
คลื่นยักษ์ลามถล่มเมืองคอนตะลุมพุกหนัก
คลื่นยักษ์ลามถล่มชายฝั่งนครศรีธรรมราชหนักอพยพชาวท่าศาลา ผู้ว่าฯชุมพร เผยเกิดเหตุคลื่นซัด 3 อำเภอ ฝั่งประจวบฯคลื่นสูง 2-4 เมตรรอบ 60 ปี ถล่มตั้งแต่หัวหิน-ปราณบุรี ถึงบางสะพาน ถนนเลียบชายฝั่งขาด ต้นไม้ล้ม ต้องปิดจราจรบางช่วง
วันที่ 25 ธ.ค.54 ได้เกิดมรสุมรุนแรงพัดกระหน่ำตลอดแนวชายฝั่งทะเลของจังหวัดนครศรีธรรมราช ทะเลหนุนสูง ส่งผลให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะใน ม.6 บ้านสระบัว ม.3 บ้านในถุ้ง และบ้านบางใบไม้ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา คลื่นสูงได้พัดเข้าท่วมบ้านเรือนหลายหลังคาเรือนโดยเฉพาะชุมชนบางใบ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ ต้องระดมกำลังเข้าให้การช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของมีค่าต่างๆ ออกมาอาศัยในที่ปลอดภัยไว้ก่อนเนื่องจากคลื่นได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างน่ากลัวกว่าทุกครั้ง
ขณะที่ชุมชนบ้านแหลม ม.2 และ ม.3 ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง คลื่นได้ซัดเข้าถล่มอย่างรุนแรงกว่าทุกครั้ง ขณะที่ถนนสายปากพนัง-หัวไทร น้ำทะเลเข้าท่วมหลายจุด ล่าสุดนั้นนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน
เรือเฟอร์รี่สุราษฎร์ธานีเลื่อนเวลาข้ามเกาะ
สภาพอากาศที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีฝนตกหนักบางพื้นที่ตั้งแต่เช้า ส่วนในท้องทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2-4 เมตร โดยที่นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.สุราษฎร์ธานี ระบุว่า ได้ประกาศย้ำเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรือประมงงดออกจากฝั่งในช่วงนี้อย่างเด็ดขาด โดยชาวประมงส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนั้นเรือโดยสารข้ามฟากขนาดเล็กงดเดินทางข้ามฟากในช่วงนี้เช่นกัน
นอกจากนั้น ขอให้ประชาชนที่อาศัยตามแนวชายฝั่งทะเลโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น บริเวณบ้านพอด ม.1 ต.ดอนสัก ซึ่งบ้านเรือนบางส่วนอยู่ริมทะเล ได้เฝ้าระวังเช่นกัน เนื่องจากบางช่วงมีคลื่นลมแรงจัดมากและกัดเซาะชายฝั่งทุกปีเป็นบริเวณกว้าง รวมถึงเรือโดยสารข้ามฟากไปเกาะสมุย และเกาะพะงัน โดยเฉพาะเรือเฟอร์รี่ในบางเที่ยวได้เลื่อนเวลาออกไปเพื่อความปลอดภัย
คลื่นยักษ์สูง4ม.ถล่มชุมพร3อำเภอ
นายพินิจ เจริญพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า เกิดเหตุคลื่นซัดบ้านเรือนประชาชน ริมที่พักอาศัยอยู่ริมน้ำ พัดถล่มหมู่บ้านหัวแหลม หมู่ 12 ต.บางมะพร้าว 45 ครัวเรือน ต.บางน้ำจืด 17 ครัวเรือน และ ต.ปากน้ำหลังสวน 1 ครัวเรือน อ.หลังสวน จ.ชุมพร พังหลายหลัง มีคลื่นลมแรงสูงประมาณ 3-4 เมตร โดยได้มีการสั่งการให้อพยพประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนใน ต.บางมะพร้าว เนื่องจากเกรงว่าน้ำจะสูงขึ้น ส่วนการอพยพประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ใน ต.บางน้ำจืด และ ต.ปากน้ำ ยังไม่ได้สั่งการให้อพยพ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่ที่เกาะพิทักษ์นั้น ขณะนี้ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เกิดขึ้นยังไม่มีรายงานประชาชนบาดเจ็บหรือ เสียชีวิตแต่อย่างใด
ทั้งนี้เมื่อเวลา 15.00 น. เกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าสู่ชายฝั่งในหลายพื้นที่ของ จ.ชุมพร ทั้งในพื้นที่ ต.สะพลี อ.ปะทิว ต.นาชะอัง ต.ท่ายาง อ.เมืองชุมพร ต.ปากตะโก อ.ทุ่งตะโก และ ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จึงตระเวนเดินทางไปตรวจสอบ พบถนนเลียบหาดทุ่งวัวแล่น ต.สะพลี อ.ปะทิว มีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขวางถนนเป็นระยะ ส่วนคลื่นขนาดใหญ่ก็ซัดเข้ามาจนถึงถนนสายดังกล่าว
อ.เมืองชุมพรที่บ้านบางตุ่ม หมู่ 11 และ บ้านคอสน หมู่ 8 ต.ท่ายาง ถนนเลียบทะเลถูกคลื่นซัดได้รับความเสียหายหลายจุด มีขยะในทะเลถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัดขึ้นมาบนถนนเต็มไปหมด ทำให้รถที่ผ่านเส้นทางดังกล่าวเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่วนที่บ้านร่องน้อย หมู่ 10 ต.ท่ายาง ร้านอาหาร “ชบาเล” ที่ตั้งอยู่ริมหาด น้ำทะเลได้ไหลบ่าเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงเช้ามืด จนทำให้ทรัพย์สินในร้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ใกล้เคียงประมาณ 40 หลังคาเรือนถูกน้ำทะเลไหลบ่าเข้าท่วมจนชาวบ้านต้องช่วยกันขนย้ายสิ่งของหนีน้ำกันชุลมุนวุ่นวาย ส่วนในพื้นที่หมู่ 7 ต.หาดทรายรี คลื่นขนาดใหญ่ได้ซัดทำลายพนังกันคลื่นได้รับความเสียหายเป็นระยะทางประมาณ 150 เมตร
อ.ทุ่งตะโก นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอทุ่งตะโก เปิดเผยว่า มีคลื่นซัดขนาดใหญ่ซัดเข้าฝั่ง และน้ำทะเลไหลบ่าเข้าท่วมบ้านชาวประมงในพื้นที่ ต.ปากตะโก หมู่ที่ 3 จำนวน 4 หลังคาเรือน และหมู่ที่ 5 จำนวน 35 หลังคาเรือน.ทุ่งตะโก และ เทศบาลตำบลปากตะโก จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของราษฎร และทำเพิงที่พักชั่วคราวริมถนนให้ผู้ประสบภัย ส่วนในพื้นที่หมู่ 1 ต.ปากตะโก ศาลกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ที่ตั้งอยู่ริมหาด ถูกคลื่นซัดได้รับความเสียหาย
อ.หลังสวน ในพื้นที่บ้านหัวแหลม หมู่ 12 ต.บางมะพร้าว ได้เกิดคลื่นขนาดใหญ่สูงประมาณ 4 เมตร ซัดเข้าบ้านเรือนของราษฎรประมาณ 200 หลังคาเรือน นายปรีชา สุวีรานุวัฒน์ กำนัน ต.บางมะพร้าว จึงระดมกำลังอาสาสมัครออกช่วยเหลืออพยพราษฎรที่ประสบภัยไปอยู่ในที่ปลอดภัย ซึ่ง นายอภิญญา คนดี ปลัดอาวุโส รักษาการแทนนายอำเภอหลังสวน ได้มีคำสั่งให้อพยพผู้ประสบภัยไปยังวัดแหลมโตนด ซึ่งเป็นจุดปลอดภัย ส่วนชาวประมงพื้นบ้านบนเกาะพิทักษ์ หมู่ที่ 14 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน ที่นำเรือออกจับปลายังไม่สามารถติดต่อได้
กระหน่ำชายหาดประจวบฯตลอดแนว220ก.ม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา ได้เกิดคลื่นสูงกว่า 2-4 เมตร พัดกระหน่ำชายฝั่งทะเลตั้งแต่ อ.หัวหิน อ.ปราณบุรี อ.สามร้อยยอด อ.เมือง อ.ทับสะแก อ.บางสะพาน และอ.บางสะพานน้อย ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้ร้านอาหารบางแห่งได้รับความเสียหาย ส่วนนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติ และชาวไทยแห่ดูปรากฏการณ์คลื่นซัดฝั่ง แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะลงไปเล่นน้ำทะเลแต่อย่างใด
นางโสมประภา โมระกานต์ ประธานชมรมร้านค้าชายหาดหัวหิน กล่าวว่าจุดบริเวณชายหาดหัวหินตั้งแต่โรงแรมฮิลตัล-โรงแรมโซฟิเทลฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งร้านค้า 22 ร้านที่ตั้งอยู่บนชายหาดหัวหิน ก็ได้รับความเสียหายจากคลื่นซัดกระหน่ำชายฝั่ง ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาถึงแม้ผู้ประกอบการจะเก็บเต้นท์ ร่มผ้าใบ เตียงผ้าใบ และข้าวของเครื่องใช้มาไว้บริเวณติดกำแพง แต่ก็ยังได้รับความเสียหายเนื่องจากปีนี้คลื่นสูงและลมยังแรง เรียกว่าในรอบหลาย 10 ปีครั้งนี้เห็นแล้วรู้สึกหน้ากลัว
ต้องออกประกาศให้ผู้ประกอบการช่วยกันอพยพข้าวของทั้งหมด ขึ้นไปไว้ด้านบานถนนทางลงทะเลเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน เพราะจากที่ได้สอบถามทางสถานีตรวจอากาศ ที่หัวหินก็ทราบว่าพรุ่งนี้จะมีสภาพแบบนี้หรืออาจหนักกว่านี้ในช่วง2-3 วัน ดังนั้นคงต้องป้องกันไว้ก่อน ที่จะได้รับผลกระทบเสียหายทั้งหมด และในขณะนี้ช่วงบ่ายคลื่นก็ยังคงโถมซัดชายฝั่งอยู่ ซึ่งร้านค้าทั้งหมดริมชายหาดหัวหินตอนนี้ต้องหยุดขายไปจนกว่าคลื่นจะสงบ และช่วงนี้นักท่องเที่ยวก็ไม่ควรลงเล่นน้ำทะเล เนื่องจากคลื่นและลมแรงมากเพื่อความปลอดภัย
นอกจากนั้นนายวันชาติ เอี่ยมอุดม อายุ 62 ปีชาวประมงหัวหิน กล่าวว่าโชคดีที่ชาวประมงเรือเล็ก พากันมาจอดเรือหลบมรสุมอยู่ที่สะพานปลาหัวหิน หลังแนวกันคลื่นภายหลังทราบประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ออกประกาศเตือนและส่วนหนึ่งชาวประมงก็พากันมานั่งเฝ้าเรือที่จอดหลบมรสุมตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ปีนี้คลื่นสูงในรอบ 50 ปีก็ว่าได้ตั้งแต่ครั้งพายุเกย์ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นแบบวันนี้เลย รู้สึกว่าน่ากลัวมากล่าสุดเรือประมงเล็กของชาวบ้านแตกไป 3 ลำในขณะนี้ ยิ่งพรุ่งนี้ยิ่งต้องคอยดูอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นน้ำทะเลที่มากับแรงลมก็พัดขึ้นมาเหมือนลักษณะน้ำทะเลจะมีปริมาณมากเช่นกัน ตอนนี้คงไม่มีชาวเรือที่ไหนออกจากฝั่งอย่างแน่
นายจิระภัทร พูลเสม ชาวบ้านในหมู่บ้านเขาตะเกียบ เล่าว่าน้ำยกตัวขึ้นสูง มากผิดปกติจนทำให้น้ำให้น้ำทะเลไหลเข้าท่วม บ้านเขาตะเกียบ สูงประมาณ 10-30เซนติเมตร ซึ่งทั้งชาวบ้านและชาวประมงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คลื่นแรงมาก และมีความถี่ของลูกคลื่น ทำให้เกิดความรุนแรงเวลากระทบเข้าสู่ฝั่ง ทำให้ร้านค้า บ้านเรือนเสียหายดังกล่าว ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนเกิดพายุรินดา ซึ่งมีความรุนแรงแล้ว แต่คลื่นยังไม่มีความถี่มากเท่าครั้งนี้ ผมว่าปัญหามันน่าจะเกิดจากอากาศแปรปรวน ปกติช่วงนี้หัวหินจะไม่มีพายุคลื่นลมแรงแบบนี้มาก่อนในช่วงเดือนนี้ และที่สำคัญน้ำทะเลไม่เคยยกตัวขึ้นสูงจนท่วมหมู่บ้านเขาตะเกียบมานานหลายสิบปีมาแล้วแต่วันนี้มันเข้าท่วมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ขณะเดียวกันบริเวณชายหาดสามร้อยยอด บ้านหนองข้าวเหนียว หมู่ที่ 2 ต.สามร้อยยอด อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถนนเลียบชายหาด ถูกน้ำทะเลท่วม ระยะทาง กว่า 5 กิโลเมตร ถนนบ้างช่วงถูกคลื่นกัดเซาะจนขาด บางช่วงทั้งทราย ทั้งก้อนหินพัดขึ้นมาบนถนน ต้นไม้ล้ม จนเจ้าหน้าทั้งฝ่ายปกครอง อบต.ต้องนำแผงกันมาปิดไม่ให้รถยนต์สัญจรผ่านไป บ้านเรือนประชาชน ร้านอาหาร รีสอร์ท ที่อยู่ที่ติดชายทะเล ถูกน้ำทะเลเข้าท่วม จนข้าวของเสียหายเป็นจำนวนมาก
ส่วนนางกฤษณา อยู่จันทร์ อายุ 56 ปี เจ้าของร้านอาหารจิ๋มแดง เล่าให้ฟังว่าเกิดคลื่นลมแรงพัดเข้าฝั่งตั้งแต่เวลา 07.30 น.ตอนแรกคิดว่าคลื่นคงไม่แรงมากนัก แต่ไม่นานคลื่นได้โถมขึ้นมาบนฝั่ง น้ำทะเลไหลเข้าท่วมร้านของตน ข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย คลื่นสูงขณะนี้เกิดมาไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่รู้ว่าทะเลจะสงบเมื่อไร ยิ่งช่วงนี้ฤดูมรสุมไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวทะเลขาดรายได้ ต้องมาได้รับความเสียซ้ำเติมเข้าไปอีก
นายฟ้อน ยางน้อย อายุ 60 ปี กล่าวว่าเกิดมายังไม่เคยพบเห็นทะเลคลื่นลมแรงขนาดนี้ คลื่นสูงน่ากลัวมาก เหตุการณ์แบบนี้ ที่สำคัญพ่อแม่ไม่เคยเล่าให้ฟัง ธรรมชาติคงจะลงโทษมนุษย์ที่ไปทำร้ายธรรมชาติมานาน จึงเกิดภัยธรรมชาติ เกิดคลื่นสีนามิ แผ่นไหว น้ำท่วม มีประชาชนล้มตายเป็นจำนนวนมาก อนาคตข้างหน้าไม่รู้ว่ารุ่นลูก หลานจะ ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่รุนแรงอย่างไรบ้าง
ด้านนายปรีดา เจริญพักตร์ เจ้าของบ้านมะพร้าวเกาะทะลุ-รีสอรท์ อ.บางสะพานน้อย กล่าวว่าขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 30-40 คนที่ลงไปดำน้ำที่เกาะทะลุ ตั้งแต่วานนี้ซึ่งพักค้างคืนอยู่ที่เกาะ ซึ่งวันนี้ทางรีสอร์ทได้แจ้งให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้าใจว่าเรือไม่สามารถนำนักท่องเที่ยวกลับเข้าฝั่งได้ โดยทุกคนก็เข้าใจและทางรีสอร์ท ได้ให้ฟรีพร้อมดูแลเรื่องอาหารจนกว่าคลื่นจะสงบและจึงค่อยน้ำนักท่องเที่ยวกลับขึ้นฝั่งต่อไป ส่วนวันนี้ต้องยกเลิกนักท่องเที่ยวทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่มาพักอยู่ตามโรงแรมในชะอำ/หัวหิน เกือบ 50 คนที่จะเดินทางมาดำน้ำดูปะการัง ว่าช่วงนี้คลื่นลมแรงเรือไม่สามารถออกได้เพื่อความปลอดภัย ส่วนบริเวณแนวชายหาดบางสะพานน้อย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาคลื่นซัดต้นสนขนาดใหญ่ไหลลงสู่ทะเล ตลอดแนว
ขณะที่ นางปิ่นนาถ เจริญผล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ และทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ได้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวให้ทราบและให้ทางโรงแรม รีสอร์ท ห้องพัก เพิ่มความระมัดระวังและไม่ควนให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลในช่วงนี้ อีกทั้งเพื่อไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก ควรอธิบายให้นักท่องเที่ยวได้ทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติเท่านั้น ซึ่งจะเป็นแบบนี้อีกประมาณ 2-3 วัน
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ขณะนี้ได้ตรวจสอบพื้นที่ชายฝั่งทะเลประจวบฯ ตลอดทั้งแนวพบส่วนใหญ่บางอำเภอบ้านเรือชาวบ้าน ร้านอาหาร รีสอร์ท บางส่วนที่ตั้งอยู่ริมชายหาด บางส่วนได้รับความเสียหาย และบางส่วน น้ำทะเลได้ไหลเข้าท่วมก็มีแต่ไม่ว่าจะเป็นแถวบ้าน เขาแดง บ้านคุ้งตโหนด อ.กุยบุรี อ.สามร้อยยอด อ.ปราณบุรี รวมไปถึงคลื่นลมทะเลได้กัดเซาะชายฝั่งบางส่วนของถนนเลียบทะเล ในพื้นที่หลายอำเภอด้วยกัน อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ที่อยู่อาศัยอยู่ริมชายหาด จ.ประจวบฯ ที่มีความยาวกว่า 220 กม. ต้องระมัดระวังและควรติดตามพยากรณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา อย่างต่อเนื่องคาดว่าอีกประมาณ 2-3 วัน ซึ่งตอนนี้ในส่วนของอำเภอหัวหิน เป็นเมืองท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวยังมาเที่ยวได้ตามปกติ แต่ควรงดลงเล่นน้ำทะเลเบื้องต้นผู้ให้ทุกอำเภอตรวจสอบความเสียหาย และส่วนไหนหากซ่อมแซมได้อย่างเข่นถนนก็ดำเนินการ หรือหากยังไม่ได้ก็หาเส้นทางสำรองให้ชาวบ้านไว้ใช้ ซึ่งทั้งนี้ทางจังหวัดประจวบฯ เรามีความพร้อมเชื่อมั่นและมีการประกาศเตือนเพื่อความปลอดภัย
เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งในช่วงบ่ายเท่าที่ตรวจพื้นที่และติดตามสถานการณ์อยู่ทั้งคลื่นลงและนำทะเลหนุนเริ่มเบาลงแล้ว แต่ร้านค้าใดที่เก็บข้าวของไว้บนชายหาดก็อยากให้นำขึ้นมาไว้บนพื้นที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหาย เพราะปีนี้คลื่นลมแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ปัตตานีน้ำทะเลหนุนสูงท่วม700กว่าครัวเรือน
บรรยากาศสภาพน้ำท่วมและน้ำทะเลหนุนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ปรากฏว่าระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานียังเอ่อล้นจากอิทธิพลน้ำทะเลหนุน และน้ำป่าไหลหลากซึ่งเป็นน้ำจากตอนบนจังหวัดยะลา เข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มและริมแม่น้ำปัตตานี ยังคงมีน้ำท่วมและระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น ใน ม.1 และ ม.2 ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง ระดับน้ำประมาณ 20-40 เซ็นต์เมตร ชาวบ้านเดือดร้อนประมาณ 700 กว่าครัวเรือน ถนนในหมู่บ้านน้ำเริ่มเอ่อท่วมแล้วชาวบ้านเริ่มขนสิ่งของภายในบ้านตั้งไว้ที่สูงอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนั้นได้เคลื่อนย้ายรถยนต์รถจักรยานยนต์ และสัตว์เลี้ยงทั้งวัว แพะ นำไปตั้งริมถนน ซึ่งเป็นที่สูง เพราะเกรงว่าระดับอาจสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและอาจขนย้ายไม่ทัน
จันทบุรีน้ำทะเลหนุนสูงลมแรงบ้านพัง15หลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา บริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลด้านจังหวัดจันทบุรี มีน้ำทะเลหนาขึ้นสูงมากกว่าปกติ ทำให้ลมที่รุนแรงพัดพาน้ำทะเล เข้าทำการกัดเซาะบริเวณอ่าวบ้านหัวแหลม หมู่ที่ 7 บ้านคุ้งวิมาน ตำบลสนามชัย อำเภอนายายอาม ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่ประกอบอาชีพชาวประมงชายฝั่งที่ปลูกสร้างอยู่ติดกับทะเล ถูกแรงปะทะของคลื่นเข้ากระแทกพื้นที่บ้านและเสาใต้ถุนบ้านได้ รับความเสียหายจำนวน 15หลังคาเรือน อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ อบต.สนามไชย ได้ออกสำรวจความเสียหายเบื้องต้น เพื่อรายงานให้ทางจังหวัดทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพบ้านเรือนหลายหลัง บริเวณอ่าวหัวแหลมหรือ อ่าวเจดีย์กลางน้ำ ได้รับได้ความเสียหายจากแรงกระแทกของน้ำทะเลที่ถูกกระแสลมแรงพัดพาน้ำทะเล จนข้าวของภายในบ้านจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลับที่นอนและเครื่องเรือนได้รับความเสียจนใช้ไม่ได้ และเป็นสิ่งที่น่าสังเกตุว่า เมื่อครั้งเกิดคลื่นสึนามิถล่มที่ภาคใต้ของบ้านเรา ก็ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมเช่นกัน
ส่วนชาวเลที่ปลูกสร้างบ้านอาศัยอยู่นานกว่า 40 ปี ระบุว่า แม้ในปีนี้บ้านเรือนจะได้รับความเสียหาย แต่ถือว่าเป็นเรื่องปกติในช่วงที่น้ำทะเลหนุนประกอบกับมีคลื่นลมแรงไม่ทำให้เกิดความตื่นตกใจแต่อย่างไร
นอกจากนี้ในพื้นที่ บ้านท่าแฉลบ ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี สภาพน้ำทะเลหนุนสูงอย่าง ทำให้ถนนสายท่าแฉลบ ช่วงสะพานคลองยายเคือง มีระดับน้ำทะเลไหลท่วมถนน รถที่สัญจรผ่านไปมาต้องได้ความเร็วให้ช้าลง เนื่องจากกลัวคราบน้ำทะเลจะสร้างความเสียหายให้กับช่วงล่างและตัวถังรถ ส่วนที่บริเวณบ้านท่าแฉลบ น้ำทะเลที่หนุนได้เอ่อเข้าท่วมเข้าไปยังบริเวณบ้านของประชาชน จำนวนนับร้อยหลังคาเรือน แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเข้ามาสำรวจความเสียหายแต่อย่างใด นอกจากนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ ได้บอกว่า ระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ระดับน้ำทะเลหนุนขึ้นสูงกว่าปกติปีละถึง5เซนติเมตร
คาดท่องเที่ยวเกาะพะงันต้นปี54คึกคัก
นางวรรณี ไทยพานิช นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผย "ผู้สื่อข่าว" ว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวของเกาะพะงันช่วงต้นปี2555 นี้ คาดหวังว่าการท่องเที่ยวน่าจะเริ่มดีขึ้น หลังภาวะเศรษฐกิจเริ่มมีการฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดี หลังจากภาวะน้ำท่วมลดลง คาดหวังว่าทำให้มีเงินหมุนเวียนเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวน่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 20 %
นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะพงัน กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเริ่มที่จะเดินทางเข้ามามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชาวอังกฤษ สแกนดิเนเวีย เยอรมัน นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่อย่างชาวออสเตรเลีย เริ่มทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเกาะพะงันมากขึ้นแม้ว่าจะน้อยกว่าปีที่แล้ว แต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าเดิม คาดว่าปี 2555นี้จะมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจท่องเที่ยวของเกาะพะงันเพิ่มมากขึ้นกว่าปี 2554 ไม่น้อยกว่า 15-20 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งปี ซึ่งปีที่ผ่านมาเกาะพะงันมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 3,500 ล้านบาท โดยปี 2555 หากไม่มีภัยธรรมชาติหรือเหตุการณ์ทางการเมืองคาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 4 พันล้านบาทเลยทีเดียว
นอกจากนั้นที่เกาะพะงันยังมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายสามารถเที่ยวได้ตลอด ไม่เฉพาะแต่ฟูลมูนปาร์ตี้เท่านั้น มีทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมายล่าสุดมีพิพิธภัณฑ์เรือหลวงพะงันที่ทางกองทัพเรือทำพิธีส่งมอบขึ้นอู่ เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีค่าทางประวัติศาสตร์สำหรับคนรุ่นหลัง และเป็นเกียรติประวัติของกองทัพเรือ นับเป็นสถานที่เรียนรู้และท่องเที่ยวของอำเภอเกาะพะงันในการรองรับนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง
ขณะที่นายภาณุ วรมิตร ผอ.ททท.สำนักงานสุราษฎร์ธานี กล่าวว่าการท่องเที่ยวของเกาะพะงันเริ่มส่อเค้าดีขึ้นและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เริ่มให้ความสนใจเกาะพะงันมากขึ้นไม่เฉพาะแต่กลุ่มยุโรปอย่างเดียว ยังมีนักท่องเที่ยวกลุ่มโซนเอเชียเริ่มให้ความสนใจมากขึ้นเพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวมีความเป็นธรรมชาติจำนวนมากที่รอการมาเยือนของกลุ่มนักท่องเที่ยว ตลอดจนมีนักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความสนใจชมการท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน