้นที่ที่มีคุณค่าให้พ้นภัย